ซีกุ้ยเฟยชะงักไป
จากนั้นก็รู้สึกตัว หันไปเห็นว่าลั่วชิงยวนกำลังมองขนมถ้วยนั้น
“สิ่งนี้… มีปัญหาอะไรหรือ?”
ลั่วชิงยวนยกถ้วยนั้นขึ้นดม มีกลิ่นสมุนไพรเจือปนกับกลิ่นน้ำเชื่อม
แฝงไว้ด้วยกลิ่นคาวจาง ๆ
ลั่วชิงยวนถามว่า “กุ้ยเฟย สิ่งนี้เสวยแล้วมีกลิ่นคาวมากหรือไม่เพคะ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ซีกุ้ยเฟยก็ชะงักไป แล้วตอบว่า “มีเพียงเล็กน้อย แต่ก็มิได้รบกวนนัก อย่างน้อยรสชาติก็ดีอยู่”
“เจ้าลองชิมดูหรือไม่?”
ลั่วชิงยวนกลับส่ายหน้า “สิ่งนี้มีบางอย่างผิดปกติเพคะ”
“วัตถุดิบข้างในมิได้มีเพียงปลา เต้าหู้และสมุนไพรเท่านั้น”
นางหยิบตะเกียบจิ้มลงไป ปรากฏว่ามีกลิ่นคาวเลือดโชยมา
มิใช่เพียงปนเปื้อนเท่านั้น แต่สิ่งนี้มีปัญหาในตัวมันเอง
ซีกุ้ยเฟยตกใจเมื่อได้ยิน “สิ่งนี้จะมีปัญหาได้อย่างไร? ข้ากินมาหลายปีแล้ว”
“นี่เป็นขนมที่ข้ากินมาตั้งแต่ย้ายเข้ามายังพระตำหนักชีอู๋ เป็นฝีมือของพ่อครัวหลวงที่องค์จักรพรรดิโปรดให้ทำถวายข้าแต่เพียงผู้เดียวในวัง”
“จะมีปัญหาได้อย่างไร?”
ซีกุ้ยเฟยมิเคยสงสัยเรื่องอาหารจานนี้เลย
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น “พ่อครัวหลวงหรือเพคะ? องค์จักรพรรดิโปรดให้ท่านเสวยขนมนี้หรือเพคะ?”
ซีกุ้ยเฟยกลับส่ายหน้า แล้วตอบว่า “เป็นเพราะการเสวยพระกระยาหารร่วมกันครั้งหนึ่ง มีขนมนี้ขึ้นโต๊ะพอดี ข้าโปรดปราน องค์จักรพรรดิจึงประทานขนมนี้แก่ข้า”
“มิได้โปรดให้ผู้อื่นทำอีกเลย”
กล่าวได้ว่าขนมนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความโปรดปรานอันเป็นเอกลักษณ์ในบรรดาหกตำหนัก
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “หม่อมฉันขอพบพ่อครัวผู้นั้นได้หรือไม่เพคะ?”
“หม่อมฉันจะมิแสดงตัว จะแอบสังเกตการณ์เขา”
เมื่อได้ยินดังนั้น ซีกุ้ยเฟยก็พยักหน้า
จากนั้นลั่วชิงยวนก็หลบอยู่หลังฉากกั้น
รอจนกระทั่งแม่นมเฉาพาพ่อครัวใหญ่ผางเข้ามา
ลั่วชิงยวนตรึกตรอง “ขนมนี้เป็นฝีมือเขาจริงเพคะ”
“แต่ยังมิเห็นปัญหาอื่น”
“หม่อมฉันอยากไปห้องเครื่องเพคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของซีกุ้ยเฟยก็เคร่งขรึม “ห้องเครื่องเป็นที่สำคัญในวัง เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยด้านอาหารของเหล่าขุนนางมากมาย หากเจ้าจะไปย่อมมิใช่เรื่องง่าย”
ลั่วชิงยวนรีบทูลว่า “แต่ท่าน ในเมื่อท่านเตรียมพร้อมที่จะให้หม่อมฉันสืบหาสาเหตุของอาการป่วยแล้ว บางครั้งก็ต้องเสี่ยงบ้างเพคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของซีกุ้ยเฟยก็เป็นประกายขึ้น นางมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาแน่วแน่
“เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าปัญหาอยู่ที่ขนมนี้?”
ลั่วชิงยวนตอบอย่างหนักแน่น “แน่ใจเพคะ”
นางค้นหาในพระตำหนักชีอู๋มานาน สิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่มีปัญหา
ทั้งยังเป็นของกินด้วย แถมยังเป็นสิ่งที่ซีกุ้ยเฟยเสวยเป็นประจำมาหลายปี ปัญหาจึงน่าจะอยู่ตรงนี้
ขนมที่ทำได้เฉพาะยามเช้า นางคาดเดาว่าคงเป็นเพราะความพิเศษของวัตถุดิบ ซึ่งมิใช่ปลาเนื้ออ่อนที่จับสด ๆ และน้ำค้างที่เก็บสด ๆ อย่างแน่นอน
ดังนั้นจึงต้องไปยังห้องเครื่องเพื่อดูว่าในขนมนั้นมีสิ่งใดเจือปนอยู่กันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...