จือเฉาถูกจับตัวไป และแม่นมเติ้งก็มิกล้าปริปาก
นางรีบไปหาท่านอ๋องแต่กลับพบว่าท่านอ๋องมิอยู่ในตำหนัก
แม่นมเติ้งทำได้เพียงออกจากตำหนักไปอย่างเงียบ ๆ และหาทางไปหาพระชายา
……
ลั่วชิงยวนเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวง
ในหอร่ำเมลัย เมื่อมาถึง อู๋อิ่งที่รีบกลับมาจากภูเขาหลีซานก็โผล่มา
“เจ้านาย! ข้าเจอแล้วจริง ๆ ด้วย!” อู๋อิ่งที่ร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่น มิได้แม้แต่หยุดพักเลย และน้ำเสียงของเขาก็ฟังดูเร่งด่วนมาก
ลั่วชิงยวนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “พบศพแล้วหรือยัง?”
อู๋อิ่งพยักหน้า “มิใช่แค่เศษแขนขา แต่เป็นร่างทั้งร่างถูกฝังไว้! ป้ายอนุสรณ์ก็ถูกสร้างขึ้นเช่นกัน!"
“ชื่อบนแผ่นศิลาคือกู้หงอี่!”
“ข้าค้นหาทั่วทั้งภูเขา และนั่นคือหลุมศพเพียงแห่งเดียว แถมยังดูใหม่ เพราะข้าไม่มีเวลาเพียงพอข้าจึงมิได้ขุดมันออกมา แต่ควรเป็นคนที่เจ้านายกำลังมองหา!”
ลั่วชิงยวนตกตะลึง นางหรี่ตาลงเล็กน้อย และรอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของนาง "เขาคือคนที่ข้ากำลังมองหาจริง ๆ แล”
“กู้หงเจี่ย กู้หงอี่ ฮ่า ทีนี้อีกคนก็คงเป็น กู้หงปิ่ง(1) ครบสามคนพี่น้อง”
นางรู้อยู่แล้วว่า ใต้หล้านี้ไม่มีทางที่จะมีเรื่องลี้ลับขนาดนั้นหรอก
พี่น้องสามคนที่หน้าตาเหมือนกันทุกประการ มีอัตลักษณ์เหมือนกัน มีทักษะทางการแพทย์ มีนิสัยการใช้ชีวิตเหมือนกันทุกประการ และต่างรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาบ้าง
นางรู้อยู่แล้วว่า คนทั้งสามนี้ถูกใครบางคนชักใยมาตั้งแต่แรกเริ่ม
มิฉะนั้น หมอกู้ผู้นี้จะบังเอิญกลายเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือข้างกายพระชายาหลีได้เยี่ยงไร
ตอนนี้ลั่วชิงยวนยังสงสัยว่า หมอกู้มีส่วนทำให้เกิดความวุ่นวายในตำหนักหรือไม่
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนจึงรีบกลับไปที่ตำหนักทันที
แต่มิไกลจากนอกตำหนักมากนัก นางก็เห็นแม่นมเติ้งรีบขึ้นรถม้า
นางก้าวไปข้างหน้าทันทีและหยุดรถม้า
เมื่อแม่นมเติ้งเห็นนาง นางรู้สึกตื่นเต้นมากจนคว้าแขนของนางเอาไว้แล้วพูดว่า “พระชายา มีบางอย่างเกิดขึ้นเจ้าค่ะ! หลังจากที่ท่านจากไป สิ่งของลับในห้องตำราก็หายไปด้วย ท่านอ๋องทรงส่งคนไปจับท่านทั่วทุกหัวระแหงแล้วเจ้าค่ะ!”
ฟู่เฉินหวนกำลังนั่งอยู่ในห้องส่วนตัว ค่อย ๆ จิบชา ขณะซูโหยวมารายงานว่า “ท่านอ๋อง หมอกู้หาตัวจือเฉาเข้าคุกไปสอบปากคำแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เฉินหวนหรี่ตาลงเล็กน้อยและมืดลง “เขานี่ช่างเจ้าความคิดเสียจริง”
“จือเฉาเป็นนางรับใช้ส่วนตัวของลั่วชิงยวน ดังนั้นนางจึงต้องรู้ว่าลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด”
หลังจากพูดอย่างนั้น ฟู่เฉินหวนก็มองไปที่ซูโหยวอีกครั้ง “เจ้าได้เตรียมการไว้แล้วหรือยัง?”
ซู่โหยวพยักหน้า
……
ลั่วชิงยวนรีบเข้าไปในห้องขังลับและเห็นได้จือเฉาถูกเฆี่ยนตีจนเลือดอาบ
หมอกู้ยืนอยู่ใกล้ ๆ และพูดอย่างเงียบ ๆ “ข้าอธิบายชัดเจนแล้วนี่ ข้าสามารถช่วยชีวิตเจ้าได้”
“หากเจ้ามิยอมเปิดปากอีก แม้แต่สวรรค์ก็ช่วยเจ้ามิได้”
ลั่วชิงยวนโกรธมากจนรีบวิ่งไปเตะประตูห้องขังให้เปิดออก นางคว้าแส้ที่แขวนอยู่บนผนังแล้วฟาดใส่หมอกู้อย่างแรง “กู้หงปิ่ง! ใครให้เจ้ากล้าแตะต้องคนของข้า!”
甲เจี่ย 乙อี่ 丙ปิ่ง เช่นเดียวกับ นายก. นาย ข. นาย ค. ใช้กับพวกสัญญาก็ได้ เช่น เอกสารฉบับนี้ ขอรับรองว่านาย ข. ต้องจ่ายเงินให้นาย ก.
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...