ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 579

“คราวนี้ข้าจักต้องเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของนางให้จงได้”

“ยิ่งไปกว่านั้น ความผิดของหวังฉินก็ยากจะให้อภัย!”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เช่นนั้นข้าคงต้องลำบากใต้เท้าเหอจับตัวหวังฉินแล้วเจ้าค่ะ”

“ส่วนเรื่องศพของเซี่ยหว่าน ข้าคิดจะเอาไปฝัง”

“ท่านก็เห็นแล้ว บุตรสาวของนางยังเล็กนัก ดังนั้นจึงมิควรปล่อยให้นางเผชิญความหวาดกลัวอยู่ในศาลาว่าการ”

ใต้เท้าเหอจึงตกปากรับคำ

ยามที่นางกำลังจะออกไป หวังอิงก็วิ่งเข้ามาจับมือของลั่วชิงยวนพร้อมน้ำตาอาบใบหน้า “พี่สาว ท่านแม่ของข้ากำลังจะถูกขังอยู่ที่นี่...”

ลั่วชิงยวนโน้มตัวลงมาตบไหล่ของนาง “ข้าจักพามารดาของเจ้าไปด้วย พานางไปฝังกันเถอะ ชาตินี้นางต้องทนทุกข์ทรมานมาเกินไปแล้ว ในที่สุดยามนี้นางก็ได้เป็นอิสระเสียที”

หวังอิงผงกศีรษะอย่างรู้ความยิ่งนัก

อีกฝ่ายล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทว่ากลับทำอันใดมิได้เลย

มารดาของตนตายจากไปแล้ว สำหรับมารดาของตน นับเป็นการปลดปล่อยโดยแท้จริง

ถึงแม้ว่าตนมิใคร่เต็มใจที่จะพรากจากนัก

แต่ชาติหน้า ตนก็ยังคงอยากเป็นบุตรสาวของมารดาอีก

จากนั้นลั่วชิงยวนก็ไปหาท่านลุงฟ่านจากร้านรับจัดพิธีศพและซื้อโลงสำเร็จรูปมาใบหนึ่ง ท่านลุงฟ่านเองก็เชี่ยวชาญยิ่งนักทั้งยังจัดการทุกอย่างได้รอบคอบอีกต่างหาก

ตอนที่หวังอิงกำลังเปลี่ยนชุดให้เซี่ยหว่านอยู่ในห้อง จู่ ๆ อีกฝ่ายก็รีบวิ่งออกมา “พี่สาว ข้าพบสิ่งนี้จากเสื้อผ้าของท่านแม่เจ้าค่ะ”

หวังอิงยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้

มีรอยเย็บตรงขอบจดหมาย จดหมายฉบับนี้คงจะถูกเย็บเข้ากับซับในของชุดเป็นแน่

หากหวังอิงมิได้เปลี่ยนชุดให้มารดาของตน นางก็คงไม่มีวันพบสิ่งนี้

ลั่วชิงยวนรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่บ้าง เพราะหวังว่าสิ่งที่เซี่ยหว่านทิ้งเอาไว้ให้จะเปิดเผยความจริงเรื่องที่นางอยากจะรู้

เมื่อเปิดซองจดหมายออกมา

ส่วนหยวนซื่อนั้น นางมีฝีมือด้านพิณ หมาก อักษรและภาพวาด มิหนำซ้ำยังเป็นกุลสตรีจากตระกูลเลื่องชื่อ ยามที่นางมาถึงจวนเป็นครั้งแรก ฮูหยินใหญ่ก็ดูแลอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

ตอนแรกพวกนางสองคนเข้ากันมิค่อยได้นัก แต่นั่นก็ล้วนเป็นเพราะบิดาของท่าน

บุรุษมิเคยรู้จักพอ เขาแต่งกับหยวนซื่อเพราะเห็นแก่หน้าตา อย่างไรเสียอัครเสนาบดีก็อยู่มิได้โดยไร้ซึ่งคนในเรือนหลัง

แต่เมื่อเขายังคิดจะแต่งสตรีคนที่สามเข้ามา ฮูหยินใหญ่กับหยวนซื่อก็ได้เห็นธาตุแท้ของเขา แทนที่พวกนางสองคนจะอิจฉาริษยากัน กลับทำให้พวกนางกลายเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันเสียได้

เมื่อผ่านไปนานวันเข้า พวกนางก็กลายเป็นสหายสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่อง ทว่าบิดาของท่านกลับถูกพวกนางเมินเฉย

หยวนซื่อมักจะพูดว่าเรื่องที่โชคดีที่สุดนับตั้งแต่แต่งเข้าตระกูลลั่วก็คือ การได้พบเจอฮูหยินใหญ่

นางเองก็หวังให้ฮูหยินใหญ่เป็นบุรุษ เผื่อว่าพวกนางจะได้หลบหนีไปจากจวนอัครเสนาบดีด้วยกัน

คำพูดที่คนรับใช้คุยกันแว่วมาถึงหูบิดาของเจ้า เขาจะทนได้อย่างไรกัน? ขืนปล่อยให้แพร่สะพัดออกไป จะสร้างความอับอายขายหน้าอันใหญ่หลวงให้แก่อัครเสนาบดีอย่างเขามากเพียงใด”

เมื่อลั่วชิงยวนอ่านมาถึงท่อนนี้ นางก็กำจดหมายเอาไว้แน่น โทสะเผาผลาญอยู่ในจิตใจของนาง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย