ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 758

ดวงตาของลั่วหลางหลางมืดมน นางขมวดคิ้วมุ่นและก้มหน้าลง

น้ำเสียงดูทำอะไรมิถูกเล็กน้อย “ตอนที่ตระกูลเสวี่ยเย้ยหยันว่าข้าไร้ประโยชน์ ฟ่านลิ่งเสวียนก็บังเอิญมาเยี่ยมเยียนพวกเราที่ซีหยาง ดังนั้นเขาจึงออกปากแทนข้าสองสามคำและโต้เถียงกับตระกูลเสวี่ย”

“ต่อมา ตอนที่เขาคิดจะกลับเข้ากองทัพ ทว่าคืนก่อนเขาพบว่ารองเท้าของเขาชำรุด ข้าจะช่วยซ่อมแซมให้เขาบ้าง ฟ่านซานเหอเองก็รู้เรื่องนี้ดี”

“แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อออกไปสู่ภายนอกแล้วกลับเปลี่ยนไปสิ้นเชิง”

หลังจากฟังแล้ว ลั่วชิงยวนก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือ!

“นั่นหมายความว่า ต้องเป็นตระกูลเสวี่ยที่กุข่าวลือขึ้นแน่!”

“แล้วสินเดิมของเจ้าเล่า ยังจะโลภสินสอดของเจ้าอีกรึ!“

เติมทีนางคิดว่าชีวิตในซีหยางคงสงบสุข แต่มิคิดเลยว่านี่จะเป็นรังหมาป่า

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ถามอย่างสงสัย “ตระกูลฟ่านน่าจะมีเงินเก็บมิน้อย! ไหนจะสินเดิมของเจ้าอีก! เหตุใดเจ้ายังอยากทำการค้าอยู่?”

“แน่นอนว่าตระกูลฟ่านมิต้องทำการค้าก็มีกินมีใช้”

ลั่วหลางหลางตอบด้วยน้ำตาคลอ “ฟ่านซานเหอมิอยากมีชีวิตธรรมดา ๆ เช่นนั้น”

“เขาบอกแก่ข้าว่าเขาอยากให้ข้ามีชีวิตที่ดีขึ้น”

“ยิ่งกว่านั้น เมื่อมีตระกูลเสวี่ยอยู่ด้วย ฟ่านซานเหอทุกวันต้องพบปะเจรจากับเหล่าพ่อค้าและเจ้าของกิจการ สภาพแวดล้อมเช่นนั้นค่อย ๆ หล่อหลอมเขา”

ฟ่านซานเหออีกแล้ว!

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วด้วยความโกรธ “ในเมื่อเขาอยากทำกิจการ เขาก็ต้องดูให้ชัดว่าเขาเหมาะกับมันหรือไม่!”

“เหตุการณ์ลูกแก้วหงส์เพลิงที่หอมหาสมบัติมิทำให้เขาตระหนักอะไรได้บ้างเลยหรือ?”

“เขามิเพียงแต่มิรับผิดชอบเท่านั้น เขายังเป็นตัวถ่วงของเจ้าอีกด้วย”

“ช่างเป็นคนที่ไร้ประโยชน์เสียจริง!”

ลั่วชิงยวนโกรธเล็กน้อยและต้องการให้ลั่วหลางหลางหย่ากับเขา!

แต่ตอนนี้นางเปลี่ยนใจแล้ว นางมิอยากพาลั่วหลางหลางไปด้วย

นางเสียให้ตระกูลฟ่านไปมากมายแล้ว นางจะจากไปได้อย่างไร! ทุกสิ่งในตระกูลฟ่านนี้ควรจะเป็นของนาง!

หลังอาหารกลางวัน ลั่วชิงยวนและลั่วหลางหลางพากันไปจับจ่ายใช้สอยอีกครั้ง สตรีสองคนเดินควงแขนกันตามมาด้วยฟู่เฉินหวนและฟ่านซานเหอ

ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ ฟู่เฉินหวนมองไปที่ลั่วชิงยวน ที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนในดวงตา

ทว่าดวงตาของฟ่านซานเหอเองก็มิเคยละสายตาจากลั่วหลางหลาง เพียงแต่เขากลับมีสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย สีหน้าของเขามิเป็นธรรมชาติ และแววตาของเขาบ่งบอกถึงความกังวลอยู่เสมอ

แขนขององครักษ์ทั้งสองที่เซียวชูพามาด้วยนั้นเต็มไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ

แต่ถึงอย่างนั้น ลั่วชิงยวนก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดจับจ่าย

เซียวชูอดมิได้ที่จะพูดว่า “ท่านอ๋อง คราวนี้เรามิได้นำเงินมามากมายพ่ะย่ะค่ะ"

“หากพระชายายังซื้อของอยู่แบบนี้ นางคงจะต้องยกทั้งซีหยางกลับตำหนักแล้ว”

ฟู่เฉินหวนตกใจเล็กน้อย "เจ้ามีเงินมิพอหรือ?"

เซียวชูพยักหน้าอย่างเชื่องช้า

จากนั้นฟู่เฉินหวนก็เหลือบมองดาบในมือของเซียวชู “จำนำดาบที่ข้าให้เจ้าไปก่อนก็แล้วกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย