"อยู่ก็เป็นคนของตำหนักอ๋อง ตายก็เป็นผีของตำหนักอ๋อง"
"เพียงแต่ว่านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าจะไม่มีฐานันดรศักดิ์เป็นพระชายาอ๋องอีกต่อไปแล้ว มิหนำซ้ำเจ้ายังไม่ต่างอันใดจากบ่าวไพร่ในตำหนักแห่งนี้"
เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเช่นนี้ นางก็รู้สึกทั้งยินดีและประหลาดใจ
ดียิ่งนัก!
ในที่สุดวันที่นางรอคอยก็มาถึงเสียที!
ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่น แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะและ
หลังจากผ่านพ้นเรื่องราวมาตั้งมากมาย ก็ราวกับว่านางหวนคืนสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
กลับคืนสู่สถานะแรกเริ่มอันต่ำต้อยราวกับเดรัจฉานตัวหนึ่ง
บุรุษผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ เขาทำกับนางราวกับข้าทาสและไม่ยอมปล่อยให้นางเป็นอิสระ!
แม่นมเติ้งคุกเข่าลงกับพื้นเป็นคนแรกพลางกล่าวว่า "ท่านอ๋องเพคะ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะคุณหนูรองมาหาเรื่อง หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับพระชายาแต่อย่างใดไม่เพคะ"
ฟู่เฉินหวนเหลือบมองแม่นมเติ้งด้วยสายตาเย็นชา "ถ้าเจ้าไม่อยากเป็นแม่บ้าน ก็ยังมีคนอีกมากมายที่ยินดีจะทำ"
"ท่านอ๋อง..." แม่นมเติ้งคิดจะไปกับลั่วชิงยวน
แต่ลั่วชิงยวนกลับกดหัวไหล่ของแม่นมเติ้งเอาไว้ได้ทันเวลา "ไม่จำเป็นต้องไปขอร้อง ข้าจะไปเอง"
ทว่าจือเฉากลับคุกเข่าขอร้องว่า "ได้โปรดอนุญาตให้บ่าวไปกับพระชายาด้วยเพคะ!"
ถึงเหมันตฤดูแล้ว แต่พระชายายังล้มป่วยอยู่เลย จะไม่มีผู้ใดคอยดูแลพระองค์ได้อย่างไรกัน?
"แล้วแต่เจ้า" ฟู่เฉินหวนเอ่ยทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้วพาลั่วเยวี่ยอิงจากไป
ซูโหยวที่รอคอยอยู่นอกเรือนเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ท่านอ๋องทรงคิดจะส่งพระชายาไปตำหนักนอกเมืองจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?"
หามีผู้ใดอาศัยอยู่ตำหนักนอกเมืองของตำหนักอ๋องได้หรอก กว่าจะใช้ชีวิตผ่านเหมันตฤดูไปได้ก็ช่างแสนยากลำบากนัก
"ส่งนางออกไปวันนี้เลย!" น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนทั้งเย็นชาและหนักแน่น
แม่นมเติ้งช่วยประคองลั่วชิงยวนด้วยสีหน้าเป็นกังวล "พระชายา เรื่องนี้ยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงอีกหรือ? พวกเราต้องจัดการอย่างไรดีเพคะ?"
ลั่วชิงยวนแหงนหน้ามองท้องนภาสีทึมเทาพลางเอ่ยพึมพำว่า "ถ้าหมอรักษาตนเองมิได้ ก็คงยากที่จะคาดเดาชะตากรรมของตัวเองได้แล้ว"
หลังจากพูดจบก็ผุดรอยยิ้มขึ้นมา "แต่ยังไปมิถึงสุดทาง เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องนี้จะไม่มีจุดพลิกผัน?"
แม่นมเติ้งรู้สึกตะลึงงัน ทว่าเมื่อเห็นท่าทีสงบสำรวมของพระชายา ก็ทำให้นางเบาใจลงได้กว่าครึ่งแล้ว
ถึงแม้ว่าบางครั้งพระชายาจะค่อนข้างใจร้อนและข่มกลั้นโทสะไม่ค่อยได้ แต่ยามที่เผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ นางก็มักจะสงบนิ่งจนดูราวกับว่าไม่มีอุปสรรคใดที่นางจะข้ามผ่านไปมิได้
ลั่วชิงยวนสงบสติอารมณ์พลางยิ้มออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นพร้อมหันหลังออกจากห้องว่า "แม่นมเติ้ง เก็บเงินกับเครื่องยาสมุนไพรให้ข้าที ข้าจะเอาไปด้วย"
ลั่วชิงยวนไม่นึกถึงเรื่องนั้นอีก ถึงแม้ว่ามติสวรรค์ยากจะคาดเดา แต่นางเชื่อว่าเรื่องราวขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคน
ในเมื่อนางสามารถถือกำเนิดใหม่ในร่างของลั่วชิงยวนได้ นางก็ต้องขอบคุณสวรรค์ บางทีเมื่อนางออกไปจากตำหนักอ๋องแล้ว อาจจะโชคดีก็เป็นได้!
ดังนั้นการที่นางถูกขับไล่ออกจากตำหนักอ๋องและถูกส่งไปยังตำหนักนอกเมืองแทนที่จะรู้สึกโศกเศร้าและผิดหวัง นางกลับเต็มไปด้วยความคาดหวังเสียมากกว่า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...