เมื่อท่านอาฉินได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของนางก็ฉายแววตื่นตระหนกและมีเม็ดเหงื่อผุดซึมเต็มหน้าผาก
ใต้เท้าเหอเหลือบมองท่านอาฉินด้วยท่าทีจนใจ เมื่อมีองค์ชายเจ็ดอยู่ที่นี่ เขาก็ทำอันใดมิได้นัก
“มา! จับตัวท่านอาฉินเข้าคุก! รอจนกว่าคดีจะกระจ่างแล้วค่อยจัดการตามกฎหมาย”
คนของทางการเข้ามาจับกุมตัวท่านอาฉินเอาไว้ทันที
จากนั้นก็พาตัวนางไป
บรรดาแม่นางที่ติดตามท่านอาฉินต่างรู้สึกตื่นตระหนก
พวกนางพูดไม่ออกไปสักพัก
หลีเถายิ่งรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นเรื่อย ๆ “ท่านอาฉิน! ท่านอาฉิน!”
ทว่านางร้องตะโกนไปก็เปล่าประโยชน์
ใต้เท้าเหอเหลือบมองหลีเถาที่ถูกลั่วชิงยวนตตรึงเอาไว้ “แม่นางฝูเสวี่ย”
ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “ข้าขอจัดการเรื่องนี้เองเจ้าค่ะ”
ใต้เท้าเหอเข้าใจสิ่งที่นางต้องการจะสื่อแล้วเอ่ยเตือนขึ้นมาว่า “อย่าถึงขนาดให้เลือดตกยางออกเล่า”
หลังจากเขาพูดจบก็เดินจากไป
คนของทางการทุกคนเองก็จากไปด้วย
เมื่อเห็นว่าผู้คนที่อยู่นอกประตูยังคงชมดูเรื่องสนุก ลั่วชิงยวนก็ขยิบตาแล้วสั่งให้พวกเขาปิดประตู
“แม่นางฝูเสวี่ย เจ้าคิดทำอันใดรึ?” ฟู่จิ่งหลีเหลือบมองหลีเถาด้วยท่าทีฉงนสงสัย
“ฉากนองเลือดเพคะ เชิญองค์ชายเจ็ดเสด็จขึ้นชั้นบนก่อนเถิดเพคะ”
ทันใดนั้นแม่เล้าเฉินก็เชิญฟู่จิ่งหลีขึ้นชั้นบน
แต่ก่อนที่จะเข้าไปในห้อง ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของหลีเถาดังขึ้นมาให้ได้ยินจากข้างล่าง
ลั่วชิงยวนคว้าผมของหลีเถาแล้วกระชากอีกฝ่ายขึ้นมาตบอย่างแรง
“เมื่อสักครู่นี้เจ้าเรียกซิ่งอวี่ว่ากระไรนะ? เรียกให้ข้าฟังอีกทีซิ” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนฟังดูทั้งกระจ่างใสและเยียบเย็น ทว่ากลับชวนให้คนสันหลังเย็นวาบ
หลีเถาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือขึ้นมาว่า “นะ… นางแพศยา…”
“ผู้ใดคือนางแพศยารึ?” ลั่วชิงยวนค่อย ๆ นั่งลงบนเก้าอี้
“ขะ… ข้าคือนางแพศยา!” หลีเถาคุกเข่าลงต่อหน้านาง
เมื่อไร้ซึ่งท่านอาฉินคอยหนุนหลัง วันนี้นางย่อมต้องตายเป็นแน่!
หลีเถาที่เต็มไปด้วยโลหิตนอนอยู่กับพื้นแล้วกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดว่า “อ๊า! เจ้าน่าจะสังหารข้าซะ”
เมื่อลั่วชิงยวนเห็นวิธีการของซิ่งอวี่ ก็มีประกายแสงผุดขึ้นในดวงตาวูบหนึ่ง
ช่างเป็นวิธีการอันโหดเหี้ยมนัก
ลั่วชิงยวนแตะหูเบา ๆ พลางกล่าวว่า “หนวกหูเสียจริง จับนางโยนออกไปซะ”
ผู้คุ้มกันเดินเข้ามาแบกหลีเถาแล้วโยนนางออกไปนอกประตู
บรรดาแม่นางที่ก่อนหน้านี้ติดตามท่านอาฉินต่างกำลังคุกเข่าอยู่กับพื้นพร้อมเนื้อตัวสั่นสะท้าน
“แม่นางฝูเสวี่ย พวกเรารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว พวกเรามิได้ทำอันใดเลยนะเจ้าคะ”
เมื่อเห็นชะตากรรมของหลีเถา พวกนางจะมิหวาดกลัวได้อย่างไรกัน
ฟู่จิ่งหลีที่อยู่ชั้นบนยืดแขนพลางมองด้วยสายตาสนอกสนใจ
ลั่วชิงยวนค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า “เช่นนั้นรึ? แต่พวกเจ้ารับเงินกันมาตั้งมากมายมิใช่หรือไร? พวกเจ้าเป็นสายลับที่ท่านอาฉินจ้างวานมาในราคาแพงลิบลิ่ว”
เมื่อพวกนางได้ยินเช่นนี้ก็หวาดกลัวเสียจนรีบหยิบถุงเงินออกมาพลางกล่าวว่า "เงินอยู่ตรงนี้หมดแล้ว ขอแม่นางฝูเสวี่ยโปรดไว้ชีวิตด้วยเจ้าค่ะ!"
ลั่วชิงยวนเหลือบมองด้วยท่าทีไม่ยินดียินร้าย น้ำเสียงของนางฟังดูเย็นชานัก…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...