ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1115

“ช่างน่าเวทนา เหยียนผิงเซียวช่างเป็นคนมีใจมั่นคงยิ่งนัก...”

ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปากแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา “เขามิได้น่าสงสารหรอก”

“ครั้งหนึ่งเขาก็หลอกลวงความรู้สึกของลั่วเยวี่ยอิงเช่นนี้ ใช้ลั่วเยวี่ยอิงมาทำร้ายข้า สุดท้ายก็ถูกสตรีที่รักหลอกลวงจนตายอย่างน่าอนาถ นับว่าเป็นเวรกรรม”

ซ่งเชียนฉู่ถอนหายใจ “ช่างเป็นการเอาคืนอย่างสาสม”

“แต่คราวนี้ลั่วฉิงหนีรอดไปได้ คงจับนางได้ยากแล้ว”

“ยิ่งกว่านั้น นางยังเห็นใบหน้าที่แท้จริงของท่านและรู้ตัวตนของท่านแล้วด้วย คงต้องนำเรื่องนี้มาสร้างความวุ่นวายแน่นอน!”

ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน”

“ลั่วฉิงคงมิปล่อยข้าไว้แน่ ข้ามิไปหานาง นางก็ต้องมาหาข้าอยู่ดี”

ซ่งเชียนฉู่ถามอย่างเป็นห่วง “แล้วท่านมีแผนการอะไรหรือไม่?”

ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “วิธีที่ลั่วฉิงจะเล่นงานข้าได้ก็คือการเปิดเผยตัวตนของข้า แต่ตัวตนของนางเป็นเรื่องใหญ่กว่านั้นมาก”

“กองคาราวานของสมาคมการค้าเฟิงตู สามารถเดินทางตรงไปยังชายแดนที่ติดกับแคว้นหลีได้ก็น่าจะสืบหาเบาะแสที่เป็นประโยชน์ได้”

ซ่งเชียนฉู่ตาเป็นประกาย “ข้าจะช่วยท่านเอง”

“บ้านข้าอยู่มิไกลจากที่นั่น ข้าจะไปสืบให้”

“อย่างไรเสียข้าก็ต้องกลับบ้าน ข้ามิอาจผลัดเฉินเซี่ยวหานต่อไปได้อีกแล้ว จะถือโอกาสนี้พาเขาไปพบท่านพ่อข้าด้วยเลย”

ลั่วชิงยวนประหลาดใจ “ในที่สุดเจ้าก็จะพาเขาไปพบบิดาแล้ว”

“แต่เสียดาย คราวนี้ข้าคงไปกับเจ้ามิได้ ฝากความคิดถึงถึงท่านลุงด้วย โอกาสหน้าข้าจะไปคารวะ!”

ซ่งเชียนฉู่ลุกขึ้นทันที “เรื่องเล็กน้อย รอวันหน้าข้าจะพาท่านไปที่ภูเขาของพวกเรา ที่นั่นสูงเสียดฟ้า กลางวันชมทะเลเมฆ กลางคืนชมทะเลดาว รับรองว่าท่านต้องมิเคยเห็นทิวทัศน์เช่นนี้มาก่อนแน่!”

“ข้าจะไปเก็บข้าวของก่อน!”

ซ่งเชียนฉู่ดีใจอย่างยิ่ง

ลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้น รีบไปช่วยซ่งเชียนฉู่เก็บข้าวของ

“รอเรื่องนี้จบ ข้าจะต้องไปให้ได้ หากไม่มีทะเลเมฆทะเลดาวอย่างที่เจ้าว่า ข้ามิยอมแน่!”

วันนั้นซ่งเชียนฉู่เก็บข้าวของเรียบร้อย

แล้วรีบพาเฉินเซี่ยวหานออกเดินทาง

ตอนถูกพาตัวไป เฉินเซี่ยวหานยังคงงุนงงสับสน

จนกระทั่งขี่ม้าออกจากเมือง จึงได้สติและดีใจจนตัวลอย

เพราะหล่างมู่มิสนใจว่าฟู่เฉินหวนจะเป็นตายร้ายดี เขาสนใจเพียงว่าลั่วชิงยวนถูกรังแกหรือไม่

เลือดของลั่วเยวี่ยอิงถูกนำไปมากมาย ช่วงนี้นางหมกมุ่นกับการค้นคว้า แต่ก็พบว่ายังไม่มีวิธีแก้ปัญหา

ตอนนี้ในเมืองหลวง ผู้ที่ควบคุมฟู่เฉินหวนได้ดูเหมือนจะมีเพียงลั่วเยวี่ยอิงคนเดียวเท่านั้น

หากลั่วเยวี่ยอิงตาย ฟู่เฉินหวนย่อมมิถูกคนตายควบคุม

ส่วนลั่วเยวี่ยอิงตายแล้ว ฟู่เฉินหวนจะมีปฏิกิริยาเช่นไรก็ยากจะคาดเดา

นี่นับเป็นความเสี่ยงเพียงอย่างเดียว

แต่เมื่อเทียบกับปัญหาที่ลั่วเยวี่ยอิงยังมีชีวิตอยู่ ความเสี่ยงนี้น่าจะรับได้

นางกำชับลั่วอวิ๋นสี่ แล้วลั่วอวิ๋นสี่ก็รับคำ “ข้าจะทำอย่างเงียบเชียบ”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า

สำหรับลั่วอวิ๋นสี่ การฆ่าลั่วเยวี่ยอิงคงมิใช่เรื่องยาก

นางคิดว่าคงได้รับข่าวดีในตอนเย็น

แต่มิคาดคิดว่าตอนบ่ายจะมีเสียงกรีดร้องดังมาจากเรือนของลั่วเยวี่ยอิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย