ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 514

“ดูสิ เจ้ายังปลอมได้มิแนบเนียนเลยนะ ยังต้องรอบคอบอีกสักหน่อย”

“ข้าเกรงว่าเจ้าคงใช้หัวไชเท้ามาแกะสลักตราประทับกระมัง เจ้าคิดเอาของพรรค์นี้มาหลอกเอาหอฝูเสวี่ยของข้าไปกระนั้นรึ?”

“เจ้าคิดว่าข้าหลอกง่ายถึงเพียงนั้นเชียวรึ?”

ในยามนั้นเอง ท่านอาฉินพลันมีสีหน้าตกตะลึง

มีแววตื่นตระหนกวูบผ่านเข้ามาในใจของนางวูบหนึ่ง แต่แล้วนางก็ตระหนักได้ว่าฝูเสวี่ยน่าจะตั้งใจทำทีสงบนิ่ง ด้วยหวังที่จะบีบให้นางล่าถอย

คุณชายเป็นคนเอาของกลับมาด้วยตัวเอง จะเป็นของปลอมไปได้อย่างไรกันเล่า?

“นี่คือสัญญาที่พวกเราลงนามกันเมื่อคืนนี้ ตราประทับย่อมต้องเปียกชื้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าก็ตั้งใจที่จะเช็ดมันออกด้วย”

“อาศัยแค่เรื่องนี้ เจ้าก็ปฏิเสธมิออกแล้ว”

ท่านอาฉินยังคงเชิดคาง ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้

ลั่วชิงยวนหัวเราะแล้วมองมาที่ใต้เท้าเหอ “ท่านได้ยินท่านอาฉินชัดเจนแล้วหรือไม่?”

ใต้เท้าเหอมีสีหน้าสับสน แต่ก็พยักหน้า “ข้าได้ยินชัดเจนแล้ว เช่นนั้นอย่างไรเล่า?”

ลั่วชิงยวนค่อย ๆ เชิดคาง น้ำเสียงใสกระจ่างของนางเปี่ยมไปด้วยอำนาจ…

“เช่นนั้นขอใต้เท้าเหอได้โปรดเป็นพยาน มาดูกันว่าหอเจาเซียงลักขโมยและฉ้อโกงอย่างไรเถิดเจ้าค่ะ!”

ลั่วชิงยวนโบกมือ

แม่เล้าเฉินจึงเดินถือหีบใบหนึ่งเข้ามา

นางเปิดหีบต่อหน้าใต้เท้าเหอแล้วหยิบสมุดบัญชีเล่มหนึ่งออกมา “นี่คือสมุดบัญชีของหอฝูเสวี่ย”

“นี่คือสมุดบัญชีหลังจากเปลี่ยนชื่อเป็นหอฝูเสวี่ยแล้ว”

“ใต้เท้า ได้โปรดสังเกตดูตราประทับตรงนี้เจ้าค่ะ”

เมื่อใต้เท้าเหอได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกตกตะลึง เขาพลิกดูหลาย ๆ หน้าติดกันก็เห็นตราประทับบนนั้น

หน้าตาของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเหยเก

เมื่อเอามาเทียบกับสัญญาแล้ว ตราประทับบนนั้นช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!

ถึงแม้ว่าจะคล้ายกัน แต่เหลือบมองเพียงปราดเดียวก็บอกได้แล้วว่าตราประทับที่อยู่บนสัญญาเป็นของปลอม!

หน้าตาของท่านอาฉินที่อยู่ข้าง ๆ พลันเปลี่ยนเป็นเหยเก จากนั้นนางก็คิดจะเดินเข้าไปดู

แต่แม่เล้าเฉินรีบขวางอีกฝ่ายเอาไว้แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นี่คือบัญชีของหอฝูเสวี่ย เจ้ามีสิทธิ์ที่ดูด้วยหรือไร?”

ท่านอาฉินสีหน้าซีดขาวแล้วกำหมัดแน่น

“ข้ามิได้โป้ปดนะเจ้าคะ!”

ท่านอาฉินจะกล้ายอมรับว่าขโมยโฉนดที่ดินมาได้อย่างไรกัน ดังนั้นนางจึงได้แต่โต้แย้งต่อไป

ลั่วชิงยวนแค่นเสียงเย็นชาแล้วเอาโฉนดที่ดินกลับคืนมา “คราวหน้าก็หาข้ออ้างที่ฟังขึ้นสักหน่อยเถอะ ทุกคนในเมืองหลวงต่างทราบเรื่องความแค้นระหว่างเจ้ากับข้า ข้าจักขายหอฝูเสวี่ยให้เจ้าหรือไร?”

“ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคืนก็มีหัวขโมยอยู่ในหอและยังมีร่องรอยการต่อสู้ในลานเรือน ใต้เท้าส่งคนมาตรวจสอบดูก็ได้เจ้าค่ะ”

ใต้เท้าเหอส่งคนไปตรวจสอบเบื้องหลังจริง ๆ

แน่นอนว่าเขาย่อมได้รับรายงานกลับมาว่ามีร่องรอยของการต่อสู้กันอย่างดุเดือดอีกต่างหาก

“ท่านอาฉิน เจ้าจะอธิบายเรื่องนี้ว่าอย่างไรเล่า?” ใต้เท้าเหอมองมาที่ท่านอาฉิน

สีหน้าของท่านอาฉินพลันแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวและแข็งทื่อไปเสียแล้ว

ฟู่จิ่งหลีหัวเราะเบา ๆ “ท่านยังต้องการคำอธิบายอันใดอีก? ใต้เท้าเหอ ท่านยังมิเข้าใจอีกหรือ?”

“เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะหอเจาเซียงสูญเสียกิจการไปจึงเกิดความคุมแค้นและอยากเขมือบหอฝูเสวี่ย ดังนั้นจึงวางแผนเพื่อขโมยโฉนดที่ดินของหอฝูเสวี่ย ทั้งยังปลอมแปลงสัญญาซื้อขายแล้วใช้กำลังเข้ายึดหอฝูเสวี่ย! ช่างเป็นวิธีการอันต่ำช้านัก!”

“หอฝูเสวี่ยมีมูลค่ากว่าหมื่นตำลึง”

“ตามกฎหมายแล้ว... สมควรโดนกุดหัว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย