ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 490

ทันทีที่เอ่ยวาจาเหล่านี้ออกมา ทุกคนในลานต่างตกตะลึง

หลิวหม่านตกใจเสียจนเนื้อตัวสั่นสะท้าน “ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการช่างสมกับการเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจริง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายถึงกับใช้สตรีของตน ช่างอำมหิตนัก!”

มือของฟู่เฉินหวนที่ไพล่หลังเอาไว้กำเป็นหมัดแน่น

ภายนอกยังคงสงบนิ่งไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ

ในวันนี้เอง เสียงแผดร้องที่ดังขึ้นมาจากจวนตระกูลหลิวสร้างความตกตะลึงให้แก่ทุกคนบนท้องถนน

ข่าวที่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการเปิดโปงเรื่องการยักยอกเงินบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวง

สิ่งที่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกระทำในจวนตระกูลหลิวเพื่อนางรำผู้นั้นเองก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงเช่นกัน

ข่าวที่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกล่าวว่านางรำผู้นั้นเป็นสตรีของตนจึงแพร่สะพัดไปด้วย

……

ลั่วชิงยวนนอนอยู่บนเตียงตลอดสามวัน ช่วงนี้นางฟื้นตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงงอยู่หลายครั้ง ทว่าสติกลับมิแจ่มชัดและมิได้ฟื้นสติเต็มที่นัก

สิ่งที่นางรู้ก็คือมีคนเฝ้านางอยู่ข้างเตียงตลอดทั้งคืนและคอยป้อนโอสถให้นาง

เมื่อนางฟื้นตื่นขึ้นมาก็เห็นซ่งเชียนฉู่อย่างที่คาดคิดเอาไว้

“ท่านฟื้นแล้ว!” เมื่อซ่งเชียนฉู่เห็นนางฟื้นแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด

ซ่งเชียนฉู่รีบประคองนางให้ลุกขึ้นพิงหัวเตียง จากนั้นค่อย ๆ สอดหมอนนุ่มเอาไว้ข้างหลังเพื่อเลี่ยงมิให้กระแทกกับบาดแผลตรงท้ายทอย

“คราวนี้ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อย่าได้กังวลไป ท่านมิได้ทิ้งต้นตอของโรคใดเอาไว้”

ซ่งเชียนฉู่ยกถ้วยโอสถมาให้

“ลำบากเจ้าแล้ว” หลังจากลั่วชิงยวนกล่าวจบ นางก็กินโอสถจนหมดถ้วยในอึกเดียว

“ข้าแค่เขียนเทียบโอสถให้ท่าน มิได้ลำบากอันใด ผู้ที่ลำบากจริง ๆ คือ..."

ก่อนที่ซ่งเชียนฉู่จะทันได้กล่าวจบ ก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงประตู

ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้น “ดูเหมือนว่าข้าจะมาได้จังหวะพอดี แม่นางฝูเสวี่ยฟื้นแล้ว”

ผู้ที่มาหาใช่ใครอื่นนอกเสียจากลั่วเยวี่ยอิง

“ใช่แม่นางซ่งหรือไม่? เจ้าถอยไปก่อน แม่นางฝูเสวี่ยกับข้ามีเรื่องต้องพูดคุยกัน” ลั่วเยวี่ยอิงแสดงท่าทีราวกับเป็นพระชายาแห่งตำหนักอ๋องแล้วออกคำสั่งกับซ่งเชียนฉู่

ซ่งเชียนฉู่มีสีหน้าไม่พอใจแล้วเหลือบมองลั่วชิงยวนด้วยท่าทีลังเลใจ

ลั่วชิงยวนผงกศีรษะ

ทันใดนั้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนักหน่วงดังขึ้นทางด้านนอก นางก็อดมิได้ที่จะยิ้มจาง ๆ “ข้ารู้ว่าคุณหนูรองชื่นชอบท่านอ๋อง จนเกือบได้เป็นพระชายาแล้ว”

“คุณหนูรองยินดีให้ข้าแต่งงานกับท่านอ๋องจริง ๆ หรือเจ้าคะ? คุณหนูรองทนไหวกระนั้นหรือ?”

ลั่วเยวี่ยอิงยิ้มพลางเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีใจกว้างว่า “ในฐานที่เป็นบุรษ การมีสามภรรยาสี่อนุย่อมมิใช่เรื่องแปลกอันใด ในเมื่อท่านอ๋องชอบเจ้า ข้าย่อมต้องยอมรับเจ้าอยู่แล้ว”

เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้ยินข่าว นางก็รีบมาหยั่งเชิงและเห็นว่าแม่นางฝูเสวี่ยนอนอยู่ในห้องของท่านอ๋องจริง ๆ เสียด้วย

เห็นได้ว่าท่านอ๋องให้ความสำคัญกับฝูเสวี่ยผู้นี้ยิ่งนัก

นางจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเอาชนะฝูเสวี่ยให้ได้ก่อน

ลั่วชิงยวนหัวเราะขึ้นมา “ความใจกว้างของคุณหนูรองลั่วทำให้ข้ารู้สึกชื่นชมนัก”

“เพียงแต่ว่าท่านกล่าวเช่นนี้ออกจะเร็วเกินไป เอาไว้ท่านได้เป็นพระชายาเมื่อไหร่ ท่านค่อยมาตัดสินว่าจะยอมรับข้าหรือไม่เถิด”

ช่างน่าขันสิ้นดี

คุณหนูรองผู้เป็นที่รักใคร่ของจวนอัครเสนาบดีถึงกับวางตัวเป็นพระชายาแห่งตำหนักอ๋อง

ลั่วเยวี่ยอิงพลันหน้าตาเหยเกขึ้นมาทันที

เมื่อโดนฝูเสวี่ยเปิดโปงเช่นนี้ สีหน้าของลั่วเยวี่ยอิงก็ฉายแววสับสนอยู่บ้าง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย