“เขาเป็นคนมีน้ำใจดีมาก”
จากน้ำเสียงของลั่วหลางหลาง เห็นได้ชัดว่านางชื่นชมฟ่านลิ่งเสวียนเป็นอย่างมาก
“เถ้าแก่อวี๋นี่ใครกัน?” ลั่วชิงยวนสับสน
ลั่วหลางหลางตอบว่า “นางก็เป็นเจ้าของร้านแป้งชาดเหมือนกัน แต่ตั้งแต่ร้านของข้าเปิด ร้านแป้งชาดของนางก็ไม่มีลูกค้าเลย”
“นางมักจะมาที่ร้านของเราเพื่อสร้างปัญหา หวังจะไล่ลูกค้าของข้าไป”
“มิเป็นไร เจ้ามิต้องกังวลเรื่องข้าหรอก ข้าส่งคนไปตรวจสอบร้านแป้งชาดของนางแล้ว พวกเขาใช้วัสดุราคาถูกทั้งนั้น หากใช้มากเกินไป ใบหน้าจะเสียโฉม”
“และครอบครัวของนางก็หลบเลี่ยงภาษีไปมิน้อยเลย”
“ข้าได้สมุดบัญชีมาแล้ว”
“ข้ามิกลัวว่านางจะมาสร้างปัญหา”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็หยุดชะงักเล็กน้อย ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ
ลั่วหลางหลางมองนางอย่างสงสัย “เจ้ายิ้มเพราะเหตุใดรึ?”
“ข้ามีความสุขมาก หลางหลาง ตอนนี้เจ้าเปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับตอนที่เจ้าอยู่ในจวนมหาราชครู เจ้าฉลาดมาก แค่กล้าหาญขึ้นอีกหน่อย เจ้าก็สามารถบรรลุสิ่งที่แตกต่างออกไปได้”
ลั่วชิงยวนมีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วหลางหลางก็ยิ้มออกมา “สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็เป็นประสบการณ์อันล้ำค่าสำหรับข้าเช่นกัน ผู้คนย่อมเติบโตขึ้น”
เมื่อเห็นลั่วหลางหลางในตอนนี้ ลั่วชิงยวนก็โล่งใจ
“ช่วงนี้หอการค้าเฟิงตูเป็นเช่นไรบ้าง?”
ลั่วหลางหลางตอบว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดี”
“หอการค้าเฟิงตูยังคงมีรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง มินานก็กลับสู่ภาวะปกติแล้ว”
"ก็ดีแล้ว"
ลั่วชิงยวนอยากจะถามอีกว่าตอนนี้ฟ่านซานเหอและเฉินซวนอี๋เป็นเช่นไรบ้าง
แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็ตัดสินใจว่าจะมิพูดถึงคนอับโชคเช่นนี้
บ้านที่ลั่วหลางหลางอาศัยอยู่ตอนนี้มิใหญ่เท่ากับบ้านของตระกูลฟ่าน แต่ก็เพียงพอสำหรับนางคนเดียว
สวนในบ้านได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ดอกไม้และต้นไม้เบ่งบานเป็นพิเศษ ทุกมุมซ่อนความเอาใจใส่ของลั่วหลางหลางไว้
นางพูดอย่างเย็นชา “เข้ามาคุยกันข้างใน”
หากฟ่านซานเหอคุกเข่าอยู่นอกบ้านให้คนเห็น พรุ่งนี้เมืองซีหยางคงมีข่าวลือเพิ่มขึ้นอีกเรื่อง
เมื่อเข้าไปในลานบ้าน ฟ่านซานเหอรู้สึกประหม่าและเครียดเล็กน้อย เมื่อเห็นลั่วชิงยวนและซ่งเชียนฉู่อยู่ที่นั่น
แต่เขาก็ยังบังคับตัวเองให้คุกเข่าลงอีกครั้ง
“หลางหลาง ช่วยข้าด้วยเถิด!”
ลั่วหลางหลางพูดอย่างเย็นชา “ท่านจะให้ข้าช่วยสิ่งใด เราตกลงกันแล้วอย่างไรเล่าว่าจะมิพบกันอีก”
ฟ่านซานเหอพูดด้วยความสิ้นหวัง “ครั้งนี้เกิดเรื่องใหญ่ ข้าหมดหวังและจนปัญญาแล้ว…”
“คนเดียวที่สามารถช่วยข้าได้ตอนนี้คือเจ้าแล้ว หลางหลาง!”
ลั่วชิงยวนถามอย่างมิอดทน “มีเรื่องอันใดก็รีบพูด ข้ายังยุ่งอยู่กับการกินอาหารกลางวัน"
ฟ่านซานเหอมีสีหน้าลำบากใจ กังวลที่มีคนอื่นอยู่ด้วยจึงมิกล้าพูด
แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดออกมา…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...