นางปฏิเสธอย่างหนักแน่น
ลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”
พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อย
เมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้ว
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้น
ในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้ว
เมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้น
ลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!
โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้า
แต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียง
สุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไก
เสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้น
ประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออก
หลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกัน
แต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมาก
เมื่อประตูบานนี้เปิดออก ลั่วชิงยวนก็จุดไฟส่องดู ปรากฏว่าด้านล่างเป็นบันไดยาว
“ข้าไปก่อน!” โฉวสือชีรีบลงบันไดไปก่อน
ลั่วชิงยวนและคนใบ้รีบตามไปอย่างใกล้ชิดพร้อมกับลากโหยวเซียงลงบันไดไปด้วย ส่วนอวี๋โหรวเดินรั้งท้าย
เมื่อลงบันไดยาวลงไปแล้ว ด้านหน้าก็เป็นทางเดิน
พื้นที่แคบมาก ผนังขรุขระ ไม่มีการตกแต่งใด ๆ
เพิ่งเดินมาถึงที่นี่ จู่ ๆ ด้านบนก็มีเสียงดังสนั่น
ทุกคนจึงหยุดชะงักด้วยความตกใจแล้วพากันหันหลังกลับไปมอง
เมื่อออกมาได้แล้ว โหยวเซียงก็ดิ้นรนอย่างรุนแรง ลั่วชิงยวนรีบยกมือขึ้นปิดปากนางไว้พร้อมกับลากนางเดินหน้าต่อไป
และในตอนนี้ ต่งอวิ๋นซิ่วก็ตื่นแล้ว นางกำลังรีบร้อนให้คนออกตามหาโหยวเซียง
พวกเขาเดินจากสวนหลังบ้านไปยังลานกว้าง เมื่อมองไปยังสิ่งก่อสร้างอันโอ่อ่าสง่างามนั้นก็พบว่ามิใช่คฤหาสน์แต่เป็นวัง
เทียบกับพระราชวังแล้วก็มิได้ด้อยกว่ากันเลย
จู่ ๆ ไอเย็นยะเยือกก็พัดมาที่หลังของลั่วชิงยวน
เสียงเย็นเยียบที่แฝงไปด้วยความแค้นดังขึ้น “บุกรุกครอบครองเรือนของผู้อื่น! ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมด!”
ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พวกนางก็ถูกคนบนภูเขาค้นพบ ชายชุดดำจำนวนมากวิ่งเข้ามาล้อมรอบพวกนางไว้
ลั่วชิงยวนรีบคว้าคอของโหยวเซียงไว้ แล้วใช้ร่างนางเป็นเกราะกำบัง
“ใครกล้าเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว ข้าจะฆ่านางเสีย!”
ชั่วขณะต่อมา เสียงแหลมทรงพลังและดุดันก็ดังขึ้นมาจากระยะไกล
“กล้าแตะต้องบุตรสาวข้า เจ้าคงมิอยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วกระมัง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...