เขาถามอย่างเป็นกังวล “ท่านอ๋อง ท่านจะมิทรงให้หมอหลวงตรวจดูจริง ๆ หรือ?”
เหตุการณ์เมื่อครู่ ท่านอ๋องมิเคยเป็นเช่นนี้มาก่อน เหมือนกับกลายเป็นคนละคน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูโหยวก็ยังรู้สึกกลัวอยู่เล็กน้อย
ดวงตาของฟู่เฉินหวนเย็นชาเล็กน้อย เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ห้ามพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นคืนนี้กับใครทั้งนั้น”
“นอกจากเจ้าและเซียวชูแล้ว ข้ามิต้องการให้คนที่สี่รู้เรื่องนี้”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซูโหยวก็พยักหน้า
“"พ่ะย่ะค่ะ”
“แต่ท่านอ๋อง สถานการณ์ของท่านร้ายแรงขนาดนี้ ต้องหาทางแก้ไขพ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เฉินหวนหลับตาลงอย่างหนักใจ “แก้มิได้หรอก”
ผ่านมาตั้งนานแล้วเขายังมิรู้เลยว่าร่างกายของตัวเองมีปัญหาอะไร
ครั้งหนึ่งเขาเคยสงสัยด้วยว่า เขาตกหลุมรักลั่วเยวี่ยอิงจริง ๆ หรือไม่
แต่เขาคิดว่าการจะรักใครสักคนก็ควรยอมรับข้อบกพร่องทั้งหมดของนางได้ ตอนที่นางทำอะไรมิงามก็มินึกรังเกียจ และมิถือสาเวลาที่นางใช้เล่ห์กล
แต่สำหรับลั่วเยวี่ยอิง เขามิสามารถโน้มน้าวตัวเองว่าชอบนางได้เลย
เขาเกลียดความเสแสร้งและเล่เหลี่ยมของนาง
แต่เขาก็เสียสติบ่อยครั้ง ทนมิได้ที่จะมิปกป้องนาง และกังวลเรื่องนาง
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังควบคุมเขาอยู่
แต่เขาได้ไปหาฉู่ลั่วหลายครั้งแล้ว ฉู่ลั่วยังดูมิออกแล้วจะมีใครในใต้หล้านี้ที่แก้ไขเรื่องนี้ได้กัน
ซูโหยวถอนหายใจ “เช่นนั้น ท่านอ๋องจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“มันอันตรายเกินไป กระหม่อมเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของท่านพ่ะย่ะค่ะ”
ฟู่เฉินหวนเงียบไปสักพัก แต่จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องและพูดว่า “ไปเชิญซ่งเชียนฉู่มารักษาอาการบาดเจ็บของลั่วชิงยวน”
ซูโหยวตอบว่า “พ่ะย่ะค่ะ”
……
เนื่องจากลั่วชิงยวนได้รับบาดเจ็บ นางจึงนอนหลับไปจนถึงรุ่งสาง
นอนหลับลึกมาก
หลังจากตื่นนอนก็เห็นซูโหยวมากับซ่งเชียนฉู่
ซ่งเชียนฉู่กำลังจะตรวจชีพจรของลั่วชิงยวน เมื่อซูโหยวพูดว่า “พระชายาลงจากเตียงได้หรือไม่ขอรับ? หากทำได้ ลองกลับไปที่เรือนของพระชายาก่อนเถิดขอรับ”
“หมอซ่งจะได้สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้สะดวกยิ่งขึ้น”
อยู่ในเรือนเดียวกัน ท่านอ๋องกลัวว่าเขาจะเป็นเหมือนเมื่อคืน เขามิอยากให้พระชายารู้
ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชา เขาแทบรอที่จะไล่นางออกไปมิไหวแล้วกระมัง
นางพยุงตัวเองขึ้นแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ”
ซ่งเชียนฉู่พานางกลับไปที่เรือนของนาง
ซ่งเชียนฉู่เองก็ปวดหัว มิรู้ว่าต้องทำอย่างไรเช่นกัน
ในอีกมิกี่วันข้างหน้า ลั่วชิงยวนก็ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บของตัวเอง
ลั่วเยวี่ยอิงตามไปรบกวนฟู่เฉินหวนทุกวันเพื่อขอสนหิมะเขาฉีซาน มิเช่นนั้นก็ขู่จะฆ่าตัวตาย
แต่มิรู้เพราะเหตุใด ฟู่เฉินหวนจึงยังมิมอบสนหิมะเขาฉีซานให้กับลั่วเยวี่ยอิง
เดิมทีนี่ควรจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ลั่วชิงยวนรู้สึกมิสบายใจอย่างมาก
นางรู้สึกได้ชัดเจนว่าร่างกายของนางเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความโชคร้าย
หากฟู่เฉินหวนมอบสนหิมะเขาฉีซานให้กับลั่วเยวี่ยอิง นางก็ยังปล่อยให้ลั่วอวิ๋นสี่แอบไปชิงมาได้
แต่สิ่งนั้นอยู่ในมือฟู่เฉินหวน เช่นนั้นแล้วลั่วอวิ๋นสี่ลงมือไปก็ไร้ประโยชน์
ดังนั้นจึงทำได้เพียงยืดเยื้อต่อไปเท่านั้น
จนกระทั่งถึงวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพขององค์จักรพรรดิ
มีการจัดงานเลี้ยงขึ้นในวัง
เดิมทีลั่วชิงยวนมิต้องการเข้าร่วมงาน นางรู้ว่าตัวนางมีเคราะห์ และต้องหลีกเลี่ยงเคราะห์นั้นด้วยการมิออกไปข้างนอก
แต่นางได้รับกระดาษหนึ่งใบ
บนกระดาษเขียนเอาไว้ว่า…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...