ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 555

“กินโอสถตามเทียบยาของข้าวันละถ้วยประมาณครึ่งเดือนก็จะขจัดพิษออกจากร่างกายได้”

ลั่วอวิ๋นสี่รับเทียบยามาด้วยสีหน้าซีดขาว “เอาล่ะ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนไปรับโอสถ”

ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกลังเลใจ เพราะมิทราบว่าควรจะขอบคุณดีหรือไม่ แต่นางรู้สึกว่าการที่ฝูเสวี่ยช่วยเหลือตนจะต้องมีจุดประสงค์เป็นแน่

“มิได้หรอก ให้คนไปรับโอสถมาต้มยาเดี๋ยวนี้เถอะ” ลั่วชิงยวนมีท่าทีแน่วแน่และไม่คิดจะลุกจากไป

ลั่วอวิ๋นสี่ลังเลอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็ออกไปเรียกคน

สั่งให้คนไปรับโอสถแล้วต้มยา

นับตั้งแต่ต้นจนจบ ลั่วอวิ๋นสี่มิปล่อยให้ผู้ใดมองเห็นลั่วชิงยวนที่กำลังนั่งอยู่ในห้อง

ผู้ที่ไปรับโอสถจากไปแล้ว โดยมีลั่วอวิ๋นสี่กับลั่วชิงยวนนั่งอยู่ตรงโต๊ะ ลั่วอวิ๋นสี่ขมวดคิ้วแล้วเอาแต่นิ่งเงียบ

บรรยากาศทวีความกระอักกระอ่วนขึ้นเรื่อย ๆ ทว่ากลับมิทราบว่าจะเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นจากตรงไหนดี

ลั่วชิงยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า “หลังจากกินโอสถถ้วยแรกไปแล้ว คืนนี้ความทรงจำของเจ้าก็จะค่อย ๆ ฟื้นกลับคืนมา แต่อาจยังรู้สึกสับสนอยู่บ้าง”

“ลำพังด้วยร่างกายของเจ้า คงต้องใช้เวลาถึงสี่ห้าวันกว่าความทรงจำจะกลับคืนเป็นปกติ”

“แต่ข้ารอนานขนาดนั้นมิได้”

“พรุ่งนี้ไปกลับคำให้การที่ศาลาว่าการเสีย!”

น้ำเสียงของลั่วชิงยวนฉายแววสั่งการ มิใช่หารือกับอีกฝ่าย

เมื่อลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินเช่นนี้เข้า อีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจจนถึงกับขมวดคิ้วเพราะไม่เข้าใจ

“กลับคำให้การหรือ? จะ… เจ้าคิดจะให้ข้ากลับคำให้การได้อย่างไรกัน?” ลั่วอวิ๋นสี่ขมวดคิ้ว

หากตัดสินจากท่าทีตอบสนองของลั่วอวิ๋นสี่ ดูเหมือนว่านางยังคิดจะให้การเท็จ

“สิ่งที่ข้ากล่าวในโถงพิจารณาคดีในวันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง! เมื่อพิษในร่างกายของเจ้าค่อย ๆ ถูกขับออกไป เจ้าก็จะนึกออกและข้าใจว่าอันใดถูกอันใดผิด”

“แต่ข้ารอนานถึงเพียงนั้นมิได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

“ผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คิดตัดสินโทษข้าให้ถึงตาย ฉะนั้นพวกเขามิให้เวลาข้ามากนักหรอก! ข้ามิอาจรอเจ้าถึงสี่ห้าวันได้!”

หลังจากลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินเช่นนี้ อีกฝ่ายก็เข้าใจความหมายที่นางต้องการจะสื่อ

ลั่วอวิ๋นสี่ขมวดคิ้ว “เจ้าหมายความว่าลั่วเยวี่ยอิงคิดทำร้ายเจ้า แต่บังเอิญว่าถูกข้าจับได้เข้า นางก็เลยคิดจะสังหารข้าไปด้วย”

“เช่นนั้นเจ้าก็เป็นผู้ที่ช่วยชีวิตข้าไว้แล้วพวกเราก็รอดชีวิตออกมาจากสวนเซียงอู๋ด้วยกันน่ะสิ”

“เช่นนั้นลั่วเยวี่ยอิงก็ปลูกถ่ายหนอนตัวนั้นใส่ข้าเพื่อเปลี่ยนแปลงความทรงจำของข้า เพื่อให้ข้าใส่ความเจ้าจนถึงตายกระนั้นหรือ?”

“เจ้าค่ะ”

หลังจากนางรับใช้จากไปแล้ว ลั่วอวิ๋นสี่ก็ปิดประตูแล้วยกถ้วยโอสถมาให้ลั่วชิงยวนตรวจสอบดู

ลั่วชิงยวนดมกลิ่นแล้วพูดว่า “โอสถหามีอันใดผิดปกติไม่”

“เช่นนั้นข้ากินได้หรือไม่?” พอลั่วอวิ๋นสี่นึกถึงหนอนตัวนั้นก็แทบจะอาเจียนออกมาอีกครั้ง นางอดทนต่ออาการคลื่นเหียนแล้วดื่มโอสถจนหมดถ้วยในอึกเดียว

หลังจากดื่มโอสถแล้ว ลั่วอวิ๋นสี่ก็ครุ่นคิดอยู่สักครู่ จากนั้นก็ขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “ไฉนความทรงจำของข้ายังมิเปลี่ยนไปอีกเล่า?”

ลั่วชิงยวนเอ่นขึ้นด้วยท่าทีจนใจว่า “จะเร็วถึงเพียงนั้นได้อย่างไรกันเล่า!”

“ในเมื่อความทรงจำของข้ายังมิเปลี่ยนไป ข้าจักเชื่อคำพูดของเจ้าได้เยี่ยงไรกัน? ข้าจะกล้ากลับคำให้การของตัวข้าเองได้อย่างไรเล่า?” ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกสับสนอย่างถึงที่สุด

ลั่วชิงยวนจึงขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “อย่างช้าที่สุดคืนพรุ่งนี้ย่อมต้องเปลี่ยนไปแน่ ข้าจะให้เวลาเจ้ามาที่ศาลาว่าการอย่าช้าที่สุดคืนพรุ่งนี้!”

“เมื่อเศษเสี้ยวที่แตกต่างกันของสถานการณ์เดียวกันปรากฏขึ้นในสมองของเจ้า ก็คงเพียงพอให้พิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ข้าว่ามาเป็นความจริง!”

ลั่วอวิ๋นสี่พยักหน้า “เอาล่ะ หากสิ่งที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง ข้าจักรีบไปกลับคำให้การถึงที่ว่าการเดี๋ยวนั้นเลย!”

ในยามนี้เอง ก็มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้นนอกเรือน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย