ลั่วชิงยวนกลับตำหนักอ๋องแล้ว
ข่าวนี้รู้กันทั่วตำหนัก มีคนใช้ไม่น้อยที่ออกมาต้อนรับนาง ลั่วเยวี่ยอิงเองก็ได้รับข่าวจึงตามมาดูเช่นกัน
มิคิดเลยว่า ลั่วชิงยวนยังสามารถรอดกลับมาที่ตำหนักอ๋องได้
รถม้าหยุดลง
ซูโหยวเปิดประตูรถออก “พระชายา ถึงแล้วขอรับ”
หน้าประตูมีสาวใช้กลุ่มหนึ่งกำลังรออยู่ พวกนางยังไม่ทันเห็นร่าง กลับได้ยินเสียงไอที่แสนอ่อนแอก่อน
จากนั้นจึงเห็นจือเฉาค่อย ๆ พยุงลั่วชิงยวนเดินลงมา
“พระชายา!” แม่นมเติ้งรีบเดินขึ้นหน้าไปต้อนรับ
ลั่วชิงยวนลากสังขารหนักอึ้งเดินเข้าตำหนักไป
เบื้องหน้า ลั่วเยวี่ยอิงเดินออกมาประจันหน้ากับลั่วชิงยวน ลั่วเยวี่ยอิงเผยยิ้มอ่อนโยนให้ “ท่านพี่กลับมาแล้วหรือ มิรู้ว่าท่านพี่อาศัยในจวนนอกเมือแล้วเป็นอย่างไรบ้าง”
“แค่ก ๆ ๆ ” ลั่วชิงยวนมิได้ตอบ และไอผ่านลั่วเยวี่ยอิงไป
เห็นว่าลั่วชิงยวนไม่สนใจนาง สีหน้าของลั่วเยวี่ยอิงย่ำแย่ พลันจับแขนของลั่วชิงยวนไว้ทันใด
วินาทีนั้น หมวกของลั่วชิงยวนถูกลมพัดปลิว ลั่วเยวี่ยอิงจึงเห็นหน้ากากของนางเข้าอย่างจัง
นางตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว และเกือบจะล้มลงพื้น
“ที่พระชายากลับมารอบนี้แค่เพื่อเข้าร่วมงานแต่งของคุณหนูหลางหลาง คุณหนูรองโปรดอย่าหาเรื่องท่านเลยเจ้าค่ะ” จือเฉากล่าวอย่างไม่พอใจ
จากนั้นพยุงลั่วชิงยวนจากไป
ลั่วเยวี่ยอิงชะงัก นางสติหลุดลอยเป็นเวลานาน
หน้ากากนั้น น่ากลัวเหลือเกิน
ลั่วชิงยวนจะปิดหน้าไปทำไมกัน? แถมเป็นชั้น ๆ อีก!
ลั่วชิงยวนกลับมายังในเรือนของตน ระหว่างทางนางดึงดูดเสียงซุบซิบมิน้อย เพราะการแต่งตัวของลั่วชิงยวน แปลกประหลาดเหลือเกิน
“ปิดประตู ๆ” ลั่วชิงยวนเข้าไปในห้อง และรีบสั่งให้จือเฉ่าปิดประตู
“พระชายา พวกเรายังมิได้ไปเจอท่านอ๋องเลยหนาเจ้าคะ” จือเฉาเอ่ยปากอย่างลังเล
“ไปเจอเขาด้วยเหตุใดเล่า ไม่ต้อง” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเยือกเย็น และดึงหน้ากากที่แสนอัปลักษณ์ด้านในออก
ฟู่อวิ๋นโจวรู้สึกเป็นห่วงมาก
ลั่วชิงยวนมองร่างที่อยู่นอกประตู และถอนหายใจอย่างเอือมระอา
“หม่อมฉันมิพบผู้ใดทั้งนั้น ท่านไปเถิดเพคะ”
ในใจของฟู่อวิ๋นโจวร้อนรนดุจไฟเผา “เหตุใดเล่า?”
“องค์ชายห้า ท่านทำเหมือนหม่อมฉันได้ตายไปแล้วเถิดเพคะ” ลั่วชิงยวนเอ่ยคำแรง
นางมิอยากให้ตัวตนถูกเปิดเผย ย่อมต้องเว้นระยะห่างกับคนรอบด้าน ทางที่ดีคือไม่พบปะกันเลย มิฉะนั้นยิ่งพบปะ โอกาสที่นางจะความแตกก็ยิ่งมาก
บัดนี้ ทั้งตัวนางมีแต่ของปลอม นางกลัวว่าจะถูกจับได้
แต่เมื่อประโยคนี้อยู่ในหูของฟู่อวิ๋นโจวแล้ว กลับทำเขารู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก
เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ นางจึงได้กลายเป็นเช่นนี้
แม่นมเติ้งเองก็ช่วยโน้มน้าว “องค์ชายห้า ท่านเสด็จกลับไปเถิดเพคะ หากท่านอ๋องรู้ว่าท่านเสด็จมาที่นี่ คงกริ้วอีกเป็นแน่ มิดีต่อทั้งท่านและพระชายาหนาเพคะ”
แววตาของฟู่อวิ๋นโจวมืดหม่นลง “ข้าเข้าใจแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...