ซ่งเชียนฉู่ทอดถอนใจอย่างอับจนหนทาง “พวกท่านทั้งสองช่างถูกลิขิตให้พัวพันกันเช่นนี้โดยแท้”
……
ฟู่เฉินหวนรีบเดินออกมาจากเรือน โดยที่ซูโหยวกำลังรอคอยอยู่ข้างนอก “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
“ไปที่จวนตระกูลหลิว” ฟู่เฉินหวนเดินออกจากประตู จากนั้นกระโดดขึ้นบนอาชาแล้วไปที่จวนตระกูลหลิวอีกครั้ง
แขกเหรื่อทุกคนในงานเลี้ยงของตระกูลหลิวถูกควบคุมตัวเอาไว้เป็นการชั่วคราว เนื่องจากพวกเขาต่างสนิทสนมกับหลิวหม่านจึงจำเป็นต้องไต่สวนว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกับคดีที่หลิวหม่านลอบซุกซ่อนเงินบรรเทาทุกข์หรือไม่
แต่ยังเหลืออยู่อีกคนหนึ่ง
นั่นก็คือแม่ทัพสวี่
“ไยพวกท่านต้องจับข้าไว้ด้วยเล่า! ข้าหาได้เกี่ยวข้องอันใดกับเรื่องนี้ไม่! หากพวกท่านมิเชื่อก็ไปตรวจสอบดูได้เลย!"
“ข้าเป็นเพียงแขกผู้มาเยือนเท่านั้น ข้ามิทราบเรื่องที่หลิวหม่านกระทำจริง ๆ!”
แม่ทัพสวี่คุกเข่าลงกับพื้นแล้วขอร้ององครักษ์ที่ควบคุมตัวเขาไว้
ในยามนี้เอง ฟู่เฉินหวนก็เดินเข้ามาด้วยย่างก้าวอันหนักหน่วง พร้อมกับแผ่กลิ่นอายแห่งเจตนาสังหารออกมาด้วย
ความน่าเกรงขามที่เต็มเปี่ยมไปทั่วทั้งร่างทำให้คนมิกล้าแหงนหน้ามอง
แม่ทัพสวี่คุกเข่าอยู่กับพื้น เห็นเพียงรองเท้าสีดำเดินเส้นทองคำภายใต้อาภรณ์วิจิตรงดงาม
จากนั้นน้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นเหนือศีรษะ
“มือข้างใดที่แตะต้องนาง?”
แม่ทัพสวี่ตัวสั่นสะท้านพลางเงยหน้าด้วยท่าทีตื่นตะลึง “ว่า… กระไรนะ?”
ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ ชักดาบยาวออกมาจากเอวขององครักษ์ หามีสีหน้าอันใดบนใบหน้าอันน่าเกรงขามของเขา มีเพียงความเหน็บหนาวอันไร้ที่สิ้นสุดซึ่งชวนให้คนกายาสั่นสะท้าน
“ข้างนี้ใช่หรือไม่?”
ดาบคมกริบก็มาถึงมือขวาของแม่ทัพสวี่
“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่…” แม่ทัพสวี่หวาดกลัวเสียจนหน้าตาซีดขาว เหงื่อผุดซึมหน้าผากแล้วอดมิได้ที่จะตัวสั่น
ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้อธิบายสิ่งใดอีก ดาบคมกริบก็ย้อนกลับมา
“อ๊า…”
เสียงแผดร้องชวนบีบหัวใจดังทะลุฟ้า
แม่ทัพสวี่กลิ้งอยู่บนพื้นด้วยท่าทางคลุ้มคลั่ง พลางจับข้อมือที่มีโลหิตพรั่งพรู
เสียงแผดร้องดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
“ข้ามิเพียงแต่เล่นลูกไม้สกปรกเท่านั้น แต่ข้ากำลังจะเล่นลูกไม้สกปรกให้ถึงที่สุด” ฟู่เฉินหวนน้ำเสียงเย็นชาและแววตาเปี่ยมไปด้วยโทสะที่ลุกโชน
เมื่อเขาโบกมือ องครักษ์หลายสิบนายก็ยกเทียนไขจำนวนนับไม่ถ้วนเขามา
องครักษ์หลายนายจับหลิวหม่านเอาไว้จนหลิวหม่านมิอาจขัดขืนได้
หลิวหม่านถูกดลงกับพื้นแล้วเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ออก
เหล่านางรับใช้และคนรับใช้ที่กำลังคุกเข่าอยู่ในลานเรือนถูกสั่งให้หันหลังไป
จากนั้นหลิวหม่านก็โดนปลดเปลื้องอาภรณ์เสียจนเปลือยเปล่า
“เจ้าชอบเล่นนักมิใช่รึ? วันนี้ข้าจักให้เจ้าได้เล่นสนุกเสียให้พอ” น้ำเสียงอึมครึมของฟู่เฉินหวนดังขึ้น
องครักษ์ถือเทียนเข้ามาแล้วหยดน้ำตาเทียนใส่หลิวหม่าน
หลิวหม่านแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว “ฟู่เฉินหวน! อย่างไรเสียกระหม่อมก็เป็นขุนนางในราชสำนัก! ต่อให้กระหม่อมมีความผิดจริง แน่นอนว่าเบื้องบนย่อมต้องตัดสินโทษและลากตัวข้าไปตัดหัว! ยังมิถึงทีให้ท่านมาลบหลู่กันเยี่ยงนี้!”
“เพราะเหตุใดกัน! ข้าก็แค่เล่นสนุกกับนางรำคนหนึ่ง ไฉนท่านต้องปฏิบัติกับกระหม่อมเช่นนี้ด้วย!”
น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนฟังดูเย็นชา…
“กล้าแตะต้องสตรีของข้า นี่ก็คือผลที่ตามมาอย่างไรเล่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...