ในขณะที่นางกำลังชั่งใจอยู่นั้น นายท่านซีก็สะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธเคือง
“ช่างเถิด!”
“พึ่งพาท่านนักบวชระดับสูงมิได้จริง ๆ!”
นายท่านซีรีบสั่งการ “จงรีบไปติดป้ายประกาศเสีย ใครที่สามารถแก้ไขเรื่องยุ่งยากในบ้านตระกูลซีได้ ผู้นั้นจะเป็นแขกคนสำคัญของตระกูลซีของเรา สามารถยื่นเงื่อนไขและคำขอใด ๆ ก็ตามมาได้เลย! หากข้าสนองให้ได้ ข้าจะสนองให้แน่นอน!”
ตระกูลซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ในแปดตระกูลใหญ่ ฐานะในเมืองหลวงก็สูงส่งยิ่งนัก มิว่าจะเป็นทรัพย์สินหรืออำนาจก็แข็งแกร่งมาก
คำมั่นสัญญาของนายท่านซีในครั้งนี้จึงดึงดูดใจอย่างมาก
ไม่มีใครมิหวั่นไหว
ลั่วชิงยวนรอคอยคำพูดนี้มานานแล้ว
นางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มิจำเป็นต้องติดป้ายประกาศให้ยุ่งยากหรอก”
“ข้าสามารถจัดการเรื่องในบ้านของนายท่านซีได้”
เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของนายท่านซีก็เป็นประกายขึ้น จากนั้นก็สำรวจนางตั้งแต่หัวจรดเท้า “เจ้าจัดการได้จริงหรือ?”
“ลองดูก่อนก็รู้ หากจัดการมิได้ นายท่านซีค่อยติดป้ายประกาศก็ยังมิสาย”
กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็เดินตรงไปข้างหน้า
งูตัวหนึ่งที่ตัวหนาเท่าแขนนอนขดอยู่ในกอหญ้า
คนอื่น ๆ ต่างถอยหลังกรูด มีเพียงลั่วชิงยวนที่เดินเข้าไปหางู
เวินซินถงยืนอยู่ห่างออกไป มิกล้าเข้าใกล้หรือแม้แต่มอง
นายท่านซีรีบเตือน “แม่นาง งูตัวนั้นดูท่าทางแล้วมีพิษร้ายแรงนัก ตัวก็ใหญ่โต พละกำลังโจมตีก็คงมิน้อย เจ้าจงระวังด้วย”
ลั่วชิงยวนยกยิ้มก่อนกล่าว “มิต้องกังวล”
นางก้าวเข้าไปจับงูตัวนั้นอย่างคล่องแคล่ว
มือนึงจับหัวงูแน่น หางงูยาวเฟื้อยพาดอยู่บนแขนของนาง
เมื่อนางหันหลังกลับมา เวินซินถงก็ตกตะลึง นายท่านซีเองก็ตกใจมากเช่นกัน
“เหตุใด… เหตุใดมันจึงมิทำร้ายเจ้า?” นายท่านซีหวาดกลัวงูตัวนั้นอย่างมาก
ลั่วชิงยวนยิ้มจาง มิได้เอ่ยคำใด
นางจับงูตัวนี้มาเอง มันย่อมคุ้นเคยกับกลิ่นของนางดีอยู่แล้ว ย่อมมิทำร้ายนาง
เวินซินถงกำหมัดแน่น จ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาอาฆาต
จากนั้นเดินเข้ามาถามว่า “เจ้าคิดว่าจับงูพวกนี้ได้ก็จบเรื่องแล้วหรือ?”
“หากแก้ปัญหามิได้ งูพวกนั้นก็จะกลับมาอีก”
กล่าวจบ เวินซินถงก็หันไปพูดกับนายท่านซี “นายท่านซี ค่ำนี้ให้ข้าลองดูอีกครั้งเถิด”
“ข้ารับของกำนัลจากนายท่านซีมาแล้ว เรื่องนี้ข้ามีหน้าที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย”
เมื่อไม่มีงูแล้ว เวินซินถงก็กลับมาพูดจาอย่างมั่นใจอีกครั้ง
นางยังอยากจะลองดูอีกสักตั้ง
ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ “ข้าเป็นคนจับงู แล้วตอนนี้ท่านนักบวชระดับสูงจะมาแย่งงานข้าหรือ?”
เวินซินถงกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “นั่นก็เพราะเจ้าไม่มีความสามารถพอที่จะจัดการเรื่องนี้!”
“ข้าเพียงแค่กลัวงู แต่ข้ามิกลัวการแก้ปัญหา”
ทว่าในเวลานี้เอง นายท่านซีก็ขัดจังหวะนางด้วยความมิพอใจ “ท่านมิกลัวการแก้ปัญหา แต่ข้ากลัวว่าท่านจะแก้ปัญหามิได้!”
“คืนนี้มิต้องลำบากท่านนักบวชระดับสูงแล้ว ให้แม่นางผู้นี้จัดการให้ข้าแทนเถิด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...