"ใช่ แสดงความฉลาดของเจ้าออกมาสิ"
"เจ้าน่าจะรู้ว่าตัวเองควรทำกระไรมิใช่รึ"
ทั้ง ๆ ที่ฟู่เฉินหวนน้ำเสียงเย็นชา แต่กลับทำให้โทสะท่วมท้นจิตใจของลั่วชิงยวนซึ่งทำให้นางต้องรีบสะกดกลั้นเอาไว้
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฟู่เฉินหวนมีความคิดที่จะรวบอำนาจ
ถึงแม้ว่านางจะขอเงินเพียงแค่พันตำลึงจากแม่ทัพใหญ่ฉินเป็นรางวัล แต่เรื่องนี้แม่ทัพใหญ่ฉินย่อมต้องมีเงื่อนไขอยู่แล้วซึ่งก็เท่ากับว่ามีเงื่อนไขกับตำหนักอ๋องไปด้วย
ต่อให้ฟู่เฉินหวนไม่เอ่ยปาก แม่ทัพใหญ่ฉินก็จะกลายเป็นกำลังพลส่วนหนึ่งของฟู่เฉินหวนโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นนางจึงยกยิ้มมุมปากแล้วค่อย ๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงใสกระจ่างขึ้นมาว่า
"ได้! หม่อมฉันช่วยท่านอ๋องก็ได้"
"แต่ท่านอ๋องต้องให้สัญญากับหม่อมฉันข้อหนึ่งก่อน"
เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็มีวี่แววประหลาดใจพาดผ่านดวงตา จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว "สัญญาเรื่องอันใด?"
คงไม่ใช่เรื่องถุงหอมของมารดานางอีกหรอกนะ
เขาทดสอบลั่วเยวี่ยอิงมาหลายครั้งและนางก็เอาถุงหอมมาหลอกตนอยู่หลายครั้งหลายครา แต่นางกลับไม่เคยมอบให้ลั่วชิงยวน มิหนำซ้ำยังแสร้งโง่อีกต่างหาก
เขาไม่อาจฝืนใจรับเอาไว้ได้
ฉะนั้นของสิ่งนั้นจึงยังอยู่ในมือของลั่วเยวี่ยอิง
แต่คราวนี้ลั่วชิงยวนไม่ได้ขอถุงหอม
ทว่านางกลับเอ่ยขึ้นมาว่า "ขอท่านอ๋องแสร้งทำเป็นไม่เห็นเข็มทิศอันนี้ได้หรือไม่? ห้ามเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ใดฟังเป็นอันขาด"
เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วทันที นางคิดว่าเขามุ่งหมายเข็มทิศจริง ๆ หรือ?
ที่แท้ในใจของนาง เขาก็เป็นคนเช่นนั้นเอง
ทั้ง ๆ ที่ฟู่เฉินหวนรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก แต่เขาก็ตอบด้วยท่าทีสงบนิ่งว่า "ได้ ข้าให้สัญญากับเจ้า"
หลังจากฟู่เฉินหวนตอบตกลงแล้ว ลั่วชิงยวนก็เอ่ยเสริมขึ้นมาว่า "เรื่องนี้เกี่ยวข้องอันใดกับลั่วเยวี่ยอิง หม่อมฉันคิดว่าท่านอ๋องน่าจะจัดการได้กระมัง?"
ฟู่เฉินหวนเองก็นั่งขัดสมาธิอยู่เงียบ ๆ แต่สายตาของคนทั้งคู่กลับจับจ้องวัตถุที่เปล่งแสงอยู่ข้างกองไฟ
พวกเขายื่นมือออกไปพร้อมกัน
เมื่อมือของพวกเขาสัมผัสแตะต้องกัน พวกเขาก็รีบชักมือกลับ
ลั่วชิงยวนตกใจชั่วขณะแต่ก็ยื่นมือออกไปหยิบอีกครั้ง มันเป็นป้ายสัญลักษณ์สีเขียวที่นางเอามาจากบุรุษผู้นั้นได้ก่อนที่จะถูกโยนลงแม่น้ำ
มีตัวอักษรสลักคำว่า "หอชิงเฟิง"
เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเข้าก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง "ขอข้าดูสักหน่อย"
ลั่วชิงยวนยื่นป้ายสัญลักษณ์ให้เขาพลางกล่าวว่า "หม่อมฉันเอามาจากคนที่โยนหม่อมฉันลงแม่น้ำ"
"ท่านอ๋องทราบหรือไม่ว่าหอชิงเฟิงเป็นสถานที่อันใดกัน?"
ฟู่เฉินหวนแววตามืดมนพลางเอ่ยเสียงต่ำ "หอนางโลม"
"หอนางโลมเช่นนั้นหรือ? ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ใช่คนธรรมดาสามัญเพียงเท่านั้นแล้ว หม่อมฉันไม่รู้ว่าผู้ใดบงการพวกมันอยู่ ถึงได้บังอาจลักพาตัวคนไปโยนลงแม่น้ำกลางวันแสก ๆ! ช่างไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา!" ลั่วชิงยวนโกรธจัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...