ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 778

เสียงที่ชัดเจนของลั่วชิงยวนดังขึ้น

ผู้คนมากกว่าหนึ่งโหลในห้องตกตะลึง และสายตาของพวกเขามองไปทางลั่วชิงยวนเป็นตาเดียว

“เสวี่ยชวนเฟิง เจ้ากล้าพาพระชายามาที่นี่ได้อย่างไร นี่เป็นเรื่องภายในสมาคมของเรา เจ้ารนหาที่ตาย!”

เฉินซวนอี๋พูดอย่างเย็นชา “ใช่ นี่เป็นความลับของสมาคมจะให้ใครอื่นมาได้ยินได้เยี่ยงไร เสวี่ยชวนเฟิงเจ้ามิเข้าใจกฎเหล่านี้หรือ?”

ผู้อาวุโสยังดุด้วยใบหน้าเย็นชา “ชวนเฟิง เจ้ากำลังทำอะไร!”

“เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากเจ้าพาคนนอกเข้ามาและเปิดเผยความลับของสมาคม เจ้าจะถูกลงโทษโบยร้อยไม้และถูกขับออกจากสมาคม! เจ้าทำร้ายตระกูลเสวี่ยของเราแท้ ๆ!”

คนที่พูดน่าจะเป็นบิดาของเสวี่ยชวนเฟิง

แต่น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการตำหนิ ไม่เหมือนบิดาผู้ให้กำเนิด

เสวี่ยชวนเฟิงก็ดูอึดอัดเช่นกัน เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แม่นางฝูเสวี่ยต้องการซื้อกิจการ หากนางซื้อกิจการเหล่านี้ นางก็จะกลายเป็นคนของสมาคมการค้าเฟิงตู นางมิใช่คนนอกเสียหน่อย! นี่มิถือว่าเป็นการทำความลับรั่วไหล!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตระหนักได้ทันทีว่านี่คือแผนลวง

“ใช่ เมื่อข้าใช้เงินเพื่อซื้อกิจการและเข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตู ดังนั้นข้าจึงมิใช่คนนอกอีกต่อไป!”

ฉางจิ่นเหวินเยาะเย้ย “ท่านพูดว่าจะซื้อก็ซื้อได้หรือ? ข้ายังมิได้ตกลงเลย! กิจการนี้เป็นเรื่องระหว่างข้ากับเฉินซวนอี๋ มิใช่เรื่องที่ท่านจะมาแย่ง”

ลั่วชิงยวนเดินไปข้างหน้าและนั่งลงสบาย ๆ เอนตัวลงบนเก้าอี้อย่างเกียจคร้านแล้วพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

"เจ้ามิได้บอกว่าคนที่ให้ราคาสูงที่สุดจะได้มันไปเช่นนั้นรึ?”

“ข้าได้ยินกับหูของข้าเอง”

ฉางจิ่นเหวินดูโกรธเล็กน้อยและกัดฟัน “เช่นนั้นข้าจะจ่ายสี่หมื่นตำลึง!”

ลั่วชิงยวนลังเล

ราคานี้มิใช่น้อย ๆ เลย!

ในเวลานี้ ฉางจิ่นเหวินยิ้มเย้ยหยัน “หากไม่มีปัญญาซื้อ เหตุใดจะต้องพูดจาใหญ่โตให้ยุ่งยากด้วย”

“อีกอย่าง เสวี่ยชวนเฟิงมิควรถูกลากลงมาทุบตีเป็นร้อยครั้งหรอกหรือ มิเช่นนั้นต่อไปมิว่าใครก็คงสามารถนำคนนอกเข้ามาได้ เราคงวุ่นวายไปหมด?”

เฉินซวนอี๋เองก้เห็นด้วยว่า “หากกฎมิเป็นไปตามกฎ ย่อมต้องวุ่นวายเป็นแน่”

เสวี่ยชวนเฟิงมองไปที่ชายวัยกลางคนบนเก้าอี้ราวกับขอความช่วยเหลือและตะโกน “ท่านพ่อ…”

แต่บิดาของเขาก็มิช่วย ได้แต่พูดอย่างหมดหนทาง “กฎนี้มิอาจฝ่าฝืนได้! ในเมื่อเจ้าจงใจทำลายกฎ เจ้าก็จะทำได้เพียง... “

“ถูกโบยเสีย”

ทันใดนั้นมีอันธพาลสองคนเข้ามาผลักเสวี่ยชวนเฟิงลงไปที่พื้นและพยายามโบยเขาอย่างแรง

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายนางก็ทนมิไหวอีกต่อไป และหยุดพวกเขาทันที “หยุด!”

“ข้ามิได้บอกว่ามิซื้อ!”

ที่สำคัญกว่านั้น สิ่งที่พวกเขาทำเป็นเรื่องที่มิสามารถเปิดเผยได้ ในตอนที่ฟู่เฉินหวนมาที่ซีหยาง พวกเขายังกลัวว่าฟู่เฉินหวนจะมาสืบเรื่องสมาคมการค้าเฟิงตูมิน้อย

แต่ตอนนี้ พระชายาอ๋องได้เข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตูแล้ว หากท่านอ๋องกล้าสอบสวนสมาคมการค้าเฟิงตู ก็เท่ากับสร้างปัญหาให้ตัวเองแล้ว

หากมีอะไรเกิดขึ้น ก็สามารถโยนความผิดให้พระชายาอ๋องได้ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเช่นนี้นับว่ายอดเยี่ยมมิน้อยเลย!

เสวี่ยชวนเฟิงมีความสุขมากยิ่งขึ้นและแสดงความยินดีกับลั่วชิงยวน “วันนี้แม่นางฝูเสวี่ยเข้าร่วมสมาคมการค้าเฟิงตูอย่างเป็นทางการแล้ว”

“คืนนี้เราต้องฉลองให้แม่นางฝูเสวี่ยอย่างสมฐานะ”

“ข้าอยากจะขอบคุณแม่นางฝูเสวี่ยที่ช่วยข้าเอาไว้”

ลั่วชิงยวนยิ้มและพูดว่า “ข้าทำให้ท่านต้องลำบาก หากข้ามิซื้อ ท่านคงต้องตาย ข้ามิอาจทำร้ายท่านได้”

เสวี่ยชวนเฟิงดูซาบซึ้ง

แต่ในใจของเขากลับเย้ยหยัน ลั่วชิงยวนผู้นี้โฉมงามแต่ไร้สมอง

มิน่าแปลกใจที่จะถูกท่านอ๋องควบคุมและเอารัดเอาเปรียบ

ในวันเดียวกันนั้น ลั่วชิงยวนอยู่ในสมาคมการค้าเฟิงตูขึ้น ทั้งดูนั่นดูนี่ เพื่อเรียนรู้วิธีการการดำเนินงานของสมาคมการค้าเฟิงตู อย่างไรนางก็ต้องการสร้างรายได้ มิอยากขาดทุน

ไม่มีใครคัดค้าน แต่เสวี่ยชวนเฟิงจะพานางไปเยี่ยมชม และคอยติดตามนางตลอดเวลา

ในตอนท้ายของวัน ลั่วชิงยวนก็เข้าใจสถานการณ์โดยผิวเผินของสมาคมการค้าเฟิงตูได้แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย