เซียวชูตกตะลึงและกอดดาบไว้ในอ้อมแขนทันใด “ท่านอ๋อง! มิได้หนาพ่ะย่ะค่ะ!"
น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเย็นชาเล็กน้อย “หากมิได้ เช่นนั้นก็รีบหาทางเสียสิ? เรื่องแค่นี้ยังต้องถาม เช่นนั้นเจ้าจะมีประโยชน์อันใด”
เซียวชูเกาหัว นี่มิใช่หน้าที่ของเขา รู้อย่างนี้เขาพาซูโหยวมาที่นี่ด้วยดีกว่า
ฟ่านซานเหอรีบพูด “ท่านอ๋อง กระหม่อมมี กระหม่อมจะจ่ายให้พ่ะย่ะค่ะ”
ฟ่านซานเหอพูดแล้วหยิบถุงเงินของเขาออกมาทันที
แต่ฟู่เฉินหวนยกมือขึ้นเพื่อปรามและพูดด้วยน้ำเสียงมิแยแส "พระชายาของข้าต้องการซื้อของเพียงมิกี่อย่าง มิต้องให้คนอื่นจ่ายให้หรอก"
"ข้าจ่ายเองได้"
ฟ่านซานเหอพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและเก็บถุงเงินกลับอย่างเชื่องช้า
ลั่วชิงยวนยังคงจับจ่ายกับลั่วหลางหลางต่อไป ออกจากร้านหนึ่งก็เข้าอีกร้าน
และยังได้ไปที่ร้านของตระกูลฟ่านอีกด้วย
นางซื้ออาภรณ์และเครื่องประดับให้ลั่วหลางหลาง
หลังจากเลือกสร้อยข้อมือมูลค่าสามร้อยตำลึง ลั่วหลางหลางเกิดปฏิเสธ “หากเจ้าต้องการซื้อก็เก็บไว้เองเถิด ข้ามิต้องการสิ่งเหล่านี้"
“ดูสิว่าเจ้าแต่งตัวเรียบง่ายขนาดไหน เจ้ามิสวมอะไรเลย ดูสิว่าใส่แล้วเจ้างามเพียงใด” ลั่วชิงยวนบังคับให้ลั่วหลางหลางสวมสร้อยข้อมือ
ในเวลานี้ ฟ่านซานเหอเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “นี่เป็นร้านของเราเอง เรามิเก็บเงินหรอก หลางหลาง สวมสิ!”
ถ้าเขาจะไม่เรียกเก็บเงินจริง ๆ เสมียนในร้านนี้คงพูดนานแล้ว แล้วเหตุใดต้องรอจนกว่าฟ่านซานเหอจะพูดเล่า
ลั่วชิงยวนยิ้ม “นี่เป็นของที่ข้าซื้อให้หลางหลาง ไม่ว่าเท่าไหร่ข้าก็ยินดีจ่าย หาได้เกี่ยวอันใดกับเจ้าไม่“
“ข้ามิได้ขาดแคลนเงิน”
“หากจะให้อะไรแก่หลางหลาง ไฉนมิให้เร็วกว่านี้ เหตุใดมาทำดีเอาต่อหน้าข้าเล่า”
แม้ว่าลั่วชิงยวนจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ทุกคำล้วนทิ่มแทงใจคน
ฟ่านซานเหอรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงยิ้มและพูดว่า “เป็นความผิดของข้าเองขอรับ”
ฟู่เฉินหวนเดินตามมาช้า ๆ และขอให้เซียวชูจ่ายเงินทันที
“ชิ้นละสิบอีแปะ ขายให้หมด! จือเฉา ไปหาที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านบนถนนแล้วตะโกนขายเสีย”
จือเฉาพยักหน้าแล้ววิ่งไปทันที
เซียวชูตกตะลึง “พระชายา ของเหล่านี้มีราคาเพียงชิ้นละสิบอีแปะ เช่นนี้จะต่างอะไรกับการแจกโดยมิคิดเงินหรือขอรับ?”
ดวงตาของลั่วชิงยวนเป็นประกาย “เจ้าพูดถูก แจกคงจะเร็วกว่าขาย! รีบเอาสิ่งเหล่านี้ไปแจกจ่ายให้คนอื่นเสีย”
เซียวชูตกใจมาก นึกสงสัยว่าพระชายาอาจกำลังแก้เผ็ดท่านอ๋องอยู่!
เขามองท่านอ๋องราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิโกรธเลยแม้แต่น้อย ริมฝีปากของเขายกยิ้ม “ไปเถอะ รีบจัดการให้เสร็จ จะได้กลับมากินข้าวเย็น”
เซียวชูกำลังจะกระอักเลือด
รู้สึกใจเจ็บปวดกว่าการใช้เงินตัวเองอีก
ประเด็นสำคัญก็คือ พระชายาสุรุ่ยสุร่ายขนาดนี้ แต่ท่านอ๋องกลับยังยอมนาง!
ช่างเป็นคู่รักที่สุรุ่ยสุร่ายเสียจริง ๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...