"ทายาเสีย"
ฟู่เฉินหวนหยิบกล่องยาออกมา จุ่มปลายนิ้วลงในยาแล้วทาที่ลำคอของนาง
เช่นนั้นลั่วชิงยวนจึงรู้สึกเจ็บที่คอ
แต่ด้วยยานั้นความเจ็บปวดก็บรรเทาลงอย่างรวดเร็ว รู้สึกเย็นสบายมาก
ลั่วชิงยวนลดสายตาลงพลางมองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม และหัวใจของนางก็พลันสั่นไหวเล็กน้อย
“อาการบาดเจ็บของท่านเล่า เป็นเช่นไรบ้าง?” ลั่วชิงยวนคว้าข้อมือของเขามากุมไว้โดยมิรู้ตัว
ฟู่เฉินหวนหลบเลี่ยงตามสัญชาตญาณ และยังคงทายาให้นางต่อไป "ข้ามิเป็นไร เจ้าห่วงตัวเองก่อนเถอะ"
ลั่วชิงยวนมิสงสัยเลยสักนิด
“อาการบาดเจ็บของหม่อมฉันมิได้ร้ายแรง มันเป็นแค่รอยถลอกเท่านั้น”
ฟู่เฉินหวนหยุดและมองนางด้วยสายตาจริงจัง "แค่รอยถลอกหรือ แล้วเหตุใดหน้าเจ้าถึงซีดเซียวเช่นนี้"
“หม่อมฉัน... หม่อมฉันมิได้รับบาดเจ็บอะไรจริง ๆ เช่นนั้นท่านหาอย่าได้กังวลไปเลยเพคะ” ลั่วชิงยวนมิรู้จะอธิบายอย่างไร
นางรีบลุกขึ้นยืน และดูแผนที่ต่อไป
ฟู่เฉินหวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเก็บยาลงไป
ก่อนจะถามว่า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าซือซิงเป็นคนของตระกูลเหยียน"
ลั่วชิงยวนตอบว่า "รู้สิ"
“แล้วเหตุใดเจ้าถึงยังไว้ชีวิตเขา? แล้วเจ้าดึงเขามาจากอู่จิ้นได้อย่างไร?”
ลั่วชิงยวนหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากใต้แจนเสื้อของนางแล้วยื่นมันไปให้ฟู่เฉินหวน
นั่นคือป้ายคำสั่งของมหาราชาจารย์เหยียน
“เหยียนหน่ายซินมอบสิ่งนี้ให้กับหม่อมฉัน”
ฟู่เฉินหวนหยิบป้ายคำสั่งขึ้นมาแล้วดูมัน เขาตกใจเป็นอย่างมาก ป้ายคำสั่งนี้มิใช่ของปลอม
“เหยียนหน่ายซินหรือ?”
เขาเกือบลืมไปแล้วว่ามีคนผู้นี้อยู่
“นางทำได้อย่างไร...”
ลั่วชิงยวนยิ้ม "หม่อมฉันก็แปลกใจเหมือนกัน สตรีนางนี้มิธรรมดาเลย นางมีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่"
“นางต้องการที่จะปีนขึ้นไปสูงกว่าเดิม มิยอมเป็นหมากของตระกูลเหยียน ดังนั้นนางจึงขัดขวางแผนของตระกูลเหยียน เพื่อให้มีโอกาสหลุดพ้นจากการควบคุมของพวกเขาเพคะ”
“ดูเหมือนว่า นางจะเข้ากันได้ดีกับฟู่จิ่งหานทีเดียว”
“เป็นการดีกว่าที่จะเก็บซือซิงไว้ และให้เขาคอยไปจัดหาเสบียง”
“หม่อมฉันเดาว่า เขาคงจะติดต่อกับพวกนอกด่านอยู่บ้าง การให้เขาไปหาเสบียงจากพวกนอกด่านคงมิใช่เรื่องยาก”
“ยิ่งกว่านั้น เขายังเพิกเฉยต่อคำสั่งของมหาราชาจารย์เหยียน ระดมกำลังมาเอง ยามนี้เมื่อท่านมาถึงเมืองผิงหนิงแล้ว ทว่ายังมิได้ฆ่าเขา ท่านคิดว่า หลังจากที่มหาราชาจารย์เหยียนรู้เรื่องนี้แล้วจะยังใช้เขาอยู่อีกหรือ?”
“ท่านกำลังคัดคานกับตระกูลเหยียน ยิ่งมีกำลังเสริม ก็จะยิ่งได้เปรียบ”
ฟู่เฉินหวนมองนางที่กำลังวิเคราะห์อย่างจริงจังเงียบ ๆ
ใบหน้าที่เยือกเย็นเสมอกลับปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ ขึ้น
หลังจากที่ลั่วชิงยวนพูดจบแล้วหันกลับมา ก็ได้เห็นรอยยิ้มของเขา
“ท่านยิ้มอะไรหรือ?”
ฟู่เฉินหวนหัวเราะเบา ๆ "เจ้าคิดการรอบคอบกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก"
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นพรสวรรค์อันน่าทึ่งของลั่วชิงยวนอย่างแท้จริง
มิน่าแปลกใจเลยที่แม่ทัพใหญ่ฉินจะต้องการให้ลั่วชิงยวนไปเป็นลูกสะใภ้ของเขา
คนอื่นเร่งรีบเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แต่เขากลับมิได้ทะนุถนอม
เขารู้สึกซับซ้อนในใจ จากนั้นก็เดินไปที่ขอบหน้าต่าง มองดูดวงดาวที่พร่างพราวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...