ลั่วอวิ๋นสี่ตัวสั่นสะท้านรุนแรงและรู้สึกตกใจสุดขีด
เมื่อนางหันกลับไปก็เห็นฝูเสวี่ย แข้งขาของนางพลันอ่อนยวบจนต้องรีบเกาะโต๊ะเอาไว้
“เจ้า!”
“เจ้าแหกคุกออกมากระนั้นหรือ?”
ท่ามกลางรัตติกาลอันมืดมิด ฝูเสวี่ยที่ลอบปรากฏตัวในห้องของนาง และหน้ากากชิ้นนั้นชวนให้ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกมิถูก
ลั่วชิงยวนค่อย ๆ เดินเข้ามา จากนั้นลั่วอวิ๋นสี่ก็หวาดกลัวเสียจนถอยหลังอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า “เจ้าคิดจะกระไรกันแน่? อย่าเข้ามานะ! ที่นี่คือจวนมหาราชครู หากเจ้าแน่จริงก็ลงมือสิ...”
“อ๊า!”
ก่อนที่ลั่วอวิ๋นสี่จะทันได้เอ่ยวาจาข่มขู่ให้จบ ลั่วชิงยวนก็พลันตะปบเข้าที่ลำคอของนาง
เรี่ยวแรงช่างมหาศาลเสียจนลั่วอวิ๋นสี่มีเวลาทันให้ได้กรีดร้องเท่านั้นแล้วก็ส่งเสียงไม่ออกอีกต่อไป นางปัดป่ายมือเท้าพลางดิ้นรนอย่างสุดกำลัง
ความหวั่นเกรงต่อความตายพุ่งเข้ากลืนกินตัวนาง ทำเอาลั่วอวิ๋นสี่ถึงกับจิตใจสั่นสะท้าน
ลั่วชิงยวนใช้มืออีกข้างคว้าข้อมือของลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้ จากนั้นก็สังเกตเห็นรอยเลือดสีแดงสดที่อยู่ข้างในข้อมือของอีกฝ่าย
“ลั่วอวิ๋นสี่ ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกสักครั้ง จงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ภายในสวนเซียงอู๋ให้ข้าฟังอีกครั้ง!”
น้ำเสียงของลั่วชิงยวนฉายแววเยียบเย็นอันเปี่ยมล้นไปด้วยแรงคุกคาม
ในขณะเดียวกัน มือที่กุมลำคอของอีกฝ่ายก็คลายลงไปบ้าง
ลั่วอวิ๋นสี่ที่มิอาจหลุดพ้นจากการเกาะกุม จ้องมองนางด้วยสายตาเคียดแค้น “ต่อให้เจ้าคิดสังหารข้า! ข้าก็มิยอมเปลี่ยนคำให้การหรอก!”
“ข้าไม่มีทางกลับคำให้การให้สตรีชั่วช้าอย่างเจ้าลอยนวลไปได้หรอก!”
คำพูดอันแสนจะตรงไปตรงมาของลั่วอวิ๋นสี่ ทำให้ลั่วชิงยวนต้องขมวดคิ้ว
“โง่เง่าสิ้นดี!”
นางคว้าไหล่กับแขนของลั่วอวิ๋นสี่แล้วทุ่มอีกฝ่ายลงกับพื้น
ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้ลั่วอวิ๋นสี่ถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว จากนั้นก็กัดฟันแน่นเพราะเจ็บเสียจนลุกไม่ขึ้น
“ใครก็ได้! ช่วยด้วย!” ลั่วอวิ๋นสี่รีบร้องเรียกขอความช่วยเหลือ
ทว่าชั่วครู่ถัดมา ลั่วชิงยวนก็คว้าตัวนางเอาไว้แล้วชกใส่หน้าท้องของลั่วอวิ๋นสี่เข้าอย่างแรง
แรงชกรุนแรงเสียจนทำให้ลั่วอวิ๋นสี่ลอยกระเด็นออกไป จากนั้นแผ่นหลังของอีกฝ่ายก็กระแทกเข้ากับขอบเตียง
นางพลันกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง
ลั่วชิงยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า “หาไม่แล้วจะเป็นอันใดได้อีกเล่า?”
ลั่วชิงยวนลุกขึ้นแล้วสะบัดหนอนที่อยู่ตรงปลายมีดสั้นลงไปในถ้วยชา จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาค่อย ๆ เช็ดมีดสั้น
นางเอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า “นี่คือหนอนปรภพกลืนกินศพ”
“เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีผลกัดกร่อนเส้นประสาทขั้นรุนแรง เมื่อใช้แรงผลักดันจากภายนอกมาบอกเล่าสถานการณ์ให้เจ้าฟัง มันก็จะชอนไชเข้าสู่ความทรงจำของเจ้าและทำให้เจ้าคิดว่าเรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง ๆ”
เมื่อลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินเช่นนี้เข้าก็เริ่มอาเจียนอีกครั้ง
“ศพ… หนอน...”
“ข้ามีของพรรค์นี้อยู่ในร่างกายได้อย่างไรกัน?”
ลั่วอวิ๋นสี่มองแอ่งโลหิตที่นางเพิ่งจะพ่นลงไปที่พื้น นางมิได้กังขาเลยว่ามีหนอนอยู่ในร่างกายของนาง
ลั่วชิงยวนหันไปมองนาง “แน่นอนว่าย่อมต้องมีคนอยากจะปิดบังความจริง จากนั้นก็ใช้วาจาของเจ้ามาตัดสินโทษข้าน่ะสิ”
“อะ… อันใดกัน?” ลั่วอวิ๋นสี่มองมาที่นางด้วยสายตาสับสน
คนยังจมจ่อมอยู่กับความย่าสะอิดสะเอียนของหนอนยักษ์ จนมิอาจสลัดพ้น
ลั่วชิงยวนนั่งลงพลางหยิบพู่กันกับกระดาษมาเขียนเทียบยาให้นาง จากนั้นก็ยื่นให้แก่นาง “ถึงแม้ว่าออกจะน่าสะอิดสะเอียนไปบ้าง ทว่าก็เป็นแค่สิ่งเล็กน้อยเท่านั้น หนอนปรภพกลืนกินศพตัวนี้มีพิษ ต่อให้ขจัดหนอนออกไปแล้ว แต่พิษก็ยังคงอยู่ในร่างกาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...