”หลิงหยวนถัง”
ที่ตั้งของหลิงหยวนถังนั้นอยู่บนถนนที่ขึ้นชื่อในด้านพิธีการจัดงานศพ ผู้ที่มาที่นี่โดยทั่วไปจะเป็นคนสามัญ หรือคนรับใช้จากตระกูลชั้นสูง
อาภรณ์ของลั่วชิงยวนนั้นค่อนข้างสะดุดตา ดังนั้นนางและแม่นมเติ้งจึงไปหาอาภรณ์ชุดใหม่เปลี่ยนเพื่อให้ดูเหมือนชาวบ้านธรรมดา ก่อนหาผ้าโปร่งมาปิดบังใบหน้าไว้
จากนั้นพวกนางก็เดินเข้าไปในร้านที่มีตุ๊กตากระดาษมากมายวางเรียงอยู่เป็นตั้ง
ตรงหัวมุมมีเก้าอี้ไม้โยกตั้งอยู่หลังกองตุ๊กตากระดาษ เสียงเก้าอี้นั้นโยกดังเอี๊ยดอ๊าด แน่นอนว่าต้องมีคนผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่
จากนั้นก็มีเสียงหม่นขรึมดังขึ้น “ท่านต้องการเพียงแวะพักชั่วคราวหรือต้องการพักค้างคืน?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็อดนิ่วหน้าไม่ได้
“ท่านหมายความเช่นไร…” แม่นมเติ้งเองก็งุนงงเพราะร้านที่พวกนางเข้ามานั้นไม่ใช่โรงเตี๊ยม
ลั่วชิวยวนจับแขนของแม่นมเติ้งก่อนยกยิ้มและเดินเข้าไปที่เก้าอี้โยก “เถ้าแก่ล้อเล่นแล้ว อยู่ในร้านจัดงานศพ แล้วจะนอนในโลงศพหรือไร?”
เสียงเก้าอี้โยกหยุดลงทันที
อากาศดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
มีกระแสลมหอบหนึ่งพัดเข้ามาในร้าน ทำให้ตุ๊กตากระดาษทั้งหลายพากันขยับไหวจนดูเหมือนว่าพวกมันกำลังหัวเราะร้ายอยู่
แม่นมเติ้งตัวสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว
ที่นี่ดูหลอนนัก
“เถ้าแก่?” ลั่วชิงยวนตะโกนอีกครั้ง
จากนั้นคนที่นั่งบนเก้าอี้ก็เหมือนจะตื่นขึ้น เขาลุกขึ้นขยี้ตา “ขอโทษด้วยข้าเผลอหลับไป ท่านคงไม่ได้รออยู่นานใช่หรือไม่?”
ลั่วชิงยวนส่ายหน้าและมองเจ้าของร้าน รอบกายของเขามีเงาดำรายล้อมอยู่
“เถ้าแก่ ข้ามาจากจวนมหาราชครู นายหญิงบอกว่า จำนวนของที่ส่งไปวันนี้ไม่ถูกต้อง นางเลยให้ข้ามาสอบถามกับเถ้าแก่อีกครั้ง” ลั่วชิงยวนบอก
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าของร้านก็นิ่วหน้า “จำนวนไม่ถูกต้องรึ? เป็นไปได้อย่างไรกัน? ข้าเป็นคนเอาใส่ลงไปด้วยมือตัวเองเลยนะ”
ขณะที่พูด เจ้าของร้านก็หยิบสมุดบัญชีขึ้นมาเปิดดู ก่อนที่จะอ่านอย่างละเอียดและบ่นพึม “ก็ถูกนี่…”
ลั่วชิงยวนแอบปรายตามองอย่างเร็วและเห็นว่า…
แต่ลั่วชิงยวนยังคงสงบนิ่ง “ข้าจะจัดการให้ ท่านว่าอย่างไร?”
ชายผู้นั้นโมโห ขณะต่อมาก็มีสายลมชั่วร้ายพัดโหมในร้าน ตุ๊กตากระดาษต่างปลิวว่อนจนทำให้ในร้านปั่นป่วน
ชายผู้นั้นยื่นแขนออกมาและพุ่งเข้ามาหาลั่วชิงยวน เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาจะบีบคอนางให้ตาย
ลั่วชิงยวนรีบถอยหลังหลบ แต่ก็มีตุ๊กตากระดาษบุรุษมาขวางเท้านางทางด้านหลัง ชายผู้นี้รุดเข้ามาและเหวี่ยงลั่วชิงยวนลงไปกองกับพื้น
ทันใดนั้นเหล่าตุ๊กตากระดาษก็ปลิวเข้ามาและรุมทับนางไว้จนกองซ้อนกันไม่หยุด
แม่นมเติ้งยกมือขึ้นปิดหน้าเพื่อป้องกันลมที่โหมกระหน่ำ
เมื่อลมสงบลงนางก็เห็นว่า ตุ๊กตากระดาษทั้งหมดไปกองรวมกันอยู่ที่มุมห้อง
และแม่นมเติ้งก็เห็นเพียงเท้าของพระชายาที่โผล่ออกมา…
นางรีบเข้าไปหาด้วยสีหน้าหวาดหวั่น…
“พระชายา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...