“ไม่มี”
“ข้าเพิ่งรู้เบาะแสบางอย่างก็เท่านั้น”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ลั่วเยวี่ยอิงมิยอมเชื่อง่าย ๆ นางร้องไห้อย่างน้อยใจ และดึงแขนเสื้อของฟู่เฉินหวนเอาไว้ “ท่านอ๋อง ท่านอ๋องมิอยากรักษาตาให้หม่อมฉันหรือ”
“หม่อมฉันรู้ว่าที่ผ่านมามันเป็นความผิดของหม่อมฉันทั้งหมด หม่อมฉันรู้ว่าตัวเองผิด หม่อมฉันจะมิกล้าอีกแล้ว”
“หากหม่อมฉันตาบอด หม่อมฉันคงมิอาจมีชีวิตอยู่ได้”
“ท่านอ๋องบอกความจริงกับหม่อมฉันเถิดเพคะ หากท่านมิคิดจะรักษาดวงตาของหม่อมฉัน หม่อมฉันก็จะไปตายเดี๋ยวนี้เลย”
"จะได้มิต้องให้คนอื่นมารังแกตอนที่หม่อมฉันตาบอด..."
ลั่วเยวี่ยอิงพูดและร้องไห้สะอึกสะอื้นมากขึ้นกว่าเดิม
ลั่วชิงยวนถูกรบกวนจนปวดหัว พยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นนั่ง หยิบถ้วยชาข้างเตียงแล้วขว้างไป
“ถ้าอยากร้องไห้นักก็ออกไปร้องไห้ข้างนอกซะ”
ถ้วยชาแตกลงที่เท้าของลั่วเยวี่ยอิง ทำให้ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้หนักขึ้นอีก
ฟู่เฉินหวนปวดหัวอย่างหนัก เส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้น เขารีบยกมือขึ้นจับหัวตัวเอง
รู้สึกเหมือนมีหนามมากมายแทงเข้าไปในสมองของเขา เจ็บปวดแทบทนมิไหว
หลายครั้งที่เขาอยากจะรับปากลั่วเยวี่ยอิง และมอบสนหิมะเขาฉีซานให้นาง
แต่เหตุผลทำให้เขาสามารถควบคุมตัวเองไว้ได้
แต่ความปวดหัวอย่างหนักทำให้เขาแทบทนมิไหว
ลั่วเยวี่ยอิงยังคงร้องไห้ ฟู่เฉินหวนทนมิไหวอีกต่อไป รีบวิ่งพรวดพราดออกจากประตูไป
ขังตัวเองในห้องตำราทันที
ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้ ไล่ตามไป “ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง หม่อมฉันมิพูดแล้วก็ได้ อย่าเพิกเฉยต่อหม่อมฉันเลยเพคะ”
ฟู่เฉินหวนกดศีรษะของเขาแน่น โซเซไปชนโต๊ะ และกระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะ
แต่ก็ยังมิสามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้ ใบหน้าของเขาซีดเผือด เส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้น เขา ทุบศีรษะตัวเองอย่างแรงด้วยหมัด
เมื่อซูโหยวได้ยินเสียงดังกล่าว จึงรีบให้คนมาอุ้มลั่วเยวี่ยอิงออกไปจากประตูทันที
เมื่อเขาพุ่งตัวเข้าไปในห้อง ก็เห็นฟู่เฉินหวนกำลังจะทุบศีรษะตัวเองอยู่
เขารีบก้าวไปข้างหน้าและหยุดฟู่เฉินหวนเอาไว้
“ท่านอ๋อง! ท่านอ๋องอย่าทำเช่นนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”
ดวงตาของฟู่เฉินหวนแดงก่ำ เต็มไปด้วยเส้นเลือด มือทั้งสองข้างกดหัวตัวเองกลิ้งไปบนพื้น
ในหัวของเขาดูเหมือนจะมีเสียงนับมิถ้วนกำลังพูดว่า ‘ให้ยาแก่นางเสีย’
ให้ยาแก่นางเสีย
ให้นางเสีย
อั่ก…
เขากระอั่กเลือดออกมาอย่างแรง
อาภรณ์ของเขาย้อมด้วยสีแดงฉาน
ความรู้สึกเวียนหัวอย่างรุนแรงเกิดขึ้น ปกคลุมความเจ็บปวด เขานอนหมดแรงอยู่บนพื้น
ความเจ็บปวดจึงค่อย ๆ บรรเทาลง
แต่ในหัว เสียงนั้นยังคงอยู่
เล็บของฟู่เฉินหวนเจาะเข้าไปในฝ่ามือของเขาแน่น เขาจะมิยอมให้ใครมาควบคุมเขาได้
เมื่อซูโหยวเชิญหมอหลวงกลับมา ฟู่เฉินหวนก็นั่งอย่างสงบบนเก้าอี้ในห้องตำราแล้ว
ใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อย บรรยากาศรอบตัวเย็นชา
ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าใกล้
“ท่านอ๋อง หมอหลวงมาแล้ว”
"กลับไปเถอะ ข้ามิเป็นอะไร"
ซูโหยวดูท่านอ๋องแล้วมิเหมือนว่ามิเป็นอะไร แต่เขาทำได้เพียงเชื่อฟังคำสั่งและส่งหมอหลวงกลับไป
หลังจากนั้นก็กลับมาที่ห้องตำราต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...