ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว มองไปรอบ ๆ แต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
นางค่อย ๆ เดินไปยังจุดที่เสวี่ยชวนเฟิงนั่งอยู่ แต่ทันใดนั้นก็พบว่าเสวี่ยชวนเฟิงลงไปกองกับพื้น
ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วและก้มลงเพื่อเขย่าเสวี่ยชวนเฟิง แต่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากเขา
ลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ และพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
จากนั้นนางก็ช่วยพยุงเสวี่ยชวนเฟิงขึ้น ก่อนกลับมายังตำแหน่งเดิมของนางเพื่อนอนหลับต่อ
......
รุ่งสางแล้ว
คนของสมาคมการค้าทยอยกันมาถึง พวกเขาปลุกลั่วชิงยวนและเสวี่ยชวนเฟิง
ทั้งสองตื่นขึ้นมา ขยี้ตาด้วยความงัวเงีย
“ข้าง่วงมากจนเผลอหลับไปก่อนจะตรวจบัญชีเสร็จเสียอีก” ลั่วชิงยวนหยิบสมุดบัญชีขึ้นมาอ่านต่อ
เสวี่ยชวนเฟิงเริ่มไม่ไหว แต่ก็ยังคงนั่งอยู่กับนางต่อไป
ลั่วชิงยวนอยู่ต่ออีกครึ่งวัน แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ และชายในชุดดำก็ไม่ปรากฏตัว ดังนั้นนางจึงออกจากสมาคมการค้าเฟิงตูไป
เมื่อกลับมาถึงโรงเตี๊ยม ลั่วชิงยวนจึงถามจือเฉาว่า “มีข่าวอะไรจากท่านอ๋องบ้างหรือไม่?”
จื่อเฉานำชาและอาหารมาให้ “ท่านอ๋องมิอยู่เพียงสองวัน พระชายาก็คิดถึงท่านอ๋องแล้วหรือเจ้าคะ?”
“เซียวชูส่งจดหมายมาทางนกพิราบแล้วเจ้าค่ะ”
จื่อเฉาหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมามอบให้ลั่วชิงยวน
ลั่วชิงยวนคลี่มันออก บนกระดาษบอกว่า พวกเขาเพิ่งมาถึงหมู่บ้านปี้หลิ่งและไม่พบร่องรอยของสัตว์ร้ายเลย
“นกพิราบสื่อสารยังอยู่ที่นี่ หากพระชายามีอะไรจะบอกท่านอ๋องก็สามารถส่งข้อความฝากไปได้เจ้าค่ะ”
จือเฉายกกรงขึ้นจากขอบหน้าต่าง
ลั่วชิงยวนเขียนคำสั้น ๆ สองสามคำ เพื่อแจ้งให้เขาทราบถึงสถานการณ์
นางมิได้พูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่นางค้นพบเมื่อคืนนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นความลับ ดังนั้นนางคงต้องบอกฟู่เฉินหวนด้วยตนเองในภายหลัง
“พี่สาวหลางหลางถูกรังแก! นางถูกไล่ให้ไปอยู่ที่สวนหลังบ้านตระกูลฟ่าน นายหญิงกำลังบังคับให้นางซักผ้า และยังทุบตีนางอีก! พระชายาได้โปรดช่วยนางด้วยเจ้าค่ะ!”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของลั่วชิงยวนก็เปลี่ยนไป “ว่ากระไรนะ?!”
ลั่วชิงยวนรีบวิ่งออกจากประตูไปทันที และขอทานตัวน้อยก็รีบพานางไป
คราวนี้มายังประตูหลังบ้านตระกูลฟ่าน ประตูเปิดอยู่ ขณะนั้นหญิงชราเหล่านั้นกำลังบังคับให้ลั่วหลางหลางซักเสื้อผ้าของพวกนาง เสื้อผ้าในอ่างกองเป็นภูเขา อีกฝ่ายยังโยนเสื้อผ้าใส่นางด้วย
“พวกนี้ต้องซักให้เสร็จวันนี้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต้องกินข้าว!”
ลั่วหลางหลางมิได้พูดอะไร
หญิงชรานางหนึ่งยังผลักหัวของลั่วหลางหลางอย่างแรง “ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่ เจ้าได้ยินหรือไม่ ถ้าได้ยิน ก็ตอบมา!"
“เป็นใบ้หรือไร?!”
ลั่วหลางหลางมิได้พูดอะไร หญิงชรานางนั้นพับแขนเสื้อขึ้น แล้วพยายามฉวยเรือนผมของลั่วหลางหลาง
สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไป รีบเข้าไปคว้าคอเสื้อของหญิงแก่คนนั้นไว้ แล้วตบหน้านางทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...