“ได้ ข้าเข้าใจแล้ว” ลั่วชิงยวนรีบตามไปพร้อมกับยาในมือ
เห็นชายคนนั้นเดินอย่างเร่งรีบและคอยมองซ้ายมองขวาด้วยความระแวดระวัง ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในถนนด้านข้าง
ลั่วชิงยวนจึงรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
แต่บังเอิญเจอเซียวชูที่เดินมาจากอีกทางหนึ่งพอดี
“พระชายา เหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่ได้?” เซียวชูก็ออกมาค้นหาเครื่องยาสมุนไพรด้วย
ในเมืองมีทรัพยากรมิมากนัก ท่านอ๋องปฏิเสธที่จะเสวยพระโอสถ เพื่อเก็บสมุนไพรไว้ให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ
แต่อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องสาหัสเพียงนั้น จะใช้ยามิได้ได้อย่างไร?
ดังนั้นเขาจึงออกไปตามหามาเพิ่ม
ลั่วชิงยวนยื่นถุงให้เขา "นี่ สมุนไพร นำกลับไปเถอะ"
“ให้ซือซิงหาทางนำแม่แพะมาเลี้ยงสักสองสามตัวด้วย มีสตรีที่มิมีน้ำนมเลี้ยงบุตร ต้องการนมแพะด่วน รีบหน่อยนะ!”
เซียวชูตกใจเล็กน้อยและกำลังจะถามพระชายาว่ายาเหล่านี้มาจากที่ใด
แต่ลั่วชิงยวนกลับเดินออกไปอย่างรีบร้อน
ลั่วชิงยวนไล่ตามชายคนนั้นไปจนสุดตรอก จนในที่สุดก็เห็นชายคนนั้นอีกครั้ง
แต่ที่แปลกคือชายคนนั้นมิได้ไปสถานที่ลับอะไร เพียงแต่เดินไปทั่วเมืองเท่านั้น
อีกทั้งตลอดทางยังคอยหลบหลีกการลาดตระเวน
ลั่วชิงยวนติดตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ ตั้งใจจะดูให้เห็นกับตาว่าพวกนอกด่านต้องการทำสิ่งใด
มิรู้ตัวเลยว่าฟ้ามืดลงแล้ว
นางเข้าไปในตรอกที่ค่อนข้างเปลี่ยว
ลั่วชิงยวนเดินตามไปอย่างระมัดระวัง เมื่อเดินออกจากตรอก ก็พบกับลานแห่งหนึ่ง อาคารที่นี่ดูเหมือนจะเป็นโกดังเก็บของ
ชายคนนั้นหยุดและมองไปที่ประตูลานบ้าน สีหน้าดูตื่นเต้นเล็กน้อย
ท่ามกลางแสงจันทร์ ลั่วชิงยวนจึงสังเกตเห็นว่ามีงูตัวหนึ่งเลื้อยผ่านพื้นเข้าไปในลาน
ลั่วชิงยวนตกใจมาก ที่แท้เขามีงูตัวน้อยคอยนำทางอยู่
มิน่า ชายคนนี้ถึงได้เร่ร่อนไปทั่วเมือง
เขากำลังหาสมุนไพรหรืออย่างไร?
เนื่องจากลั่วชิงยวนได้กลิ่นของยาแล้ว เช่นนั้นที่นี่จึงควรเป็นโกดังเก็บเครื่องสมุนไพร
ร่างกายของหล่างมู่เป็นสีดำสนิท เสื้อผ้าของเขาถูกไฟไหม้จนขาดรุ่งริ่ง สภาพดูอเนจอนาถ บาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด แต่บาดแผลมิถึงกับสาหัสมากนัก
อย่างน้อยก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิต
เมื่อหล่างมู่เห็นนาง ความสิ้นหวังในดวงตาก็ปรากฏขึ้น
เฉินไห่ปล่อยหล่างมู่ทันทีและยืนขวางหน้าเขา "องค์ชาย ข้าน้อยจะขวางนางไว้ ท่านรีบหนีไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ!"
“ถึงตาย ข้าน้อยก็จะช่วยท่านออกไปให้ได้!”
ลั่วชิงยวนไพล่มือไว้ด้านหลังแล้วพูดอย่างใจเย็น "ออกไป? เจ้าแน่ใจหรือว่าจะออกไปยามนี้ได้?"
“เมื่อครู่ที่เจ้าพูดว่า หากหล่างมู่มิกลับไป ราชาจะมอบบัลลังก์ให้กับหล่างชิ่นหรือ?”
เมื่อเห็นว่านางสนใจในเรื่องนี้ เฉินไห่จึงตอบว่า "ราชาทรงพระประชวรหนัก ความปรารถนาในใจที่มีมายาวนานยังมิบรรลุผล ใครก็ตามที่สามารถยึดเมืองผิงหนิงและพาชาวนอกด่านเข้าสู่แคว้นเทียนเชวียได้ ราชาจะทรงมอบบัลลังก์ให้กับคนผู้นั้น"
“แต่คราวที่แล้วเกิดเรื่องขึ้นกับองค์ชายหล่างมู่ ทุกคนคิดว่าองค์ชายหล่างมู่สิ้นพระชนม์แล้ว”
“ยามนี้ หล่างชิ่นอ้างเหตุผลเรื่องที่มิอาจตีเมืองผิงหนิงให้แตกได้ ขอให้ราชายกบัลลังก์ให้แก่นาง เพื่อที่นางจะได้รวบรวมเผ่านอกด่านให้เป็นปึกแผ่น จะได้พิชิตเมืองผิงหนิงได้”
"หากหล่างชิ่นกลายเป็นราชาแห่งเผ่านอกด่าน การโจมตีของพวกนอกด่านในเมืองผิงหนิงจะรุนแรงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ และจะรุนแรงกว่าครั้งก่อน ๆ หลายเท่า!"
เฉินไห่พยายามใช้เรื่องนี้เกลี้ยกล่อมให้ลั่วชิงยวนปล่อยพวกเขาไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...