“คราวนี้ข้าจักต้องเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของนางให้จงได้”
“ยิ่งไปกว่านั้น ความผิดของหวังฉินก็ยากจะให้อภัย!”
ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เช่นนั้นข้าคงต้องลำบากใต้เท้าเหอจับตัวหวังฉินแล้วเจ้าค่ะ”
“ส่วนเรื่องศพของเซี่ยหว่าน ข้าคิดจะเอาไปฝัง”
“ท่านก็เห็นแล้ว บุตรสาวของนางยังเล็กนัก ดังนั้นจึงมิควรปล่อยให้นางเผชิญความหวาดกลัวอยู่ในศาลาว่าการ”
ใต้เท้าเหอจึงตกปากรับคำ
ยามที่นางกำลังจะออกไป หวังอิงก็วิ่งเข้ามาจับมือของลั่วชิงยวนพร้อมน้ำตาอาบใบหน้า “พี่สาว ท่านแม่ของข้ากำลังจะถูกขังอยู่ที่นี่...”
ลั่วชิงยวนโน้มตัวลงมาตบไหล่ของนาง “ข้าจักพามารดาของเจ้าไปด้วย พานางไปฝังกันเถอะ ชาตินี้นางต้องทนทุกข์ทรมานมาเกินไปแล้ว ในที่สุดยามนี้นางก็ได้เป็นอิสระเสียที”
หวังอิงผงกศีรษะอย่างรู้ความยิ่งนัก
อีกฝ่ายล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทว่ากลับทำอันใดมิได้เลย
มารดาของตนตายจากไปแล้ว สำหรับมารดาของตน นับเป็นการปลดปล่อยโดยแท้จริง
ถึงแม้ว่าตนมิใคร่เต็มใจที่จะพรากจากนัก
แต่ชาติหน้า ตนก็ยังคงอยากเป็นบุตรสาวของมารดาอีก
จากนั้นลั่วชิงยวนก็ไปหาท่านลุงฟ่านจากร้านรับจัดพิธีศพและซื้อโลงสำเร็จรูปมาใบหนึ่ง ท่านลุงฟ่านเองก็เชี่ยวชาญยิ่งนักทั้งยังจัดการทุกอย่างได้รอบคอบอีกต่างหาก
ตอนที่หวังอิงกำลังเปลี่ยนชุดให้เซี่ยหว่านอยู่ในห้อง จู่ ๆ อีกฝ่ายก็รีบวิ่งออกมา “พี่สาว ข้าพบสิ่งนี้จากเสื้อผ้าของท่านแม่เจ้าค่ะ”
หวังอิงยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้
มีรอยเย็บตรงขอบจดหมาย จดหมายฉบับนี้คงจะถูกเย็บเข้ากับซับในของชุดเป็นแน่
หากหวังอิงมิได้เปลี่ยนชุดให้มารดาของตน นางก็คงไม่มีวันพบสิ่งนี้
ลั่วชิงยวนรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่บ้าง เพราะหวังว่าสิ่งที่เซี่ยหว่านทิ้งเอาไว้ให้จะเปิดเผยความจริงเรื่องที่นางอยากจะรู้
เมื่อเปิดซองจดหมายออกมา
ส่วนหยวนซื่อนั้น นางมีฝีมือด้านพิณ หมาก อักษรและภาพวาด มิหนำซ้ำยังเป็นกุลสตรีจากตระกูลเลื่องชื่อ ยามที่นางมาถึงจวนเป็นครั้งแรก ฮูหยินใหญ่ก็ดูแลอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
ตอนแรกพวกนางสองคนเข้ากันมิค่อยได้นัก แต่นั่นก็ล้วนเป็นเพราะบิดาของท่าน
บุรุษมิเคยรู้จักพอ เขาแต่งกับหยวนซื่อเพราะเห็นแก่หน้าตา อย่างไรเสียอัครเสนาบดีก็อยู่มิได้โดยไร้ซึ่งคนในเรือนหลัง
แต่เมื่อเขายังคิดจะแต่งสตรีคนที่สามเข้ามา ฮูหยินใหญ่กับหยวนซื่อก็ได้เห็นธาตุแท้ของเขา แทนที่พวกนางสองคนจะอิจฉาริษยากัน กลับทำให้พวกนางกลายเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันเสียได้
เมื่อผ่านไปนานวันเข้า พวกนางก็กลายเป็นสหายสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่อง ทว่าบิดาของท่านกลับถูกพวกนางเมินเฉย
หยวนซื่อมักจะพูดว่าเรื่องที่โชคดีที่สุดนับตั้งแต่แต่งเข้าตระกูลลั่วก็คือ การได้พบเจอฮูหยินใหญ่
นางเองก็หวังให้ฮูหยินใหญ่เป็นบุรุษ เผื่อว่าพวกนางจะได้หลบหนีไปจากจวนอัครเสนาบดีด้วยกัน
คำพูดที่คนรับใช้คุยกันแว่วมาถึงหูบิดาของเจ้า เขาจะทนได้อย่างไรกัน? ขืนปล่อยให้แพร่สะพัดออกไป จะสร้างความอับอายขายหน้าอันใหญ่หลวงให้แก่อัครเสนาบดีอย่างเขามากเพียงใด”
เมื่อลั่วชิงยวนอ่านมาถึงท่อนนี้ นางก็กำจดหมายเอาไว้แน่น โทสะเผาผลาญอยู่ในจิตใจของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...