เพียงแต่ เรื่องราวมิง่ายเสียขนาดนั้น
ลั่วชิงยวนนั่งอยู่ภายในห้อง หนังตากระตุกแรง เดิมทีนางอยากจะวาดภาพ แต่อย่างไรก็สงบลงมิได้ จึงล้มเลิกไป
“พระชายามีเรื่องรำคาญใจอะไรหรือเจ้าคะ” แม่นมเติ้งถามไถ่อย่างห่วงใย
ลั่วชิงยวนเงยหน้ามองท้องฟ้าราตรีที่ไร้ซึ่งดวงดาว และกล่าวพึมพำ “คืนนี้ อาการของลั่วเยวี่ยอิงจะสาหัสขึ้น เจ้าว่า ฟู่เฉินหวนจะมีการตอบสนองอย่างไรกัน?”
ลั่วชิงยวนยกมือกดหน้าอกของตนอย่างอดไม่ได้ เพื่อหวังประโลมความเจ็บใจและอาการหายใจไม่ออกของตน “ข้าเพียงรู้สึกเจ็บใจ จึงอยากจะระบาย”
และอยากระบายให้กับลั่วชิงยวนคนเดิมด้วย
เขาทำทุกวิธีเพื่อช่วยคนในใจ จนทำร้ายและลงมือกับนางครั้งแล้วครั้งเล่า
ในใจนาง มีความโกรธเคืองที่ยังปล่อยวางมิได้
ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ นางยิ่งไม่อยากให้ลั่วเยวี่ยอิงได้ใช้ชีวิตที่ดี เหตุใดทุกคนจึงต้องรังแกนางกันหมด
นางไม่ได้มีชีวิตที่ดี คนอื่นก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตที่ดี
ไม่ทันได้กล่าววาจาใด นอกเรือนมีเสียงร้องไห้ที่เจ็บปวดจวนตายดังขึ้น พร้อมกับเสียงฝีเท้าร้อนรน
แม่นมเติ้งได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนไปฉับพลัน นางรีบลุกขึ้นไปตรวจดูทันที
ประตูเรือนถูกเตะออกด้วยแรงมหาศาล
ร่างที่เต็มไปด้วยไอโทสะและไอสังหารตกสู่สายตา รัศมีพิฆาตบนตัวเขา ทำให้เกิดความรู้สึกหวั่นกลัวในใจของผู้พบเห็น จนถึงจุดที่มิกล้าสบตา
ลั่วชิงยวนลุกขึ้นเดินออกจากประตู มองไปทางฟู่เฉินหยวนด้วยสีหน้าตกใจ นัยน์ตาของเขาแดงเถือก เส้นโลหิตบนหน้าผากนูนขึ้น หว่างคิ้วเห็นเส้นสีเลือดจาง ๆ บ่งบอกถึงความโกรธแค้นอย่างหาที่เปรียบมิได้!
ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน เขาในตอนนี้ราวกับเป็นศพคลั่งเดินได้ที่กำลังถูกควบคุมอยู่
“ลั่วชิงยวน!”
นางยังมิทันได้สติ ก็มีเสียงคำรามดังขึ้นเบื้องหน้านาง
เงาดำปกคลุม
ลั่วชิงยวนพยายามแกะมือของเขาอย่างสิ้นหวัง ความรู้สึกกลัวการขาดลมหายใจ ทำให้นางรู้สึกราวกับได้ก้าวข้าวธรณีประตูแห่งความตายไปแล้วครึ่งก้าว
ใบหน้าของเธอแดงก่ำจนพูดไม่ออก นัยน์ตาสีแดงเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
ฟู่เฉินหวนชะงักไปครู่หนึ่ง สติของเขาถูกดึงกลับมา
มองดวงตาที่เต็มไปด้วยความอดทนและไม่ยอมแพ้ ในใจของเขารู้สึกอึดอัด
“ท่านอ๋อง…” เสียงร้องไห้ของลั่วเยวี่ยอิงดังขึ้นอีกครั้ง นางร้องราวกับจะขาดใจ “ท่านอ๋อง โฉมหน้าของหม่อมฉันจะทำอย่างไรดี… ต่อจากนี้หม่อมฉันออกไปเจอผู้คนมิได้… หม่อมฉันตายไปเลยเสียยังดีกว่า…”
เสียงร้องไห้ของนาง จุดไฟพิโรธนัยน์ตาของฟู่เฉินหวนทันที เขาปวดหัวจนหัวแทบระเบิด กระชากแขนลั่วชิงยวนและทิ้งลงบนพื้นอีกครั้ง
ความเจ็บปวดแผ่ซ่านจากหน้าอกไปทั่วร่าง ลั่วชิงยวนกระอักเลือดออกมาอย่างหนัก จนย้อมแขนเสื้อเป็นสีแดง เส้นผมยุ่งเหยิงข้างแก้มทำให้นางยิ่งดูน่าเวทนาให้นาง
นางกวาดตาขึ้น มองไปทางชายหนุ่มที่เกลียดนางจนอยากจะฆ่านางทิ้ง และพูดกับนางเสียงดุ
“ลั่วชิงยวน ส่งบัวหิมะเทียนซานมาให้ข้า แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...