“ฟ่านซานเหอไร้ความสามารถและมิสามารถควบคุมกิจการของครอบครัวได้ ดังนั้นเฉินซวนอี๋จึงเป็นผู้รับผิดชอบแทน”
“เงินทั้งหมดของตระกูลฟ่านอยู่ภายใต้การควบคุมของเฉินซวนอี๋”
อวี๋ซวี่หลินพลางยิ้มอย่างดูถูกในขณะที่พูด “นี่คือวิธีการของสมาคมการค้าเฟิงตู”
“คนนอกเมื่อมาอยู่ในซีหยางก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา”
ลั่วชิงยวนรู้สึกเสียวสันหลังอยู่ในใจขณะฟัง
พวกกระหายเลือดเหล่านี้ใช้กลอุบายดังกล่าวเพื่อเอาเงินของตระกูลฟ่านไป
ลั่วชิงยวนถามต่อว่า “เจ้าทำอะไรลงไปอีก ทางที่ดีที่สุดคือบอกทุกสิ่งที่เจ้ารู้มา เราจะได้หาทางออกให้กับเจ้าและหลิ่วซิ่งเอ๋อร์"
“ร่างกายของนางได้รับความเสียหายสาหัสนัก และร่างกายของนางยิ่งทรุดเนื่องจากการกินยาล่าช้า ยาทั่วไปทำให้นางมีชีวิตต่อไปได้มากที่สุดสองหรือสามปีเท่านั้น”
“แต่ข้าสามารถรักษานางได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวี๋ซวี่หลินก็กำมือแน่นด้วยความประหม่า
เขากล่าวว่า “ดูเหมือนว่าเฉินซวนอี๋จะให้ฟ่านซานเหอกินยาอะไรบางอย่าง”
“ฟ่านซานเหอกินมันผ่านมือของหลิ่วซิ่งเอ๋อร์!”
“หลิ่วซิ่งเอ๋อร์บอกว่า ตอนนั้นนางเหมือนจะเห็นแมลงอยู่ในน้ำ...”
ราวกับสายฟ้าฟาดลงมา
คิ้วของลั่วชิงยวนกระตุกเมื่อนางนึกถึงสิ่งที่ลั่วหลางหลางพูดเรื่องที่ฟ่านซานเหอเปลี่ยนไป
แม้ว่านางเคยใกล้ชิดกับฟ่านซานเหอมาหลายครั้งแล้ว และนางก็มิเห็นอาการแปลกประหลาดในตัวเขาเลย
ดังนั้นจึงไม่มีมนต์ดำอะไรในตัวเขา
อย่างนั้นก็เป็นไปได้แค่...
“กู่!”
“พวกเขาใช้พิษกู่กับฟ่านซานเหอ”
อวี๋ซวี่หลินกล่าวต่อ “ข้ามิใช่คนระดับสูงในสมาคมการค้าเฟิงตู และข้าก็มิรู้ความลับของพวกเขาเลย"
จนกระทั่งรุ่งสางอวี๋ซวี่หลินสารภาพเกือบทุกอย่างที่เขารู้ออกมา รวมถึงคำให้การมากมาย
ฟู่เฉินหวนเก็บข้าวของของเขาทั้งหมดแล้วพูดว่า “ในสองสามวันนี้ เจ้ามาทำหน้าที่เป็นองครักษ์ของข้าก่อน”
“ในอีกไม่กี่วันหลิ่วซิ่งเอ๋อร์จะแกล้งตาย และเจ้าจะเป็นคนเคลื่อนย้ายศพของนางออกจากเมือง”
“พานางกลับไปที่เมืองหลวง ข้าจะส่งคนมาคุ้มกันพวกเจ้า ให้พวกเจ้าปลอดภัย จากนั้นเจ้าจะต้องเป็นพยาน หลิ่วซิ่งเอ๋อร์ต้องใช้เวลาในการรักษาตัว หลังจากคดีจบลง เจ้าและหลิ่วซิ่งเอ๋อร์ก็จะเป็นอิสระ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวี๋ซวี่หลินก็คุกเข่าลงโขกหัวคำนับอย่างแรง “ขอบพระทัยท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”
......
หลังจากป้อนยาให้หลิ่วซิ่งเอ๋อร์แล้ว ลั่วชิงยวนยังคงดูภาพเหมือนของสมาชิกตระกูลเสวี่ยอยู่ในห้อง
ทันใดนั้นฟู่เฉินหวนก็เดินเข้ามา
“ไม่ได้นอนทั้งคืน เจ้ากำลังดูรูปของใครอยู่?” ฟู่เฉินหวนยื่นหน้าเข้าไปดูวาดภาพกะทันหัน
ลั่วชิงยวนดูภาพของชายที่อยู่ในมือแล้วพึมพำ “แม้ว่าภาพวาดของอวี๋ซวี่หลินจะมิค่อยดีนัก แต่ยังเห็นได้ว่าชายในภาพนี้ดูหล่อเหลาและมีดวงตาคู่หนึ่งที่…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...