เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนก็หันมองไปยังต้นเสียง
นายท่านซีขมวดคิ้ว “เจ้าเป็นใครกัน? ไยจึงกล้าบุกรุกเข้ามาในบ้านข้า”
บัดนี้คนในจวนวุ่นวายกันไปหมด ความสนใจทั้งหมดอยู่ที่งูเหล่านั้น ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าลั่วชิงยวนเข้ามาตั้งแต่เมื่อใด
เมื่อเวินซินถงเห็นลั่วชิงยวนในวินาทีนั้น หัวใจของนางก็แทบหยุดเต้น
ในดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและความหวาดกลัว
นางกลับมาแล้ว!
ลั่วชิงยวนกลับมาจากเมืองแห่งภูตผีอย่างปลอดภัย!
สตรีผู้นี้มีชีวิตรอดกลับมาจากสถานที่เช่นเมืองแห่งภูตผีได้อย่างไร!
เวินซินถงกัดฟันด้วยความแค้น
ลั่วชิงยวนเห็นปฏิกิริยาของเวินซินถงแล้วก็มั่นใจว่าอวี๋โหรวถูกนางจับตัวไปจริง ๆ
แม้กระทั่งโหยวเซียงก็ถูกเวินซินถงล่อลวงไปร่วมมือกัน วางแผนลวงนางไปยังเมืองแห่งภูตผี
“ท่านนักบวชระดับสูงแปลกใจที่ข้ากลับมาหรือ?”
“ท่านนักบวชระดับสูงทราบว่าข้าไปเมืองแห่งภูตผีด้วยหรือ?”
ในดวงตาของเวินซินถงฉายแววโกรธแค้น
ลั่วชิงยวนยกยิ้มเย็นชา “ท่านนักบวชระดับสูงรู้จักโหยวเซียงหรือไม่?”
เวินซินถงพยายามทำสีหน้าให้สงบนิ่ง
ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าฆ่าโหยวเซียงแล้ว ก่อนตายนางบอกเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย รวมถึงเรื่องที่ท่านนักบวชระดับสูงจับตัวอวี๋โหรวไปและตกลงทำสัญญากับนางด้วย”
“น่าเสียดายจริง ๆ ที่ข้าไปเมืองแห่งภูตผีครานี้มิเพียงมิตาย แต่ยังได้บัวถวายกลับมาด้วย”
เมื่อเห็นสีหน้าของเวินซินถง แม้จะพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ความตกตะลึงและความหวาดกลัวในดวงตากลับมิอาจซ่อนไว้ได้
เวินซินถงกล่าวเสียงแผ่ว “ข้ามิเข้าใจว่าเจ้าพูดถึงเรื่องกระไร”
“ที่นี่คือบ้านตระกูลซี หากเจ้ามีอะไรจะคุยกับข้าก็ไปคุยกันเป็นการส่วนตัวเถิด”
นายท่านซีตั้งสติได้แล้วจึงรีบถามว่า “ใช่แล้ว นี่บ้านข้า”
“ท่านนักบวชระดับสูง ท่านช่วยข้าจัดการเรื่องยุ่งยากพวกนี้วันนี้เลยได้หรือไม่?”
“ข้าทนรออีกต่อไปมิได้แม้แต่วันเดียวแล้วขอรับ!”
นายท่านซีเข้มงวดมาก และทุกคนที่อยู่ในจวนต่างก็หวาดกลัว
เดิมทีนายท่านซีเพียงคาดเดาว่าท่านนักบวชระดับสูงผู้นี้อาจจะไร้ความสามารถ แต่เมื่อถูกเปิดโปงเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ยิ่งบ่งบอกถึงความโมโห
“ท่านนักบวชระดับสูง บอกข้ามาคำเดียว วันนี้ท่านจะจัดการได้หรือไม่!”
นายท่านซีกล่าวด้วยน้ำเสียงมิพอใจอย่างยิ่ง
เหตุผลที่เขากล้าพูดกับนักบวชระดับสูงเช่นนี้ ประการแรกคือ เวินซินถงไร้ซึ่งความน่าเกรงขาม มิค่อยเป็นที่เคารพของราษฎรสักเท่าใด
ประการที่สองคือ สตรีที่ทำให้มู่หยวนหยวนหวาดกลัวผู้นั้น
ซีกุ้ยเฟย
นั่นมิใช่ใครอื่นนอกจากลูกสาวของเขานั่นเอง!
ตระกูลซีก็เป็นตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ในแปดตระกูลใหญ่
แน่นอนว่าเขาสามารถแสดงท่าทีเช่นนี้กับเวินซินถงได้
สีหน้าของเวินซินถงแย่มาก นางลังเล คิดว่าตนจะสามารถเอาชนะความกลัวแล้วจัดการเรื่องนี้ได้หรือไม่
แต่นี่มิใช่สิ่งที่นางวางแผนไว้ นางมิรู้ว่าอันตรายที่รออยู่ข้างหน้ามีมากน้อยเพียงใดจึงยากที่จะรับมือได้
หากรับปากไปอย่างหุนหันพลันแล่นแล้วทำมิได้ก็ยิ่งน่าหัวเราะเยาะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...