ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินออกไป
นางมาถึงจวนแม่ทัพใหญ่
ยังมิทันได้เคาะประตู ประตูก็เปิดออก
เมื่อแม่ทัพใหญ่ฉินเห็นนางก็ตกใจเล็กน้อย “พระชายามาแล้วหรือ”
ลั่วชิงยวนพยักหน้า “แม่ทัพใหญ่กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ”
แม่ทัพใหญ่ฉินจัดเสื้อผ้าเล็กน้อย พลางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ข้าต้องเข้าวัง จักรพรรดิสูงสุดทรงประชวรหนัก”
“หากท่านมีเรื่องอะไรจะให้ข้าช่วย ก็รอข้าที่จวนสักครู่ รอข้ากลับมาค่อยว่ากัน!”
ลั่วชิงยวนตอบว่า “ข้ามาหาฉินไป๋หลี่”
“อ้อ ๆ งั้นก็ดี เขาอยู่จวน”
แม่ทัพใหญ่ฉินพูดจบก็รีบออกไป
ลั่วชิงยวนเข้าไปในจวน เดินไปยังลานด้านใน
เห็นฉินไป๋หลี่กำลังฝึกกระบี่อยู่ที่ลานจวน
โดยมีหลี่เซียวม่านยืนอยู่ข้าง ๆ คอยให้คำแนะนำ
เมื่อฝึกกระบี่เสร็จ ลั่วชิงยวนจึงเดินเข้าไปในลาน
“พระชายา” หลี่เซียวม่านคารวะอย่างสุภาพ
“พระชายามางั้นหรือ?” ฉินไป๋หลี่ยื่นกระบี่ให้หลี่เซียวม่าน
“ช่วงนี้คุณชายรองเป็นอย่างไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนกล่าวถาม
ฉินไป๋หลี่ยิ้ม “พอจะมองเห็นแสงสลัว ๆ และใบหน้าเลือนรางบ้างแล้วขอรับ เชื่อว่าสักวันจะต้องหายดี!”
ลั่วชิงยวนจับชีพจรตรวจดู อาการของเขากำลังฟื้นตัวได้ดีจริง ๆ
“เช่นนั้นคุณชายกับพระชายาคุยกันก่อน ข้าจะออกไปก่อน” หลี่เซียวม่านรู้ตัวจึงขอตัวออกไป
แต่ลั่วชิงยวนเรียกนางไว้ “เดี๋ยวก่อน เจ้าเคยเป็นผู้คุ้มกันเงาของฉินเชียนหลี่ใช่หรือไม่?”
หลี่เซียวม่านพยักหน้าตอบ “เจ้าค่ะ”
“แล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้เจ้าได้ติดต่อกับฉินเชียนหลี่หรือไม่?”
หลี่เซียวม่านชะงักเล็กน้อย แล้วพยักหน้า “ติดต่อเจ้าค่ะ”
“ขอข้าดูจดหมายได้หรือไม่?” ลั่วชิงยวนอยากรู้สถานการณ์ของฉินเชียนหลี่
หลี่เซียวม่านลังเลเล็กน้อย
ลั่วชิงหยวนเห็นว่านางอาจมิสะดวก จึงพูดว่า “ถ้ามิสะดวกก็มิเป็นไร งั้นบอกข้าได้หรือไม่ว่า ฉินเชียนหลี่พูดถึงเรื่องในสนามรบหรือไม่?”
หลี่เซียวม่านกำลังจะพูด แต่ก็หยุดและพูดว่า “ข้าจะเอาจดหมายให้ท่านดูเจ้าค่ะ”
พูดจบ นางก็เดินไปที่ห้องแล้วอุ้มกล่องใบหนึ่งออกมา
มีการสร้างหอสังเกตการณ์เพิ่มทุก ๆ ร้อยเมตร สร้างหน้าไม้เป็นร้อย ๆ อัน กำแพงเมืองถูกสร้างให้สูงขึ้นสิบเมตร และยังสร้างอาวุธเพิ่มขึ้นมากมาย ทุกวันมีคนลาดตระเวนในหมู่บ้านและเมืองใกล้เคียงเพื่อปกป้องชาวบ้าน
จากเนื้อความข้างต้น ดูเหมือนว่าพวกเขากับพวกคนเผ่านอกด่านมิเคยสงบสุขเลย ฉินเชียนหลี่คอยระวังพวกเขาอยู่ตลอดเวลา
ลั่วชิงยวนอ่านจดหมายทีละฉบับ เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ของฉินเชียนหลี่
ฉินไป๋หลี่ถามด้วยความสงสัย “พระชายา ท่านอ่านจดหมายพวกนี้ พี่ชายของข้าจะมีอันตรายอีกแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?”
ลั่วชิงยวนตอบ “เจ้ารู้เรื่องที่พวกคนเผ่านอกด่านเข้าวังมาถวายของกำนัลวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพให้องค์จักรพรรดิหรือไม่?”
ฉินไป๋หลี่พยักหน้า “ข้าได้ยินมาแล้ว พระชายาคิดว่าพวกเขามาเมืองหลวงโดยมีจุดประสงค์อื่นหรือขอรับ?”
ลั่วชิงยวนพยักหน้า “พวกเขาจงใจท้าทายฟู่เฉินหวน แล้วก็แพ้ต่อหน้าขุนนางทั้งหลาย ทำให้แคว้นเทียนเชวียคิดว่าพวกเขาอ่อนแอ ซึ่งต่างจากที่พี่ชายเจ้าบอกไว้โดยสิ้นเชิง”
“ข้าคิดว่า ต่อไปอาจมีคนตัดการติดต่อระหว่างพี่ชายเจ้ากับราชสำนักแล้วส่งข่าวปลอม ทำให้พี่ชายเจ้าโดดเดี่ยว”
“แล้วพวกคนเผ่านอกด่านก็หายตัวไปเร็วเกินไป ข้ารู้สึกว่า พวกเขาคงทำภารกิจสำคัญสำเร็จไปอย่างหนึ่งแล้ว ถึงได้จากไป”
แน่นอนว่ามิน่าจะใช่การสังหารนาง
นี่คงเป็นแค่ภารกิจหนึ่งที่ทำไปด้วยเท่านั้น
แม้ว่าการได้รู้เส้นทางขนส่งเสบียงทหารก็สำคัญ แต่ลั่วชิงยวนยังรู้สึกว่ามีบางอย่างมิถูกต้อง
ฉินไป๋หลี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมองนางด้วยความตกใจ
“หรือว่า...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...