เปรี้ยง…
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น
เงายาวนั้นแวบผ่านกลางฟ้ามืดอย่างรวดเร็ว
เข็มทิศสั่นคลอนอย่างรุนแรง
มิได้สั่นคลอนเพราะต้องการตักเตือน แต่เป็นการสั่นคลอนเพราะถูกข่ม
“เทวาภูผา…”
สิ่งนี้ราวกับมิมีใจที่จะมาทำร้าย มิฉะนั้นจวนนอกเมืองคงมิสงบหลายวันเช่นนี้
แต่มันก็ยังไม่ล้มเลิก ราวกับต้องการตัวซ่งเชียนฉู่จริง ๆ
ขณะที่นางกำลังคิด หน้าประตูมีร่างคนปรากฏขึ้น คนที่มาใบหน้าทรุดโทรม ใต้ตาดำคล้ำ สีหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยความผวา
“แม่นางลั่ว…” ซ่งเชียนฉู่ยืนอยู่หน้าประตู
หลังเสียงฟ้าผ่า สายฝนก็โหมกระหน่ำ และตกลงจากฟ้าอย่างรุนแรง
ลั่วชิงยวนดึงซ่งเชียนฉู่เข้าห้อง จากนั้นปิดประตูลง
“แม่นางซ่งนั่งเถอะ”
ซ่งเชียนฉู่นั่งลง มองไปทางลั่วชิงยวน และจับแขนของนางไว้อย่างเกรงกลัว “แม่นางลั่ว ข้า… ข้า…”
ซ่งเชียนฉู่มิรู้ว่าควรเอ่ยปากอย่างไร
ลั่วชิงยวนกลับตบหลังมือของนาง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มมั่นใจ รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและมั่นคง ทำให้หัวใจของซ่งเชียนฉู่สงบลงทันใด
“สีหน้าของแม่นางซ่งมิดีนัก หลายวันมานี้เจ้าคงตื่นกลัวเกินเหตุ และนอนไม่หลับกระมังเจ้าแอบมาหาข้า โดยปิดบังสวี่ชิงหลินใช่หรือไม่?”
“ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็อย่าอึกอักเลย”
ได้ยินประโยคนี้ ไม่รู้เพราะเหตุใดนางจึงร้องไห้ขึ้นมา และเสียงฟ้าคำรามด้านนอก เกี่ยวให้ความกลัวในใจลึก ๆ ของนางเผยออกมาอีกครั้ง
“ข้ามิรู้ว่ามาหาแม่นางลั่วจะมีประโยชน์ไหม แต่ข้าคิดถึงภาพวันนั้นที่ท่านขับไล่ฝูงงู ข้าจึงมาหาท่านด้วยความคาดหวังสุดท้าย!”
ซ่งเชียนฉู่จับมือของลั่วชิงยวนอย่างกังวล “ข้ารู้สึกว่า มันหาข้าเจอแล้ว… และคอยจ้องมองข้าอยู่ตลอดเวลา…”
จือเฉาเดินขึ้นหน้าไปเทน้ำชาสองแก้ว จากนั้นกล่าว “นายของข้าเก่งกาจเป็นที่สุด ปัญหาแค่นี้ มิใช่เรื่องใหญ่นักหรอก”
“เรือนที่เปลี่ยวร้างเช่นนี้ นอกจากนายท่านของข้า จะมีใครกล้าเข้ามาอาศัยอีกเล่า!”
คำพูดของจือเฉา ทำในใจซ่งเชียนฉู่ดีใจขึ้นมา
นางรีบจับมือของลั่วชิงยวนไว้พร้อมกล่าว “แม่นางลั่ว ข้ามิรู้ว่าท่านเป็นเทพจากแดนใด แต่หากท่านสามารถช่วยให้ข้าผ่านด่านยากนี้ไปได้ ข้าจักตอบแทนท่านอย่างดี!”
ลั่วชิงยวนฟังถึงตรงนี้ จึงเลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงน “ตอบแทนอย่างดีรึ?”
นางเพียงแค่สงสัยว่าสถานการณ์อย่างซ่งเชียนฉู่ตอนนี้ จะตอบแทนอย่างดีอย่างไร
แต่แล้วซ่งเชียนฉู่กลับมองนางอย่างตั้งใจ พร้อมกล่าว “แม่นางลั่ว เมื่อครู่ข้าจับชีพจรของท่านเข้าโดยมิได้ตั้งใจ ชีพจรของท่าน มีอาการติดพิษ และเป็นพิษที่สะสมมาเป็นเวลานาน”
“อาการอ้วนท้วมของท่านก็เกิดขึ้นเพราะพิษนี้! ข้ามีโสมเก้าบุษบันอมตะซึ่งเป็นสมุนไพรที่ได้ผลกับการถอนพิษฝังลึกมาก ๆ! หากท่านช่วยข้าได้ ข้าเองก็ช่วยท่านได้เช่นกัน!”
เมื่อได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนรู้สึกตะลึงเป็นอย่างมาก
โสมเก้าบุษบันอมตะหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...