น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปกะทันหัน และเฉียบคมยิ่งขึ้น
ทว่า สีหน้าของไทเฮากลับซีดลง
รอยยิ้มที่ยากจะสังเกตเห็นปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนหาวิธีล่อลวงไทเฮาได้แนบเนียนจริง ๆ
นางน่าจะรู้ดีอยู่แล้วถึงสภาพร่างกายของจักรพรรดิสูงสุด ดังนั้นนางจึงจงใจแกล้งทำเป็นล้มเหลว เพื่อให้ไทเฮารับรองหมอหลวงหลี่
แต่ตอนนี้ต่อหน้าคนจำนวนมาก ไทเฮามิอาจถอยได้แล้ว อีกทั้งนางก็อธิบายอะไรมิได้ด้วย
ในตอนนั้นเอง เสียงที่ทุ้มลึกและสง่างามดังมาจากภายนอก...
“สาวน้อยคนนี้เป็นแค่ชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ กล้าดีอย่างไรมาทำท่าทีเช่นนี้ต่อไทเฮา?”
เมื่อหันกลับมาเขาเห็นว่าผู้ที่มาคือมหาราชาจารย์เหยียน
พี่ชายของไทเฮาเหยียน
ลั่วชิงยวนเคยได้พบกับมหาราชาจารย์เหยียนหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วมหาราชาจารย์เหยียนดูเคร่งขรึมและเก็บงำถ้อยคำ
ฟู่เฉินหวนพูดอย่างใจเย็น
“มหาราชาจารย์เหยียน มิจำเป็นต้องรีบไปตำหนิลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนมีผลงานในการรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุด ตอนนี้การตั้งข้อสงสัยต่อหมอหลวงหลี่และไทเฮาก็นับว่าสมเหตุสมผล”
“ทั้งหมดก็เพราะนางใส่ใจเรื่องอาการป่วยของจักรพรรดิสูงสุดมากเกินไป”
“มหาราชาจารย์เหยียนมิคิดเช่นนั้นหรือ?”
ประโยคสุดท้ายแฝงด้วยความอาฆาตแค้นที่ยากจะสังเกตได้ สร้างความกดดันอย่างรุนแรง
มหาราชาจารย์เหยียนขมวดคิ้ว มองดูฟู่เฉินหวนอย่างจริงจัง
“หมอหลวงหลี่สมควรตายเพราะวินิจฉัยอาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดผิด แต่ไทเฮาก็มีเหตุผลที่ต้องกังวลเรื่องอาการป่วยขององค์จักรพรรดิสูงสุดจึงขาดความรอบคอบไป ซึ่งนั่นก็เข้าใจได้”
ในสถานการณ์เช่นนี้ มหาราชาจารย์เหยียนมิสามารถช่วยหมอหลวงหลี่ได้
ทำได้เพียงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ตัวแทนไทเฮา และขจัดความสงสัยออกจากตัวนางไป
ไทเฮาหน้าซีดเผือด ดูอ่อนล้าและสับสนอย่างมาก ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับมหาราชาจารย์เหยียน กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ใช่แล้ว ข้าตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง และข้าก็มิไว้วางใจลั่วชิงยวนจริง ๆ ดังนั้นจึงเชื่อสิ่งที่หมอหลวงหลี่พูด”
หมอหลวงหลี่ตาเบิกกว้างจ้องไปที่ไทเฮาด้วยความสิ้นหวัง
ในเวลานี้ขุนนางบางคนก็พูดแทนไทเฮาด้วย
“ไทเฮาทรงมิลังเลเลยที่จะใช้พระโลหิตของพระนางเองเพื่อช่วยจักรพรรดิสูงสุดในครั้งนี้ พระนางยอมเสี่ยงที่จะแลกชีวิตของพระนางเพื่อทรงช่วยชีวิตขององค์จักรพรรดิสูงสุด”
“เรามิควรเคลือบแคลงความจริงใจของไทเฮาที่มีต่อองค์จักรพรรดิสูงสุด”
ไทเฮาฟังแล้วหลับตาลง แอบปาดน้ำตาเงียบ ๆ
วันนี้ลั่วชิงยวนเปิดเผยตัวต่อหน้าพวกเขา ตระกูลเหยียนจะยิ่งรีบร้อนฆ่านางเพื่อปิดปากนางให้เร็วขึ้นเท่านั้น
นางต้องรักษาจักรพรรดิสูงสุดให้ได้! เมื่อนั้นนางก็จะมีโอกาสรอดพ้นจากเคราะห์กรรมนี้ไปได้!
ตอนที่ลั่วชิงยวนกำลังจะพูด มีคนพูดก่อน “ลั่วชิงยวนทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการช่วยชีวิตจักรพรรดิสูงสุดได้สำเร็จ ดังนั้นนางจึงควรได้รักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดต่อไป”
มหาราชาจารย์เหยียนแค่นเสียงเย็นชา ดวงตาของเขาดูถูกเหยียดหยาม
“นางน่ะหรือ? นางจะเก่งกว่าหมอหลวงทุกคนในสำนักหมอหลวงเชียวหรือ? นางมีคุณสมบัติอะไรในการรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุด?”
“อ๋องผู้สำเร็จราชการเลือกให้พระชายาของตนรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดเช่นนี้ อาจซ่อนเจตนาร้ายไว้ก็เป็นได้!”
ประโยคนี้มีความหมายลึกซึ้ง
ถึงเวลาแล้วที่ฟู่เฉินหวนจะต้องหลีกเลี่ยงข้อกังขา
มิเช่นนั้นก็มีแนวโน้มว่าจะมีข่าวลือมิดีขึ้น
ก่อนที่ฟู่เฉินหวนจะทันได้พูด ลั่วชิงยวนก็มองตรงไปที่มหาราชาจารย์เหยียน
นางพูดเสียงดังชัดเจนและหนักแน่น มิแสดงอาการขลาดกลัวแม้แต่น้อย...
“องค์จักรพรรดิสูงสุดมิได้ทรงพระประชวร แต่ถูกคนทรยศวางยาพิษต่างหาก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...