ปัง—
ทำให้ทั้งสองตกใจ
เสียงปังดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ก็มีเพียงเสียงดังและมีประกายไฟเล็กน้อย
แต่เมื่อจบลงแล้ว บนพื้นก็มีผงสีขาวเป็นกองเล็ก ๆ
มิรู้ว่าเมล็ดเหล่านี้ที่กลายเป็นผงแล้วจะมีประโยชน์อย่างไร นางจึงตัดสินใจว่าจะเก็บไว้ศึกษา
ลั่วชิงยวนก้มลงเก็บผงเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง
แม้จะเป็นกองผงละเอียด แต่ก็เก็บได้มิมาก
เก็บได้เพียงครึ่งขวดเล็ก ๆ เท่านั้น
“พี่หญิง สิ่งเหล่านี้ใช้ทำอะไรหรือขอรับ?” หล่างมู่ใช้มือแตะเล็กน้อยและกำลังจะเอาแตะลิ้น
ลั่วชิงยวนรีบคว้ามือเขาไว้ “สิ่งนี้กินมิได้ มันมีพิษ”
หล่างมู่รีบปัดมือแล้วไปล้างมือในน้ำพุ
“พี่หญิง ท่านเคยมาที่นี่มาก่อนหรือ เหตุใดจึงดูคุ้นเคยเช่นนี้?” หล่างมู่ถามด้วยความสงสัย
ลั่วชิงยวนเตือนอย่างจริงจัง “จำไว้ว่าหลังจากออกไปแล้วให้ลืมที่นี่เสีย อย่าได้มาที่นี่อีก”
หล่างมู่พยักหน้า “ได้ขอรับ”
ทั้งสองพักอยู่ที่นี่อีกคืน เมื่อฟ้าเริ่มสางก็ออกเดินทางจากหุบเขาอสูร นกอินทรีนั้นเก่งกาจมาก มันคอยคุ้มกันไปตลอดทางจึงไม่มีสัตว์ร้ายตัวใดกล้าเข้าใกล้เลย
เมื่อออกจากหุบเขาอสูรอย่างปลอดภัย นกอินทรีก็บินมาเกาะแขนของลั่วชิงยวนอีกครั้ง ราวกับว่ากำลังรอคำชมจากนาง
ลั่วชิงยวนลูบหัวมันแผ่วเบาพลางหัวเราะเบาๆ “มิคิดว่าเจ้าจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ มิแปลกใจเลยที่ถูกยกย่องเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์”
“พวกเขาเรียกเจ้าว่าพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นข้าจะเรียกเจ้าว่าอาเสิน”
อาเสินดูพอใจมาก มันทะยานขึ้นไปบินวนบนท้องฟ้า
ลั่วชิงยวนถามหล่างมู่เกี่ยวกับต้นกำเนิดของนกอินทรีตัวนี้ แต่หล่างมู่กล่าวว่า ตั้งแต่จำความได้ นกอินทรีตัวนี้ก็อยู่ที่นี่แล้ว
ว่ากันว่าบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วต่างก็เคยเห็นนกอินทรีตัวนี้เช่นกัน นับได้ว่ามันมีชีวิตอยู่มานาน เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณและเคยช่วยเหลือผู้คนมากมาย จึงถูกชาวเผ่านอกด่านยกย่องเป็นพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์
พญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์จะคอยปกป้องพวกเขา และทุกคนที่เห็นมันต่างก็โค้งคำนับด้วยความเคารพ
“หากมีสิ่งใดที่ต้องการจากข้าก็จงส่งจดหมายมาหาข้าได้ตลอดเวลา!”
เนื่องจากนางได้ขึ้นครองตำแหน่งนี้แล้ว นางก็จะรับผิดชอบหน้าที่ของตนตามสมควรด้วย
เพียงแต่นางมิสามารถอยู่ที่เผ่านอกด่านได้ตลอดเวลา
หล่างมู่ถึงกับตกตะลึง “พี่หญิง ข้ายังมิได้พาท่านไปเที่ยวเล่นเลย โปรดอยู่ต่ออีกสักสองสามวันเถิดขอรับ”
“ใกล้ ๆ นี้มีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ สวยงามมากนะขอรับ”
ลั่วชิงยวนคิดถึงเรื่องในเมืองผิงหนิงแล้วก็มิรีบร้อน จึงตกลงที่จะอยู่ต่ออีกสองวัน
วันรุ่งขึ้นหล่างมู่ก็พานางไปยังสระน้ำศักดิ์สิทธิ์
สระน้ำสีเขียวอมฟ้าล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม แต่หญ้าเหล่านั้นสูงเกือบเท่าตัวคน
“ตอนเด็ก ๆ ข้ากับพี่หญิงชอบมาที่นี่ เล่นซ่อนตัวในหญ้าเหล่านี้ก็จะไม่มีใครหาตัวเราเจอขอรับ”
หล่างมู่กล่าว แล้วกระโจนเข้าไปในพุ่มหญ้าจากนั้นกลิ้งตัวออกไป
แล้วก็หาตัวมิเจอเลยจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...