ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 760

ลั่วชิงยวนขึ้นไปชั้นบนแล้วเห็นว่าฟู่เฉินหวนมิได้พูดอะไร

เขากำลังชงชานั่งอยู่ตรงข้ามนาง ท่าทางของเขาสงบและสง่างาม

ลั่วชิงยวนใช้มือช้อนคางแล้วมองเขา “หม่อมฉันใช้เงินท่านไปมากมายขนาดนั้น ท่านมิเสียดายหรือ?”

ฟู่เฉินหวนจิบชาช้า ๆ และมิตอบคำถาม

ลั่วชิงยวนกล่าวเสริม “วันนี้หม่อมฉันได้คุยกับลั่วหลางหลางและพบว่าตระกูลเสวี่ยอาจเป็นคนกุข่าวลือ และกิจการของตระกูลฟ่านก็ถูกตระกูลเสวี่ยวางหมาก จุดประสงค์ของตระกูลเสวี่ยคือเพื่อรีดไถทรัพย์สินของตระกูลฟ่านและยังหมายปองสินเดิมของลั่วหลางหลางด้วย!”

“วันนี้หม่อมฉันจึงใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย มิเพียงแต่เพื่อสนับสนุนลั่วหลางหลางเท่านั้น แต่ยังเพื่อให้ตระกูลเสวี่ยที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เห็นว่าหม่อมฉันสุรุ่ยสุร่ายและโง่เขลา”

“ตระกูลเสวี่ยก็มาจากสมาคมการค้าเฟิงตูเช่นกัน หากพวกเขาติดกับเรา เช่นนั้นเราจะได้หาโอกาสสืบสวน”

ลั่วชิงยวนอธิบายเหตุผล

แน่นอนว่ายังเหตุผลเล็ก ๆ เพราะอยากแก้แค้นฟู่เฉินหวนด้วย

นางมิอาจเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ทุกครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้น การสืบสวนคดีใหญ่ขนาดนี้ จะมีการเสียสละทางการเงินบ้างก็หาใช่เรื่องใหญ่อันใดไม่

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ฟู่เฉินหวนก็ตกใจและประหลาดใจเล็กน้อย

เขาคิดว่านางจงใจเอาคืน ซึ่งหมายความว่าเรื่องในอดีตถือว่าหายกันไป

แต่ทว่านางมิได้ทำเพียงเพื่อระบายอารมณ์ แต่ทำไปเพื่อประโยชน์ของคดี

นั่นหมายความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตยังมิจบสิ้น

“หากเจ้าตั้งใจเอาคืนข้า แล้วจะเป็นอะไรไป”

“ตำหนักอ๋องใหญ่โตเพียงนี้ เจ้าจะทำอะไรก็ได้”

น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนสงบ แต่แฝงไปด้วยความเอ็นดู

ลั่วชิงยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เหตุใดเขาจึงแสดงท่าทางแปลก ๆ เช่นนี้?

แต่แล้วนางก็คิดได้ว่า เงินจำนวนเล็กน้อยนี้มิถือเป็นอะไรสำหรับเขาผู้มีฐานะเป็นถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการ และแน่นอนว่าเขามิสนใจ

หากรู้ก่อนหน้านี้นางคงมิเสียเวลาอธิบายตัวเอง

หลังอาหารเย็น นางขอให้องครักษ์อยู่ในห้องกับจือเฉา นั่งอ่านหนังสือและดื่มชา แกล้งปลอมเป็นลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวน

ทั้งสองคนเปลี่ยนมาสวมเป็นชุดดำและออกจากโรงเตี๊ยมไปอย่างเงียบ ๆ

ญาติทางบ้านก็กำลังจัดการบัญชีกันอยู่ว่าจะได้เงินเท่าไรจากการขายกิจการทั้งหมดให้ตระกูลฟ่าน แถมยังถกเถียงกันว่าจะแบ่งทรัพย์สินกันอย่างไร

พวกเขาตรวจสอบบ้านเจ็ดหลังด้วยวิธีนี้ และสถานการณ์ก็เหมือนกันทุกประการ

ศพถูกหลอมละลายกลายเป็นน้ำ และโดยพื้นฐานแล้วธุรกิจของครอบครัวก็จะขายให้กับตระกูลฟ่าน

เมื่อพิจารณาจากการสนทนาที่ได้ยิน ตระกูลฟ่านอยากจะซื้อกิจการของพวกเขาเป็นอย่างมาก!

และเนื่องจากหางเสือของกิจการเสียชีวิตและไม่มีใครในครอบครัวสามารถแบกภาระได้ ตระกูลฟ่านจึงถือโอกาสกดราคาพวกเขาด้วย

นี่ถือเป็นการฉวยโอกาสจากความโชคร้ายของผู้อื่น

“เมื่อมองเช่นนี้ หากตระกูลฟ่านซื้อกิจการทั้งเก้านี้ด้วยกัน อย่างน้อยกิจการจะใหญ่โตขึ้นเป็นสองเท่า! สถานะของพวกเขาในสมาคมการค้าเฟิงตูจะสูงขึ้นใช่หรือไม่?” ลั่วชิงยวนถาม

ฟู่เฉินหวนพยักหน้า “เป็นเช่นนั้น”

“ตระกูลฟ่านเข้ายึดครองกิจการเหล่านี้เพียงเพื่อขยายอำนาจของพวกเขา หรือเพื่อปิดบังร่องรอยการซื้อขายอาวุธของสมาคมการค้าเฟิงตูกันแน่?”

ลั่วชิงยวนคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "หม่อมฉันคิดว่า เป็นไปมิได้ที่ฟ่านซานเหอจะเป็นผู้บงการคดีนี้ คงไม่แม้แต่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ"

“ส่วนลั่วหลางหลาง หม่อมฉันมิรู้ว่านางรู้เรื่องนี้หรือไม่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย