ก่อนที่นางจะพูดจบ ฟู่เฉินหวนก็คว้าภาพนั้นออกไปและมองดูมันด้วยความหน้านิ่วคิ้วขมวด “ดูอย่างไรก็น่าเกลียด สายตาเจ้าเป็นอะไรไปแล้ว”
หลังจากบ่นด้วยความมิพอใจ ฟู่เฉินหวนก็เดินจากไป
แถมเขายังหยิบรูปนั้นออกไปด้วย
“หากท่านว่าน่าเกลียด เหตุใดท่านจึงต้องเอารูปนี้ออกไปด้วยเล่า?”
นี่คือเสวี่ยชวนเฟิง คุณชายใหญ่ตระกูลเสวี่ย
มิรู้ว่าพฤติกรรมสุรุ่ยสุร่ายของนางดึงดูดความสนใจของตระกูลเสวี่ยหรือไม่
หากพวกเขากล้าโจมตีลั่วหลางหลาง ก็อาจลองหันมาเล่นงานนางซึ่งเป็นพระชายาอ๋องได้เช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้ว เงินของนางมากกว่าสินเดิมของลั่วหลางหลางมาก
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ลั่วชิงยวนจึงตัดสินใจไปที่หออี๋ชุนอีกครั้ง
ขณะออกจากโรงเตี๊ยม นางมิเห็นฟู่เฉินหวน ดังนั้นนางจึงทักทายเซียวชูและบอกถึงที่หมายของนาง
ตอนที่นางไปถึงหออี๋ชุนอีกครั้ง เหล่าสตรีต่างก็มองนางด้วยความหวาดกลัว
ลั่วชิงยวนสตรีสองสามคนที่นางได้พบเมื่อวานนี้เพียงลำพัง
นางเขียนจดหมายให้สตรีเหล่านั้นทีละคน
ก่อนยื่นให้พวกนางตามลำดับ "แค่เอาจดหมายพวกนี้ไปที่หอฝูเสวี่ยในเมืองหลวง แล้วพวกเขาจะช่วยจัดการให้เจ้าเอง"
หลายคนหยิบซองจดหมายไป
หงฝูลังเลและเอ่ยถามขึ้นว่า “พระชายา หลิ่วซิ่งเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”
ลั่วชิงยวนตอบอย่างตรงไปตรงมา “นางตายแล้ว”
หลายคนตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ลั่วชิงยวนพูดอย่างใจเย็น “นางจะตายอยู่รอมร่อแล้ว ยื้อต่อไปก็มีแต่จะทรมานนางเปล่า ๆ ในทางกลับกัน ให้นางได้ตายอย่างสงบจะดีกว่า”
หลายคนดูเศร้าและมิกล้าพูดอะไรมากความ แค่รู้สึกเสียใจ
เป็นเพียงเพราะสิ่งที่ไร้มนุษยธรรมที่หลิ่วซิ่งเอ๋อร์เผชิญนางจึงลงเอยเช่นนี้
"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ พระชายา"
หลังจากกล่าวขอบคุณ พวกนางก็ออกจากหออี๋ชุน
ลั่วชิงยวนยืนอยู่บนชั้นสองและมองไปยังผู้คนที่กำลังเข้าออกจากหออี๋ชุน ดวงตาที่จ้องมองนางในความมืดก็หลบเลี่ยงไปทันที
ชายขี้เมาสองคนมิพอใจทันที “เจ้าเป็นใคร? อย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่น”
ชายคนนั้นยิ้มและพูดว่า “เดินมิเปลี่ยนชื่อ นั่งมิเปลี่ยนแซ่(1) ข้าเสวี่ยชวนเฟิง!"
ทันทีที่คำพูดนั้นดังขึ้น ชายขี้เมาสองคนก็ตกใจมากจนคุกเข่าลง
“ข้ามิรู้ว่าเป็นคุณชายใหญ่เสวี่ย ข้าขออภัยจริง ๆ!”
เสวี่ยชวนเฟิงตวาด “ไปให้พ้น”
“ขอรับ ขอรับ จะไปเดี๋ยวนี้!”
ทั้งสองตกใจกลัวจนต้องวิ่งหนีออกจากหออี๋ชุน
เสวี่ยชวนเฟิงหันกลับมาและยิ้มให้ลั่วชิงยวน “แม่นางคงตกใจกลัวมิน้อย? ข้าจะเลี้ยงชาแม่นางสักถ้วยดีหรือไม่?”
ลั่วชิงยวนมองดูชายตรงหน้า เขามีใบหน้าอ่อนโยน สวมชุดสีขาวพร้อมพัดพับ ดูสง่างามนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาคู่สวย ยากจะละสายตาของเขา
แต่แววตานั้นกลับส่องประกายคมกริบ และแฝงด้วยการคำนวณอะไรบางอย่างเขียนอยู่ในนั้น
ลั่วชิงยวนรู้สึกมิชอบใจ
เดินไม่เปลี่ยนชื่อ นั่งไม่เปลี่ยนแซ่ หมายถึงคนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง กล้าเปิดเผยตัวเองอย่างองอาจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...