นางอ่านต่อไป
“ฮูหยินใหญ่รอบรู้เรื่องฮวงจุ้ยและการทำนายดวงชะตา ต่อมาระหว่างที่เกิดความวุ่นวายในวังหลวง มีข่าวลือเรื่องที่วิญญาณชั่วร้ายปรากฏขึ้นมา ความสามารถเหล่านั้นที่ฮูหยินใหญ่รู้มากลับกลายเป็นหนามยอกอกบิดาของท่าน
เขาเกรงว่าความสามารถของฮูหยินใหญ่จะพลอยทำให้เขาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังเกรงว่าจะสูญเสียตำแหน่งอัครเสนาบดีที่ได้มาด้วยความยากลำบากไป
ดังนั้นฮูหยินใหญ่จึงต้องตาย
หามีผู้ใดทราบแน่ชัดว่านางตายได้อย่างไร พวกเขารู้แค่เพียงว่าหลังจากคืนนั้น ฮูหยินใหญ่ก็ตายไป
มีเรื่องบางอย่างที่คนรับใช้อย่างพวกเรามิบังอาจพูดสุ่มสี่สุ่มห้า
ผู้ที่เสียใจกับการตายของฮูหยินใหญ่มากที่สุดก็คือหยวนซื่อ ตัวหยวนซื่อเองก็สงสัยและคิดจะสืบหาสาเหตุการตายของฮูหยินใหญ่ จนในที่สุดก็สืบกลับไปที่บิดาของท่าน
หลายวันนั้นนางร้องไห้อยู่ทุกวันและคิดจะทำลายจวนอัครเสนาบดี
บางทีบิดาของท่านคงจะเหลืออด หรืออาจจะเกรงว่าข่าวเรื่องที่เขาสังหารฮูหยินใหญ่จะแพร่สะพัดออกไป ดังนั้นหยวนซื่อจึงต้องตายไปด้วย
พวกคนรับใช้ที่รู้เรื่องราวภายในต่างได้รับเงินก้อนโตและถูกขับออกจากจวนในปีถัดมา
ข้านึกว่าทุกคนก็เป็นดังเช่นข้าที่เอาเงินไปทำการค้า หรือไม่ก็ออกเรือนและเลี้ยงดูบุตร
ทว่าต่อมา เมื่อข้าออกเรือนไปกับหวังฉินและคิดจะขอความช่วยเหลือ ข้าจึงได้ทราบว่าท่ามกลางบรรดาคนรับใช้ที่ถูกขับออกจากจวน ข้าเป็นเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่รอดชีวิต”
เมื่อลั่วชิงยวนอ่านมาถึงท่อนนี้ นางก็สันหลังเย็นวาบ
นางรู้ว่าลั่วไห่ผิงเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อชื่อเสียงและเงินทอง แต่เมื่อนางอ่านเนื้อหาของจดหมายก็ยังรู้สึกยากจะเชื่อได้ลง
คนผู้หนึ่งจะต้องชั่วช้าสักเพียงใดจึงจะสังหารฮูหยินกับอนุของตนเองได้?
ทว่าสิ่งที่ทำให้นางยิ่งบังเกิดโทสะยังคงรอคอยอยู่เบื้องหลัง
“การที่ข้ายังมีชีวิตอยู่หาใช่เพราะโชคดีไม่ แต่เป็นเพราะบิดาของเจ้าต้องการพยานที่รอดชีวิตมาได้สักคน เพื่อพิสูจน์ว่าการตายของฮูหยินกับอนุของตนเกิดจากการชิงดีชิงเด่นระหว่างพวกนางทั้งสองคน
เขาเป็นคนปั้นเรื่องโกหกให้ข้าเอาไปป่าวประกาศข้างนอกเพื่อทำลายชื่อเสียงของฮูหยินใหญ่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนต่างเชื่อว่าฮูหยินใหญ่กับหยวนซื่ออิจฉาริษยาจนฆ่ากันตาย
ลั่วเยวี่ยอิงพบข้าเมื่อหลายปีก่อน เป็นบิดาของท่านที่สั่งให้ข้าบอกนางว่า ฮูหยินใหญ่สังหารมารดาของนางซึ่งทำให้นางรู้สึกแค้นเคืองในตัวฮูหยินใหญ่
บิดาของเจ้าเกรงว่า หลังจากพวกเจ้าสองพี่น้องล่วงรู้ความจริงเข้าจะร่วมมือกันจัดการกับเขา
นี่ใช่บิดาบังเกิดเกล้าอยู่อีกหรือ?
เลวร้ายยิ่งกว่าเดรัจฉานเสียด้วยซ้ำไป!
นางโมโหเสียจนแทบฉีกจดหมายเป็นชิ้น ๆ แต่เหตุผลก็ทำให้นางต้องอดกลั้นเอาไว้
นางต้องให้ลั่วเยวี่ยอิงได้อ่านเนื้อหาพวกนี้!
มิจำเป็นต้องให้ลั่วเยวี่ยอิงมายืนอยู่ฟากเดียวกับนาง แต่ลั่วเยวี่ยอิงควรจะทราบว่าอาจารย์ของนาง มารดาของลั่วชิงยวนหาใช่คนอย่างที่ลั่วเยวี่ยอิงเข้าใจไม่!
นางจะได้มิต้องทนแบกรับความอยุติธรรมโดยเปล่าประโยชน์! และมารดาของนางก็จะได้มิต้องทนแบกรับคำใส่ร้ายป้ายสีพวกนี้ด้วย!
วันนั้นหลังจากไปฝังศพของเซี่ยหว่านพร้อมกับหวังอิงแล้ว นางก็พาหวังอิงไปพักอยู่ในหอฝูเสวี่ยเป็นการชั่วคราว
แม่เล้าเฉินมีเส้นสายมากมายและคิดจะจัดการให้หวังอิงเข้าสถานศึกษา ยามที่อยู่ในหอฝูเสวี่ย นางก็จะมีทั้งอาหารและที่พัก ทว่าต้องปลอมตัวเป็นบุรุษ
……
ตกกลางคืน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...