ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 151

ตาวิเศษของเขามีความเร็วที่สามารถจับวิถีของกระสุนได้ ลมที่ออกจากนิ้วด้วยวิชาดรรชนีคีบดอกไม้ทำให้ลูกกระสุนตกลงพื้น

" อะไรนะ"

นักฆ่าทั้งสองแสดงสีหน้าตกใจ คนที่สามารถหยุดกระสุนด้วยมือเปล่า พวกเขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก

" ตูม "

เสียงพื้นดินสั่นไหว เขาก็เข้าใกล้ร่างของชายทั้งสอง แขนของสองคนตึงแวบหนึ่ง ได้ยินเสียงดัง " กรอบแกรบ" แขนทั้งสองก็หัก ทำให้ปืนที่ถือไว้นั้นตกลงพื้นทันที

ทั้งสองคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายเจ็บชาไปทั่วร่าง ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านเลย

เวลานี้อู๋เป่ยได้เห็นหน้าพวกเขาอย่างชัดเจน เป็นชายหนุ่มประมาณยี่สิบห้าปีเท่านั้น แต่ในตัวเต็มไปด้วยไอสังหาร เป็นนักฆ่ามืออาชีพ

" ใครใช้พวกคุณมา หลินหู่หวังเหรอ" เขาถามด้วยเสียงที่เยือกเย็น เหมือนเสียงที่มาจากขุนนรก

ทั้งสองถูกคุมตัวไว้ มือทั้งสองเจ็บปวดมาก พวกเขาไม่อาจจะทนต่อความเจ็บปวดนี้ได้เลย คนหนึ่งพูด" ใช่แล้ว คุณชายน้อยหลินใช้เรามา"

อู๋เป่ยยื่นมือออกไปจี้ลงบนตัวทั้งสอง พวกเขาถูกห้ามเสียงไว้ แล้วก็นอนตามกันลงไปบนพื้น เหมือนกับโคลนละลายไม่มีการขยับ

เขาพูดกระแทกเสียง" หลินหู๋หวังอยู่ไหน"

หนึ่งในสองคนพูดขึ้น " ไปตามถนนเส้นนี้ทางตะวันตกประมาณร้อยกว่าเมตรมีรถธุรกิจจอดอยู่ หลินหู่เป่ยอยู่บนรถคันนั้น เพื่อน ฉันรู้ว่านายเก่ง แต่ขอเตือนนายไว้ก่อน อย่าได้ไปหาเรื่องหลินหู่หวัง เขา..."

" กรอบแกรบ"

อู๋เป่ยเหยียบขาของเขาหัก จากนั้นก็เป็นเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แล้วก็แนบนิ่งไป

" ผมอนุญาตให้คุณพูดแล้วเหรอ"

เขาไม่สนใจสองคนนั้นอีก เดินไปทิศตะวันตกตามถนนที่มีต้นไม้ปลูกไว้ริมทาง เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ห่างออกไปร้อยกว่าเมตรมีรถธุรกิจจอดไว้ ประตูรถเปิดอ้าซ่าไว้ หลินหู่หวังนั่งอยู่ในรถกำลังสูบบุหรี่ สายตาคอยมองไปทางที่พักของเฉินหลิงซวงเป็นระยะระยะ

เขา หลินหู๋หวังไม่ได้เป็นแค่นักเลงใหญ่ในเทียนจิงเท่านั้น ยังเป็นลูกพี่ใหญ่ของแก๊งหลงเสอด้วย ในมือมีนักเลงอีกกว่าร้อยแก๊ง แต่ในวันนี้กลับถูกเด็กที่ไม่รู้ที่มาที่ไปสั่งสอน เขารับไม่ได้กับการถูกเหยียดหยามครั้งนี้ รีบติดต่อพี่น้องในแก๊งหลงเสอ เพื่อเล่นงานอู๋เป่ยให้ตายคามือตัวเอง

คนในแก๊งหลงเสอนั้นซับซ้อนมาก มีคนทุกประเภท มีทั้งที่เป็นข้าราชการ พ่อค้า คนขอทาน พวกเขาอยู่ด้วยกัน เหมือนมังกรและงูที่อยู่ปนกันหมด

การที่หลินหู่หวังสามารถเป็นถึงพี่ใหญ่ในแก๊งหลงเสอ เขาเองก็มีอะไรที่เก่งกว่าคนอื่นเหมือนกัน เขาเป็นคนที่มีเครือข่ายกว้างขวาง และสามารถเป็นเพื่อนกับพวกข้าราชการได้ทุกกลุ่ม แต่จริงๆแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขามีพี่ชายที่เก่งกาจชื่อ หลินเทียนหวัง

วิชาของหลินเทียหวังนั้นสูงมาก เขาทำงานในองค์กรลับ อายุยังไม่ถึงสี่สิบก็เป็นถึงปรมาจารย์ชั้นเทพแล้ว

เวลานี้หลินหู่หวังกำลังรอข่าวอยู่ เขารู้สึกวุ่นวายใจมาก ถามลูกน้องที่อยู่ข้างๆ " สองคนนั้นพึ่งได้จริงเปล่า"

ลูกน้องคนหนึ่งรีบตอบ " พี่หู่ สองคนนั้นเป็นนักฆ่ามืออาชีพ รับรองไม่เกิดปัญหาแน่นอน"

เสียงเพิ่งพูดจบ เงาคนก็โผล่ออกมาจากต้นไม้ริมทาง คนกลุ่มนั้นยังไม่ทันรู้สึกตัว เขาก็มานั่งข้างหลินหู่หวังแล้ว

เมื่อหลินหู่หวังเห็นหน้าคนนั้นอย่างชัดเจน สีหน้าก็ซีดจางทันที พูดด้วยเสียงสั่น " เพื่อน อย่าวู่วามนะ..."

คนนี้ก็คืออู๋เป่ย เขายื่นมือออกไปตบไหล่ของหลินหู่หวัง ถาม" นักฆ่าสองคนนั้น นายส่งไปใช่ไหม"

บนหน้าผากของหลินหู๋หวังมีเหงื่อเย็นทะลักออกมา ยิ้มแห้ง " ไม่...ไม่ใช่...ผม..."

จากนั้นครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาถูกหามส่งรถพยาบาล ส่งไปยังโรงพยาบาลสักแห่งในเมืองอวิ๋นจิง

เวลานี้อูเป่ยมาถึงบ้านพักที่อยู่ในเมืองไท่คัง หลินปิงเซียนก็ยังไม่พักผ่อน เห็นอู๋เป่ยกลับมาทำให้เธอรู้สึกดีใจมาก รีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กี่วันมานี้ให้เขาฟังทันที

วันมะรืนหลินปิงเซียนก็จะไปร่วมการคัดเลือกเด็กที่มีความสามารถพิเศษแล้ว เรื่องนี้เจ้านายอย่างเว่ยชิงอิ่งเคยมาคุยกับเธอด้วยตัวเอง เว่ยชิงอิ่งบอกเธอว่าเธอมีรูปร่างหน้าตาที่สวยครบคลัง ซ้ำยังมีเสียงที่ไพเราะอีกดด้วย ความคิดสร้างสรรค์ก็มีมาก เขาตัดสินใจที่จะสนับสนุนเธออย่างเต็มที่

เรื่องนี้ทำให้หลินปิงเซียนดีใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน เธอรู้ว่าซานไห่มีเดียนั้นมีชื่อเสียงมาก ถ้าเขายินดีจะสนับสนุนเธอ เธอมีความมั่นใจมากว่าตัวเองจะโด่งดังขึ้นมา

" ใช่แล้ว เธอจะได้เป็นดาราดังในไม่ช้าแล้วแหละ" อู๋เป่ยยิ้มตอบ" พยายามเข้าละกัน มีอะไรให้ช่วยก็พูดกับพี่โดยตรง"

หลินปิงเซียนยิ้มตอบ " พี่ใหญ่อู๋ ฉันและแม่จะไปเทียนจิงพร้อมกัน ครั้งนี้น่าจะใช้เวลานานมาก อย่างน้อยก็เดือนหนึ่ง"

อู๋เป่ยถามเธอว่าที่พักได้เตรียมไว้หรือยัง หลินปิงเซียนพยักหน้าบอกว่าเว่ยชิงอิ่งเป็นคนเตรียมไว้ให้แล้ว

อู๋เป่ยรู้อยู่แก่ใจว่า เป็นเพราะเว่ยชิงอิ่งเห็นแก่หน้าของเขา ถึงได้ดูแลหลินปิงเซียนอย่างนี้

พรุ่งนี้ยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ หลินปิงเซียนจึงขอไปพักผ่อนก่อน ส่วนเขายังคงฝึกวิชาเพาะกายและวิชากำหนดลมหายใจต่อ

เวลาประมาณตีสี่ ขณะที่เขากำลังฝึกวิชากำหนดลมหายใจ ใจก็เต้นแรงทันที รู้สึกว่ากำลังจะเลื่อนขั้นแล้ว เขารีบเดินกระบวนวิชาเพื่อผ่านชั้นฝึกเทพขั้นที่สอง ขั้นปรารถนาแห่งเทพ

ชั้นฝึกเทพนี้แบ่งย่อยเป็น การรับรู้เทพ ปรารถนาแห่งเทพ และ ปราชญ์แห่งเทพ

ชั้นปรารถนาแห่งเทพเป็นชั้นพลังจิตใจที่พิสดารมาก ถ้าสามารถฝึกสำเร็จจะทำให้อู๋เป่ยมีวิชาใหม่เพิ่มอีกหลายอย่าง เช่น วิชาอูจู้ (การทำนายโชคชะตา) และวิชายันต์ต้องคำสาป เป็นต้น

และการที่มีปรารถนาแห่งเทพทำให้วิชาหมัดของเขายิ่งบริสุทธิ์มากขึ้น จากการรับรู้การมีอยู่ของหมัดตามด้วยปรารถนาแห่งหมัด การที่มีปรารถนาแห่งหมัดทำให้เขาเข้าสู่ชั้นปรมาจารย์ชั้นพรสวรรค์อย่างแท้จริง