ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 858

“ซวนอี๋ถูกนำตัวไปที่หอนางโลมแล้ว!”

“หลางหลาง ขอร้องช่วยนางด้วย!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเล็กน้อย และอดมิได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น

มันเกิดขึ้นจริงเร็วมาก

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ ลั่วหลางหลางก็ตกใจและถามว่า “เหตุใดจึงถูกจับตัวไปหอนางโลม? ถูกจับไปหอนางโลมก็ไปแจ้งทางการเสียสิ มาหาข้าด้วยเหตุใด?”

ฟ่านซานเหอรู้สึกหมดหนทางและพูดว่า “ซวนอี๋ นางเคยทำให้บางคนขุ่นเคืองและเป็นหนี้อยู่บ้าง หลังจากเหตุการณ์นั้น คนเหล่านั้นมาหาเราและบังคับให้เราจ่ายเงินคืน”

“ซวนอี๋ไม่มีอะไรเหลือแล้ว เราจะมีเงินได้อย่างไรกัน”

“หลังจากขายทรัพย์สินทั้งหมดแล้วก็ยังมิพอใช้หนี้ พวกเขาจึงจับซวนอี๋ไปขาย”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วหลางหลางก็ขมวดคิ้ว “เป็นหนี้เท่าไหร่?”

ฟ่านซานเหอลังเลและพูดว่า “ยังขาดอีกเจ็ดหมื่นตำลึง”

“เจ็ดหมื่นตำลึง เจ้าคาดหวังให้หลางหลางช่วยเจ้าจ่ายเงินก้อนโตขนาดนี้เชียวรึ?”

ลั่วชิงยวนหัวเราะเย็นชา

“นอกจากนี้เฉินซวนอี๋อาจมิได้ทำให้คนอื่นโกรธ แต่หลอกลวงคนอื่นมากกว่า พวกเขาขายเฉินซวนอี๋มิขายเจ้าไปด้วยอีกคนก็ถือว่าพวกเขามีเมตตาแล้ว”

คำพูดมิกี่คำของลั่วชิงยวนทำให้ฟ่านซานเหอหน้าแดงด้วยความอับอาย

แต่จะทำอย่างไรได้

นอกจากลั่วหลางหลางแล้ว เขามิรู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใคร

“หลางหลาง ข้ารู้ว่าเจ้าจิตใจดี เจ้าจะช่วยข้าอย่างแน่นอนใช่หรือมิ?”

“อย่างน้อยเราก็เคยเป็นสามีภรรยากัน ช่วยข้าด้วยเถิด”

ขณะที่ฟ่านซานเหอพูด พลางคุกเข่าขยับไปข้างหน้าสองก้าว คว้าชายกระโปรงของลั่วหลางหลางแล้วขอร้องอย่างหมดหวัง

ลั่วชิงยวนกลัวว่าลั่วหลางหลางจะใจอ่อน ดังนั้นคิดจะออกปากห้าม

แต่ลั่วหลางหลางตัดสินใจก่อน

“เงินที่ท่านเป็นหนี้มิเกี่ยวอันใดกับข้า แม้ข้าจะใจดี ก็ไม่มีเหตุผลที่จะช่วยท่านใช้หนี้”

“มิต้องพูดถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งวันเดียวระหว่างสามีภรรยา ระหว่างเรามีแต่ความแค้น ไม่มีความดี”

ลั่วหลางหลางมีท่าทีแน่วแน่อย่างมาก

ฟ่านซานเหอยังคงอยากขอร้องนางต่อ

ลั่วหลางหลางเรียกเซี่ยงชงมา

ฟ่านซานเหอกล่าวว่า “แต่ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเขา และการแต่งงานของพวกเจ้าจะต้องได้รับความยินยอมจากข้า!”

“หากเจ้าใจแข็งขนาดที่จะตัดขาดกับข้า เจ้าและน้องชายของข้าก็ไม่มีวันเป็นไปได้!”

ใบหน้าของลั่วหลางหลางเต็มไปด้วยความโกรธ กระแทกประตูปิดเสียงดัง

ลั่วหลางหลางพิงประตูด้วยความโกรธ

ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าและจับมือนางไว้ “ปล่อยเขาไป ไป เราไปกินข้าวกันเถอะ”

“อย่างที่เจ้าพูด สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้ากับฟ่านลิ่งเสวียนเป็นเรื่องระหว่างเจ้าสองคน และมิใช่เรื่องที่ฟ่านซานเหอจะมาข้องเกี่ยว”

“ยิ่งกว่านั้น ฟ่านลิ่งเสวียนมิใช่คนที่ทำตามคำพูดของฟ่านซานเหออย่างไม่มีเหตุผล เขามีความคิดและความเห็นเป็นของตัวเอง ฟ่านซานเหอมิสามารถแทรกแซงได้”

“อย่าเสียอารมณ์เพราะคนเช่นนี้เลย”

หลังจากที่ลั่วชิงยวนพูดปลอบ ลั่วหลางหลางก็มิได้โกรธมากนัก นางยิ้มแล้วพูดว่า "ใช่ มิต้องสนใจเขา ไปกินข้าวกันเถอะ”

“นี่คือเหล้าที่ข้าหมักเอง ยังหมักได้มินานพอ พวกเจ้าลองชิมดูก่อน”

“ข้ายังฝังอีกหลายไห อีกสองปีเอาออกมาน่าจะหอมหวานกว่านี้”

ซ่งเชียนฉู่จิบหนึ่งอึกแล้วถอนหายใจด้วยความชื่นชม “คุณหนูหลางหลางเก่งมาก ทำได้ทุกอย่างเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย