ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 530

อู๋อิ่งที่อยู่ตรงหน้าประตู ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยดาบ แม้จะใส่ยาห้ามเลือดแล้ว แต่แผลสดเหล่านั้นเต็มเกลื่อนบนใบหน้า!

“เจ้า!” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าพังโฉมตนเองหรือ?”

อู๋อิ่งสวมใส่หน้ากากสีเงิน และเอ่ยเคารพ “เช่นนี้จึงคู่ควรกับชื่ออู๋อิ่ง”

“ฉินเฟิงตายไปแล้ว อู๋อิ่งคำนับนายท่านขอรับ!”

ในใจลั่วชิงยวนตะลึง

เดิมทีเขาได้ใช้ชีวิตที่ไร้ซึ่งความกังวลแล้ว แต่กลับถูกหลอกลวงและหลอกใช้เป็นสิบปีเพื่อบุญคุณเพียงสิบตำลึงนั่น

บัดนี้ ก็ส่งมอบครึ่งชีวิตที่เหลือให้ลั่วชิงยวนอีก

เขาทำลายโฉม สวมใส่หน้ากาก กลายเป็นนักฆ่าที่ไร้ความรู้สึกโดนสิ้นเชิง

ในใจลั่วชิงยวนพร่ำขึ้น

บางทีอาจจะเป็นเรื่องดี

ดีกว่าให้เขารับโทษแทนท่านอาฉินแล้วสิ้นชีพไป ถึงตายก็ยังไม่รู้ความจริง และไม่มีคนรู้ทุกสิ่งอย่างที่เขาทำเพื่อลิ่นฝูเสวี่ย

บัดนี้ อย่างน้อยลิ่นฝูเสวี่ยก็เห็นในสายตา รู้ทุกสิ่งอย่างที่เขาทำ

“ลุกขึ้นเถอะ”

ลั่วชิงยวนให้เขาเข้าห้อง ปิดประตูห้องลงและเอ่ยถาม “เจ้าเจอคนของเจ้าหรือยัง? ลองใจแล้วหรือไม่? เชื่อได้หรือไม่?”

อู๋อิ่งพยักหน้า “เชื่อได้หมดขอรับ! พวกเขามิรู้ว่าข้าอยู่ใต้บัญชาท่าน ต่อให้ความจะแตก ก็เดือดร้อนมิถึงท่าน”

“ทำทุกอย่างตามแผน พวกมันจะควบคุมหอร่ำเมลัย หากฝูจ้าวไปเจอนักฆ่าลายสักอินทรีที่หอร่ำเมลัยอีก รีบรายงานแก่ข้า”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า กำลังจะถามเรื่องเกี่ยวกับฝูจ้าว จู่ ๆ ด้านนอกกลับมีเสียงดีใจของแม่เล้าเฉินส่งมา

“แม่นางแม่นาง! รีบออกมาเร็ว!”

ลั่วชิงยวนเปิดประตูออก “มีเรื่องใดหรือ?”

แม่เล้าเฉินรีบลากลั่วชิงยวนไปที่ฉากกั้น ยิ้มเอ่ยอย่างปรีดา “ท่านดู ท่านอ๋องสำเร็จราชการเสด็จมาเจ้าค่ะ!”

ลั่วชิงยวนเห็นฟู่เฉินหวนที่อยู่ในหอตั้งแต่แวบแรก บัดนี้ในหอมีผู้คนมากมายเช่นนี้ แต่ไอรอบกายเขาหนาวเหน็บ สว่างจ้าราวกับดารากลางฝูงชน ทำคนมิสามารถเมินข้ามเขาไปได้

“มาก็มาเถิด มิจำเป็นต้องบอกข้า”

แม่เล้าเฉินยิ้มเอ่ย “วันนี้มิเหมือนเดิม ท่านอ๋องออกเงินหมื่นตำลึง เหมาหอฝูเสวี่ยเป็นเวลาครึ่งเดือน!”

ได้ยินดังนี้ ลั่วชิงยวนตะลึง “ว่ากระไรนะ!”

ลั่วชิงยวนเข้าห้องไปก่อน

เมื่อกับแกล้มมา ฟู่เฉินหวนเองก็มาถึง

“ท่านอ๋องช่างมีอารมณ์สุนทรี จึงได้เสด็จมาที่หอฝูเสวี่ยบ่อยนัก งานของท่านจัดการเสร็จแล้วหรือ?” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นยะเยือก และรินเหล้าให้เขา

ฟู่เฉินหวนหรี่ตาและเอ่ยพูดครึมๆ “เจ้าชอบเงินมิใช่รึ?”

“ข้าส่งเงินมาให้เจ้า เจ้ามิดีใจรึ?”

ลั่วชิงยวนกำมือแน่น ข่มความไม่พอใจเอาไว้ ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “หม่อมฉันมิได้หาเงินทุกก้อน หม่อมฉันเคยพูดแล้ว มิรับงานของท่านอ๋อง”

ฟู่เฉินหวนหัวเราะหึทีหนึ่ง “เจ้ามีทางเลือกหรือ?”

“อยากหาเงินจากหอนางโลม ก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธลูกค้า ต่อให้อีกฝ่ายเป็นขอทาน เจ้าก็ต้องบริการ”

ความนัยที่แฝงในประโยคของฟู่เฉินหวน ทำไฟโทสะของลั่วชิงยวนลุกโชน

คำพูดนี้ ได้มองนางเป็นบุคคลต่ำตมเสียแล้ว

นางข่มโทสะในใจเอาไว้ คิดถึงเรื่องที่นางจะทำ จึงปลอบตนเองจะโมโหเขาไปทำไม เขามิคู่ควร

“ท่านอ๋องตรัสถูกแล้วเพคะ” ลั่วชิงยวนรินเหล้าให้เขาเต็มแก้วอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย