อีกฝ่ายล้มลงกับพื้น เงยหน้าขึ้นเวียนหัว และชี้ไปที่นางด้วยความโกรธ “เจ้า เจ้า เจ้า!”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นลั่วชิงยวน เขาก็หดตัวกลับด้วยความกลัว
“พระ… พระชายา...”
ลั่วชิงยวนดูบูดบึ้ง “เจ้ารู้ว่าข้าเป็นพระชายา แล้วกล้าดีอย่างไรมาทำเยี่ยงนี้กับลั่วหลางหลาง อะไรทำให้เจ้ากล้าดีเพียงนี้ อยากตายนักหรือไร?”
ลั่วชิงยวนโกรธมากจนหยิบไม้กวาดที่วางอยู่ข้าง ๆ ออกมาตีพวกนางอย่างแรง
หลังถูกทุบตี ในสวนหลังบ้านก็มีเสียงคร่ำครวญขอชีวิตดังระงม
ลั่วหลางหลางก้าวมารั้งนางไว้ "หยุดมือเถิด หากเจ้ายังตีนางอีก นางคงตายแน่แล้ว"
จากนั้นลั่วชิงยวนก็หยุดมือ
ใบหน้าของหญิงชรานางนั้นเต็มไปด้วยเลือด นางชี้ไปที่ขอทานตัวน้อยที่ยื่นหน้าออกมาจากด้านนอกของประตูด้วยความโกรธ “เจ้าขอทานนี่ เจ้าเป็นตัวการรึ! คอยดูเถอะ!”
หญิงชราเหล่านั้นหนีหัวซุกหัวซุน
ลั่วหลางหลางเรียกขอทานที่หน้าประตูให้เข้ามาด้วยความกังวล “เสี่ยวซี เจ้าเป็นคนไปตามหาพระชายามาหรือ?”
เซียวซีพยักหน้าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เล็กน้อย “ท่านพี่หลางหลางใจดีกับข้ามาก ข้าจะทนดูท่านถูกพวกเขารังแกได้อย่างไร”
ลั่วหลางหลางลูบศีรษะของเสี่ยวซีแล้วหันไปมองลั่วชิงยวน “ชิงยวน พวกเขาจะไม่ปล่อยเสี่ยวซีไปแน่นอน เจ้าช่วยข้าพานางออกไปจากซีหยางได้หรือไม่?”
“ให้นางทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วให้ข้าวนางกินก็พอ”
ลั่วชิงยวนพยักหน้าพลางมองไปที่แสงสีแดงบนใบหน้าของเสี่ยวซี ลั่วชิงยวนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวซีอาจเป็นเพราะเสี่ยวซีมาบอกความจริงแก่นาง
แน่นอนว่านางต้องช่วยให้อีกฝ่ายรอด
“ไม่มีปัญหา”
“เสี่ยวซี เจ้ากลับไปที่โรงเตี๊ยมก่อน ไปหาจือเฉา นางจะจัดการให้เจ้าเอง”
เสี่ยวซีพยักหน้าและจากไปทันที
ลั่วชิงยวนจับมือของลั่วหลางหลาง มองไปยังมือที่ถลอกของนางด้วยความเจ็บปวดใจ
“หลางหลาง เจ้ายังคิดเผื่อให้เด็กคนนั้น เหตุใดเจ้ามิวางแผนให้ตัวเองบ้างเล่า พวกเขารังแกเจ้าเช่นนี้ เหตุใดเจ้ามิโต้ตอบบ้าง?”
นางดึงลั่วหลางหลางให้นั่งลงหน้าบันได และพูดด้วยเสียงแผ่วว่า “พี่หลางหลาง ขอข้าบอกอะไรบางอย่างให้เจ้าฟังสักหน่อย สมาคมการค้าเฟิงตูถูกต้องสงสัยว่ากำลังก่อกบฏ”
“ท่านอ๋องและข้ามาที่นี่เพื่อสอบสวนสมาคมการค้าเฟิงตู”
“เฉินซวนอี๋เป็นผู้นำสมาคมการค้าเฟิงตู เจ้ามิจำเป็นต้องกลัวว่านางจะข่มขู่เจ้าอย่างไร ตราบใดที่เรื่องนี้ถูกตรวจพบ แม้แต่ชีวิตตัวเอง เฉินซวนอี๋ก็รักษาไว้มิได้ แล้วใครจะเชื่อข่าวลือที่กบฏเผยแพร่เล่า?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วหลางหลางก็ตกใจ “ว่ากระไรนะ?”
ลั่วหลางหลางขมวดคิ้วและนึกย้อน ก่อนพูดด้วยความตกใจ “ที่แท้นางแต่งเข้าตระกูลฟ่านเพียงเพื่อควบคุมตระกูลฟ่านและใช้ประโยชน์จากตระกูลฟ่านนี่เอง”
“มิน่าแปลกใจเลย นางขู่มิให้ข้าเล่าสถานการณ์ของข้าให้เจ้าฟัง ทั้งยังต้องการให้ข้าเกลี้ยกล่อมให้เจ้าออกจากซีหยางโดยเร็วที่สุด”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตั้งคำถามขึ้นว่า “แล้วเหตุใดนางถึงยังปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนี้?”
ลั่วหลางหลางพูดอย่างกังวล “มีเพียงเสี่ยวซีที่มาหาข้าทางประตูหลังบ่อย ๆ นอกนั้นก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอก”
“นางโกรธเจ้า เลยอยากระบายกับข้า”
ดวงตาของลั่วชิงยวนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา และนางดึงลั่วหลางหลางขึ้นมาทันที “เราไปหานางกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...