ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 909

ลั่วชิงยวนมองไปที่เซิ่งไป่ชวน ยกยิ้มเบา ๆ “ต่อไปข้าจะมาหาเจ้า ให้เจ้าช่วยข้าหาสมุนไพรอีก”

“หากแม่นางต้องการสิ่งใดก็เรียกหาข้าได้เสมอขอรับ” เซิ่งไป่ชวนยิ้มอย่างสุภาพ

จากนั้นลั่วชิงยวนก็ออกจากสำนักหมอหลวงไป

เมื่อกลับมาที่ตำหนักของจักรพรรดิสูงสุด นางจึงเริ่มต้มยาและป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุด

แม้ว่าจักรพรรดิสูงสุดจะมิสามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้ แต่เขาก็ยังได้สติอยู่ตลอด

ลั่วชิงยวนคิดว่า การเป็นเช่นนี้ตลอดปีคงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก

จากนั้นเขาก็เริ่มพูดคุยกับเขา

“ฝ่าบาท พระองค์น่าจะทรงทราบว่า ผู้ใดเป็นคนที่ทำร้ายพระองค์ใช่หรือไม่เพคะ”

“ในเมื่อพระองค์ยังมีสติ ทั้งยังสามารถพยักพระพักตร์ หรือส่ายพระพักตร์เพื่อแสดงความต้องการได้ แล้วเหตุใดมิตรัสความจริงให้คนอื่นรู้หรือเพคะ”

จักรพรรดิสูงสุดส่ายหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ลั่วชิงยวนคาดเดา “พระองค์ทรงกลัวว่า พวกเขาจะทำร้ายองค์จักรพรรดิ หรือทำร้ายฟู่เฉินหวนหรือเพคะ?”

ดวงตาของจักรพรรดิสูงสุดเป็นประกาย จากนั้นจึงพยักหน้า

ดูเหมือนเขาจะมิได้คาดหวังว่านางจะเดาเหตุผลได้ จึงมองนางอย่างซาบซึ้ง

“หากจะทำร้ายแม้กระทั่งลูกชายแท้ ๆ ของตน ก็ดูจะโหดเหี้ยมเกินไปหน่อย”

จักรพรรดิสูงสุดไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ

ลั่วชิงยวนคิดว่าอาจมีเหตุผลอื่นอีก

“ฝ่าบาท หม่อมฉันขอทูลถามอีกเรื่องหนึ่งเพคะ มีผู้ใดที่เข้าใจเรื่องฮวงจุ้ยอยู่ข้างกายไทเฮาบ้างหรือไม่เพคะ? หรือมีคนที่มีภูมิหลังลึกลับอยู่บ้างหรือไม่? พระองค์นึกถึงใครบ้างหรือไม่เพคะ”

องค์จักรพรรดิสูงสุดส่ายหน้า

แม้แต่องค์จักรพรรดิสูงสุดก็ยังมิรู้

คนผู้นี้ซ่อนตัวได้ดีจริง ๆ

“เช่นนั้นพระตำหนักนี้ ผู้ใดเป็นคนจัดแต่งให้พระองค์หรือเพคะ?”

จักรพรรดิสูงสุดส่ายหัวอีกครั้ง

ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะถอนหายใจ “โธ่ พระองค์ท่าน อะไรก็มิทรงทราบสักอย่าง พระองค์เป็นถึงจักรพรรดิสูงสุด เหตุใดถึงมิทรงรู้จักระแวดระวังเลยเล่าเพคะ”

“หากให้หม่อมฉันสืบหาเอง หม่อมฉันคงสืบสาวมิพบแน่”

“ทว่าหากต้องรอให้พระองค์หายดี หม่อมฉันก็มิรู้ว่าจะต้องรออีกนานเพียงใด พิษนี้มิอาจล้างออกได้ในเวลาอันสั้นเพคะ”

“หากหม่อมฉันมีชีวิตอยู่ได้มินานพอที่จะทำให้พระองค์หายจากพระประชวรเล่าเพคะ?”

ลั่วชิงยวนกำลังพูดกับตัวเอง

จากนั้นลั่วชิงยวนจึงเล่าเรื่องราวตั้งแต่ที่นางแต่งเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการ และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาทั้งหมดให้แก่จักรพรรดิสูงสุดฟังราวกับเป็นเรื่องราว

โดยมิทันรู้ตัว เวลาก็ผ่านไปจนฟ้ามืดและเข้าสู่ยามค่ำคืน

แต่จักรพรรดิผู้สูงสุดมิรู้สึกเบื่อเลย ในบางครั้ง ลั่วชิงยวนสามารถเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะพูดได้อย่างชัดเจนจากปฏิกิริยาทางสายตาของเขา

แม้ว่าเขาจะพูดมิได้ แต่ก็เหมือนการสนทนากันระหว่างสองฝ่าย

เขามิได้รู้สึกเช่นนี้มานานแล้ว

มิใช่ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงจากการที่มิสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้อีกต่อไปแล้ว

เป็นครั้งแรกที่เขาพยายามอย่างหนักที่จะขยับร่างกายและปาก พยายามที่จะสื่อสารความหมายของตนได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ลั่วชิงยวนก็สังเกตเห็นปฏิกิริยาของเขาเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางบอกว่า ลั่วเยวี่ยอิงทุบโถใส่อัฐิของแม่นาง และฟู่เฉินหวนก็ทำลายวรยุทธนางลง

จักรพรรดิผู้สูงสุดกำหมัดเช่นกัน

“ท่านก็ทรงคิดว่าเขาทำเกินไปใช่หรือไม่เพคะ?”

จักรพรรดิสูงสุดพยักหน้าอย่างแรง

ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงเย็นชาดังมาจากด้านหลัง...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย