หลังจากที่คุยเล่นกันอยู่สักพัก ก็ได้เวลาอาหารกลางวัน หยางมู่ไป๋เก็บสะสมเหล้าชั้นดีเอาไว้มากมายจริงๆ ด้วย เขาเลือกออกมาอยู่สองสามขวด เพื่อเตรียมไปเมากับอู๋เป่ย
หยางมู่ไป๋รู้สึกดีใจและมีความสุขมาก อู๋เป่ยไม่เพียงแค่รักษาโรคหัวใจให้กับเขาได้เท่านั้น แต่ยังช่วยเขาเปิดอุโมงค์ และได้สมบัติล้ำค่าออกมาถึงสองชิ้น มันคุ้มค่าที่จะเมาจริงๆ!
อาหารพึ่งจะขึ้นโต๊ะ ก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากด้านนอก “กลิ่นเหล้าช่างหอมหวนเสียจริง มู๋ไป๋ ทำไมไม่เรียกฉันมาด้วยหล่ะ?”
เมื่อหยางมู๋ไป๋ได้ยินดังนั้น ก็รู้ได้ทันทีว่าศิษย์พี่ใหญ่เย่เทียนจงเดินทางมาที่นี่ เขากลอกตามองบน “ศิษย์พี่ใหญ่ พี่ยังมีหน้ามาพูดอีกหรือ ครั้งที่แล้วที่พี่มา ก็ดื่มจนเกลี้ยงห้องเก็บเหล้าของฉันแล้ว”
หลังจากพูดจบ เย่เทียนจงก็เดินเข้ามาถึงในห้อง อู๋เป่ยลุกขึ้นยืนเพื่อแสดงความเคารพ
เย่เทียนจงหัวเราะ “ฮ่าฮ่า” และจับอู๋เป่ยให้กลับไปนั่งที่เดิม จากนั้นก็นั่งลงข้างๆ เขา และพูดว่า “มู๋ไป๋ ไปเอาไวน์มาอีกสองขวดสิ มีไม่กี่ขวดแค่นี้เธอคนเดียวยังดื่มไม่พอเลย”
หยางมู๋ไป๋ทำหน้ากระอักกระอ่วน และพูดว่า “ศิษย์พี่ ดื่มแอลกอฮอล์มากไปมันทำร้ายสุขภาพ พวกเราดื่มน้อยๆ กันหน่อยเถอะ”
เย่เทียนจงเยาะเย้ย “เธอจะให้ฉันไปเอาเองใช่ไหม?”
หยางมู๋ไป๋รีบยกมือขึ้นมาห้ามปรามทันที “โอเค ฉันไปเอาเอง”
หยางมู๋ไป๋เดินไปห้องเก็บเหล้าด้วยตัวเอง เย่เทียนจงพูดกระซิบเบาๆ ว่า “ศิษย์น้อง ศิษย์พี่รองของเธอเก็บสะสมเหล้าที่มีชื่อเสียงจากสมัยราชวงศ์ชิงไว้เยอะเลย ดังนั้นเธอจงดื่มเยอะๆ หล่ะ”
อู๋เป่ยตกใจ “เหล้าสมัยราชวงศ์ชิงอย่างนั้นหรือ?”
เย่เทียนจงพยักหน้า “เขาชอบเก็บสะสม แถมยังมีเหล้าจักรพรรดิจากวังหลวงของราชวงศ์ชิงอยู่เยอะเลยด้วย”
แววตาของอู๋เป่ยดูเป็นประกายขึ้นมา “ตอนจะกลับ ฉันต้องขอศิษย์พี่รองสักสองสามไหซะแล้วหล่ะ”
เย่เทียนจงหัวเราะ “เหอะเหอะ” “ถูกต้อง ไม่ต้องเกรงใจเขาหรอก”
ผ่านไปสักครู่ หยางมู๋ไป๋ก็อุ้มไหเหล้าสองไหและเดินเข้ามา ฝาด้านบนมีลวดลายมังกรสีเหลือง แต่ละไหมีน้ำหนักประมาณสิบห้ากิโลกรัมได้
เย่เทียนจงกวาดสายตามอง และตะโกนขึ้นว่า “เหล้าซงหลิง? ฉันหมายความว่ามู๋ไป๋ ทำไมครั้งนี้ถึงใจกว้างได้ขนาดนี้เลยเล่า?”
หยางมู๋ไป๋หัวเราะและตอบว่า “ศิษย์พี่ พี่ได้พึ่งบารมีจากศิษย์น้องเล็กของพวกเราแล้วหล่ะ ศิษย์น้องรักษาโรคหัวใจของฉันจนหายดี ฉันต้องเลือกเหล้าที่ดีที่สุดมาให้เขาเพื่อแทนคำขอบคุณ”
เย่เทียนจงตกใจ “ศิษย์น้องรักษาโรคหัวใจของเธอจนหายดีอย่างนั้นหรือ?”
หยางมู๋ไป๋พยักหน้ายิ้มรับ “หายเป็นปกติดีทุกอย่างเลย และภายในหนึ่งปีนี้ ฉันก็จะบรรลุถึงชั้นเทพได้แล้ว”
เย่เทียนจงดีใจมาก “เยี่ยมไปเลย! เพราะอาการป่วยของเธอ ท่านอาจารย์ถึงได้เป็นห่วงมาโดยตลอด ตอนนี้รักษาหายดีแล้ว การฝึกฝนของเธอจะแซงหน้าศิษย์พี่ไปได้ในอีกไม่ช้า มา พวกเราสามพี่น้อง ชนแก้วกัน!”
พวกเขาดื่มเหล้าจากแก้วจนหมด จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นดื่มจากไหแทน เหล้าซงหลิงนี้ ผลิตขึ้นในสมัยของจักรพรรดิเฉียนหลง เล่ากันว่า การกลั่นเหล้าชนิดนี้ต้องไปขุดโคนต้นสนโบราณบนภูเขาลึก ขุดลึกจนถึงรากต้น จากนั้นเปิดฝาเหล้าออกและฝังเอาไว้ใต้ต้นไม้นั้น เหล้าจะดูดซับกลิ่นหอมธรรมชาติจากรากไม้เอาไว้ ฝังไว้นานถึงหนึ่งปี พอขุดขึ้นมาแล้ว สีของเหล้าจะเป็นสีเหลืองทองอำพัน และรสชาติกลมกล่อมอร่อยเป็นที่สุด
ด้วยเป็นเพราะความเสียดาย หยางมู่ไป๋จึงไม่ยอมดื่มเหล้าไหนี้เลย เดิมทีตั้งใจว่าจะใช้เป็นของขวัญวันเกิดให้กับท่านอาจารย์ แต่ตอนนี้เขานำมันออกมาดื่ม เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขมากแค่ไหน
ทันทีที่เปิดไหเหล้า กลิ่นหอมกรุ่นนั้นก็โชยออกมาจนทำให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ อู๋เป่ยสูดดมเข้าไปเต็มปอดและพูดว่า “หอมฉุยเลย! ศิษย์พี่ พี่ได้เหล้านี้มาจากไหนหรือ?แล้วยังมีอีกไหม?”
หยางมู่ไป๋หัวเราะและพูดว่า “เหล้านี้เป็นล็อตที่ผลิตในช่วงสมัยราชวงศ์ชิงและขุนนางเหลียงอวิ้นสู่ได้เก็บไว้เป็นการส่วนตัว ตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้ และฉันก็ซื้อมันมาได้จำนวนหนึ่งด้วยวิธีของฉันเอง มีทั้งหมดสามไห ดื่มไปแล้วหนึ่งไห ตอนนี้ฉันเหลือเพียงหนึ่งไห ดื่มหมดนี้ก็ไม่มีแล้วนะ ไหที่เหลือ ฉันต้องมอบให้กับท่านอาจารย์”
จือชิงกับเต๋อเป่านั่งอยู่ด้านข้างเพื่อคอยรินเหล้า ในขณะที่นายท่านทั้งสามกำลังดื่มเหล้ากันอยู่นั้น พวกเขาต่างไม่กล้าที่จะพูดคุยกันเลย เมื่อเห็นเหล้าซงหลิงนี้แล้ว ก็รู้สึกกระหายเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำได้เพียงแค่นั่งมองเท่านั้น
โดยเฉพาะเต๋อเป่า ชอบการดื่มเหล้าเป็นชีวิตจิตใจ เขากระหายเหล้าจนน้ำลายไหลหยดติ๋งๆ
พวกเขาอดคิดไม่ได้เลยว่า ไม่แปลกใจเลยที่ท่านอาจารย์รับศิษย์ผู้นี้เอาไว้ เขาช่างเป็นมังกรหงส์ในฝูงชน เป็นพรสวรรค์ที่หาได้ยากจริงๆ!
ช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม เย่เทียนจงได้รับโทรศัพท์จากสายหนึ่ง เขาพูดกับอู๋เป่ยว่า “ศิษย์น้อง ท่านอาวุโสจ้าวมีเวลาว่างอยู่ เธอจะไปพบเขาสักหน่อยไหม?”
เขาไม่ได้คาดหวังว่าอู๋เป่ยจะสามารถรักษาจ้าวหวังจุนได้ แต่ไปพบหน้ากันสักหน่อยมันก็ไม่เลวนะ อย่างน้อยก็เพิ่มคะแนนความชอบให้กับท่านอาวุโสจ้าวได้บ้าง
อู๋เป่ยถามด้วยความแปลกใจว่า “ศิษย์พี่ ทำไมถึงต้องไปกลางดึกแบบนี้ด้วยหล่ะ?”
เย่เทียนจงฝืนยิ้ม “ศิษย์น้องไม่รู้หรือว่า ช่วงเวลากลางวันมีหมอที่มีชื่อเสียงมากมายอัดแน่นอยู่ที่นั่นเต็มไปหมด แค่ฉันอยากจะเจอหน้าท่านอาวุโสจ้าวยังยากเลย แต่ตอนนี้ หมอที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นกลับกันไปหมดแล้ว ประจวบเหมาะกับท่านอาวุโสจ้าวให้ฉันไปที่นั่นด้วย เลยจะถือโอกาสพาเธอไปด้วยกันเลย”
หยางมู่ไป๋ “ศิษย์พี่ ศิษย์น้อง พวกเรารีบไปกันเถอะ”
หลังจากที่เขาทั้งสองเก็บของเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็ออกเดินทางไปบ้านของจ้าวหวังซุนทันที
สถานที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก อยู่ในซอยเดียวกัน ใช้เวลาขับรถประมาณยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว
ก่อนที่จะถึงประตูอาคาร ก็มีกลุ่มผู้อารักขากรูกันเข้ามา หลังจากสอบถามยืนยันตัวตนชัดเจนแล้ว ถึงอนุญาตให้พวกเขาเข้าไปได้
อู๋เป่ยพบว่า ความแข็งแกร่งของผู้อารักขาเหล่านี้ มีทั้งพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดหรือไม่ก็เพราะเสินจิ้นนั่นเอง ไม่มีใครด้อยเลยสักคน!
เมื่อมาถึงห้องโถง มีผู้คนสิบกว่าคนนั่งอยู่ในนั้น ล้วนดูไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะของเย่เทียนจิงเอง เขาแสดงท่าทีสุภาพให้กับพวกเขาเหล่านั้น ด้วยการแสดงความคำนับให้ทีละคนทีละคน
คนเหล่านั้น บ้างก็ลุกขึ้นคำนับตอบ บ้างก็พยักหน้าเล็กน้อย นั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่า พวกเขาเหล่านั้น บางคนมีตำแหน่งที่สูงกว่าเย่เทียนจิงนั่นเอง!
จากนั้น เขาพาอู๋เป่ยไปถึงห้องนอนอันกว้างขวางห้องหนึ่ง ภายในห้องมีเตียงไม้โบราณหลังหนึ่ง บนเตียงมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ สีหน้าดูหมองคล้ำ ลมหายใจโรยริน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...