ยอดหญิงในเงามาร นิยาย บท 12

ภายในหนึ่งวันมีร้อยพันเรื่องราวเกิดขึ้น สมองของนางหวังอื้ออึงด้วยเสียงหึ่งๆ แล้ว

จนกระทั่งชีเจิ้นหันไปตำหนิชีอวิ๋นถิงอีกครั้ง บังคับให้เขาเอ่ยปากขอโทษสวี่อินอิน สีหน้าของนางหวังถึงจะฉายแววเคร่งขรึมขึ้นมา

เป็นสามีภรรยากับชีเจิ้นมานานหลายปี นางย่อมรู้อุปนิสัยใจคอของสามีตนเองดี

ถึงขึ้นออกปากปกป้องสวี่อินอินเพียงนี้ ก็ชัดเจนแล้วว่าบุตรีคนนี้ได้การยอมรับจากชีเจิ้นแล้ว

ชีเจิ้นให้ความสำคัญ และนี่ยังเป็นบุตรีที่ตนเองให้กำเนิดด้วยแล้ว แม้ก่อนหน้านี้จะเป็นกังวลว่าเด็กสาวคนนี้มิใช่คนฉลาดเฉลียว แต่ยามนี้นางหวังก็ไม่รังเกียจเดียดฉันท์แล้ว

นางมองสวี่อินอินอย่างอ่อนโยน “เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?”

น่าขำสิ้นดี

หากว่าตระกูลชีให้คุณค่านางบ้างสักเสี้ยวหนึ่ง หรือรู้สึกสงสารรู้สึกสำนึกผิดต่อนางบ้างสักเสี้ยวหนึ่ง อย่างน้อยก็คงไม่ถึงขั้นไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของนาง

สวี่อินอินเงยหน้ามองนางหวัง และถามด้วยเสียงราบเรียบ “ในเมื่อข้าคือตัวจริง และคนก่อนหน้าคือตัวปลอม นางมีนามว่าอะไร ข้าก็ควรมีนามว่าแบบนั้น มิใช่หรอกหรือ?”

นางหวังผงะไป ในใจพลันปรากฏความไม่พอใจขึ้นมาทันใด

ยังรู้สึกลึกๆ ว่าสวี่อินอินไม่คู่ควร

นางมุ่นหัวคิ้วขึ้น “อย่าเอาแต่พูดว่าตัวจริงตัวปลอมเลย ฝ่ามือหลังมือล้วนเป็นมังสะ เจ้าเป็นบุตรที่ข้าให้กำเนิด นางก็เป็นบุตรที่ข้าเลี้ยงด้วยตนเอง พวกเจ้าสองคนต่างเป็นบุตรของข้าทั้งสิ้น”

สวี่อินอินเพิ่งได้รู้เป็นครั้งแรกว่าฝ่ามือหลังมือมีไว้ใช้งานเช่นนี้

ความจริงนางก็รู้จักพฤติกรรมของคนตระกูลนี้กระจ่างแจ้งนานแล้ว ทว่าทุกครั้งที่ได้ยินพวกนางพูดจาย่ำยีศักดิ์ศรีและมองข้ามตนเอง ก็ยังรู้สึกว่าขุ่นข้องหมองใจ

นางจ้องมองนางหวัง และถามด้วยเสียงเบาหวิวออกมาทันใด “ฮูหยิน ท่านทราบหรือไม่ว่า ตอนข้าใช้ชีวิตอยู่ในชนบท แม่เลี้ยงกับพ่อเลี้ยงของข้าปฏิบัติอย่างไรกับตัวข้า?”

นางหวังอึ้งงันไปเล็กน้อย หัวคิ้วพลันขมวดมุ่นขึ้นอีกครั้ง “เรื่องนี้ไว้พูดคราวหลังเถิด ข้าเพียงแค่ถามถึงชื่อของเจ้า…”

“ข้ามีนามว่าสวี่อินอิน!” สวี่อินอินตัดบทนางอย่างเหลืออด พลางจดจ้องนัยน์ตาของนางไว้ “แซ่สวี่ ฮูหยินอยากให้ข้าใช้แซ่สวี่ต่อไปหรือไม่?”

ประโยคนี้ทำให้นางหวังหน้าร้อนผ่าว นางได้สติคืนกลับมาแล้ว

ใช่แล้ว นางจะถามสวี่อินอินเพื่ออะไรว่าก่อนหน้านี้มีนามว่าอะไร?

อุ้มบุตรีผิดคนกลับไปแล้ว นางยังคิดจะให้สวี่อินอินใช้ชื่อเดิมต่อไปอีกหรือ?!

ครั้นถูกถามตอกหน้าเช่นนี้นางหวังรู้สึกเสียหน้าขึ้นมานิดๆ ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าบุตรีคนนี้มิใช่คนหัวอ่อนรับมือง่ายอย่างแน่นอน

กระแอมขึ้นมาเสียงหนึ่ง นางก็เหลือบมองชีเจิ้น

ชีเจิ้นย่อมไม่ยอมให้สวี่อินอินใช้แซ่สวี่ต่อแน่

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เอ่ยอย่างอ่อนโยนขึ้นว่า “ย่อมไม่เป็นเช่นนั้น เรื่องในอดีตมิอาจกลับไปแก้ไขได้แล้วก็แล้วไป นับจากนี้เจ้าคือคุณหนูใหญ่ของจวนโหวเราแล้ว…เช่นนั้นจงใช้นามว่าชีหยวนเถิด”

หยวน ซึ่งหมายถึงผู้เป็นที่หนึ่ง

แม้แต่ชีจิ่น ยังเป็นแค่จิ่นที่หมายถึงบุปผาบนผืนแพรไหมเท่านั้น

แต่บัดนี้สวี่อินอิน อ้อไม่สิ ชีหยวน แค่ชื่อนี้เพียงพอจะยืนยันฐานะของนางได้แล้ว

ชาติที่แล้วนางเปลี่ยนเพียงแซ่เท่านั้น แต่ยังคงชื่อว่าอินอิน

บัดนี้ชื่อแซ่ล้วนเปลี่ยนไปทั้งหมด

แม้ชื่อชีหยวนจะมิได้เป็นชื่อแซ่ที่หาได้ยาก

แต่ตราบใดที่สามารถทำให้ชีจิ่นและชีอวิ๋นถิงไม่ยินดี นางก็มีความสุขมาแล้ว

ดังนั้นนางจึงกะพริบตาปริบๆ แล้วตอบกลับ “ดี”

นางหวังมองนาง ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด มักรู้สึกเสียววาบตรงสันหลังเสมอ

อดทนฟังจนจบแล้ว ค่อยสั่งให้แม่นมจางพาชีหยวนไปพักผ่อนก่อน แล้วขมวดคิ้วขึ้นพลางเสริมขึ้นประโยคหนึ่งว่า “พาคุณหนูใหญ่ไปที่หอหมิงเยว่ก่อนเถิด”

แม่นมจางอ้าปากพะงาบ นางรู้ดีแก่ใจ เรือนที่ตระเตรียมให้ชีหยวนก่อนหน้านี้ เป็นแค่เรือนหลังน้อยไกลๆ ที่ตั้งอยู่ในมุมอับของสวนบุปผาเท่านั้น

ทว่าหอหมิงเยว่คือหอสองชั้น และเป็นเรือนที่เมื่อก่อนท่านป้าเคยใช้พำนักอาศัยในตอนที่ยังไม่ออกเรือน

ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว

นางเหลือบสายตามองชีหยวนปราดหนึ่ง และก้มศีรษะต่ำลงยิ่งกว่าเดิม “เจ้าค่ะ ฮูหยินโปรดวางใจ บ่าวรับทราบทุกประการเจ้าค่ะ”

เมื่อรับคำแล้วก็นำทางชีหยวนเดินออกไปด้านนอก

ภายในห้อง เมื่อชีหยวนเดินออกไปแล้ว นางหวังค่อยถอนหายใจออกมาอย่างยั้งตนเองไม่อยู่

นางเลื่อนมือไปฟาดชีอวิ๋นถิงด้วยฉาดหนึ่งเช่นกัน “เจ้าออกไปก่อน!”

บทที่ 12 1

บทที่ 12 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงในเงามาร