ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 34

เจ้าหน้าที่สืบสวนเหอเหรอ? อู๋เป่ยกลับไม่รู้จักเขา เขาพูดว่า "แม่ แม่ให้เขารับโทรศัพท์หน่อยครับ"

ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงฮาฮาจากฝั่งนั้น: "อู๋เป่ยใช่ไหม? ผมคือเหอปี้ชื่อนะ เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนของกองกําลังจับกุมอาชญากรของอำเภอ ผมมาที่นี่เพราะอยากจะถามคุณสักหน่อย ตอนนี้คุณสะดวกที่จะกลับมาไหม?

อู๋เป่ย: "ได้ ผมจะรีบกลับบ้านทันที"

เมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาเห็นรถตํารวจจอดอยู่หน้าประตู และจางลี่กําลังคุยกับผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคนในสวน

ผู้ชายคนนั้นรูปร่างอ้วนถ่วม ที่มีรอยยิ้มบนใบหน้า ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก เธอเป็นผู้หญิงที่สวยแบบเดียวกันกับถางจื่ออี สวมกางเกงยีนส์สีม่วง รองเท้าท็อปบู๊ตสีขาว มัดผมหางม้าที่ทั้งสีดําและเงางาม ใบหน้ารูปแตงโม ผิวขาว ขาสวย ดูสูงและเรียวยาว แต่หน้าอกของเธอใหญ่มากจนเสื้อจะปริ

พอเห็นอู๋เปายยกลับมา ชายอ้วนก็จับมือทักทายกับเขาทันที: "สวัสดี ผมชื่อเหอปี้ชื่อ"

อู๋เป่ยพยักหน้า: 'สวัสดี มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ'

เหอปี้ชื่อยิ้มและพูดว่า "วันนั้นเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ต่อกันเป็นแถบ เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคน หลังจากเกิดเรื่องเราก็ตรวจสอบเฝ้าระวัง และพบว่าคุณช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บสาหัสหลายคนไว้ได้ นอกจากนี้ยังเข้าไปปราบคนขับรถบรรทุกปูนซีเมนต์ที่กำลังจะก่ออาชญากรรมครั้งที่สองอีกด้วย ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณคุณ และอีกอย่าง ผมมีข้อคล่องใจอยากจะถามคุณ

อู๋เป่ย: "ไม่เป็นไร ผมแค่บังเอิญอยู่ในเหตุการณ์ ก็เลยเข้าไปช่วย เออใช่สิ คนขับสารภาพหรือยัง? ทําไมเขาถึงทําร้ายผู้คน?

สาวสวยขาเรียวยาวพูดว่า "คนขับบรรทุกปูนซีเมนต์ฆ่าตัวตายในโรงพยาบาลไปแล้ว"

อู๋เป่ยขมวดคิ้ว: "ฆ่าตัวตายเหรอ"

เหอปี้ชื่อพยักหน้า: "ใช่ เขาใช้ช่วงที่คนเผลอแค่พริบตาเดียว ใช้เข็มน้ำเกลือตัดหลอดเลือดแดง เลือดพุ่งไกลหลายเมตร เพียงไม่กี่นาทีก็ตาย"

อูเป่ย: "ถ้าได้รับบาดเจ็บในโรงพยาบาล ถ้าเขาตัดหลอดเลือดแดง กูควรจะช่วยไว้ทัน"

เหอปี้ชื่อ: "ก็ควรจะเป็นแบบนี้ แต่วันนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บเยอะเกินไป แพทย์ยุ่งมากและกําลังช่วยเหลือผู้ป่วย กว่าศัลยแพทย์จะมาถึง ก็สายเกินไปแล้ว"

อู๋เป่ยถอนหายใจ ชายคนนี้ตาย แล้วจะสืบสวนได้อย่างไร?

เหอปี้ชื่อถามต่ออีกว่า "มีคําถามอีกหน่อย ตอนนั้นที่คุณดันรถคนนั้นที่จอดอยู่ไปข้างหน้าล่วงหน้า ผมอยากรู้ คุณรู้ได้อย่างไรว่ามีคนขับมีความผิดปกติบางอย่าง"

อู๋เป่ย: "ตอนนั้นผมจากดูกระจกมองหลังและเห็นว่ารถอยู่ห่างจากข้างหลังรถไม่ถึง 100 เมตร แต่ก็ยังมาด้วยความเร็วและไม่มีวี่แววที่จะเบรก ผมรู้ว่ารถใหญ่แบบนี้เบรกทันแน่ๆ ผมคิดอะไรไม่ทันก็เลยบีบแตร แต่รถคันข้างหน้าไม่เข้าใจว่าผมจะสื่ออะไร ผมทําได้แค่สตาร์ทรถและทำยังก็ได้ให้รถไปจอดอยู่ในตําแหน่งที่ปลอดภัย

เหอปี้ชื่อพยักหน้า: "ดูแล้วสายตาคุณดีมาก และมีวิจารณญาณที่สุดยอด"

อู๋เป่ยยิ้มและพูดว่า "สายตาผมดีจริงๆ"

ผู้หญิงคนนั้นเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "โอ้? ความสามารถในการมองเห็นของฉันก็ถือว่าดีมากแล้ว ประมาณ 5.7 นี่ของคุณยังดีกว่าฉันอีกเหรอ

เหอปี้ชื่อยิ้มและพูดว่า "ใช่ ใช่ สายตาของรั่วเซว่นั้นดีมาก เธอสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวรูปปาก e เพียงสองเซนติเมตรที่อยู่ห่างออกไปมากกว่าสองเมตรได้อย่างชัดเจน ดังนั้นทักษะการยิงของเธอจึงแม่นยําเป็นพิเศษ จนไดมีฉายาว่ากุหลาบเพชรฆาต"

อู๋เป่ยรู้สึกแปลกใจอย่างมาก ความสามารถในการมองเห็นของคนที่มีสุขภาพปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 5.0 เท่านั้น เธอมีถึง 5.7 จริงเหรอ?

เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นท่าทางของอู๋เป่ย เธอยื่นมือออกไปและพูดว่า "ฉันชื่อโจวรั่วเซว่ เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนของกองกําลังจับกุมทางอาญา คุณคิดว่าฉันโม้เหรอ"

อู๋เป่ยพูดในใจ ผมว่าคุณโม้ซะเมื่อไรล่ะ? เขาจึงรีบพูดว่า "เปล่าผมแค่จะชื่นชม"

"จริงเหรอ" โจวรั่วเซว่เลิกคิ้ว "แต่เมื่อเทียบกับคุณ ฉันคงสู้ไม่ไหว คุณอู๋เป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ใช่ไหม"

อู๋เป่ยยิ้มจางๆ: "จะว่าผมเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ก็ไม่เชิง แต่ผมฝึกกังฟูมาหลายปีแล้ว

โจวรั่วเซว่: "ฉันตรวจสอบแล้ว เมื่อสองปีที่แล้ว คุณเคยถูกตัดสินให้จําคุกเจ็ดปีในข้อหาต่อสู้และทําร้ายผู้คน พอครบสองปีคุณถึงได้รับการปล่อยตัว"

อู๋เป่ยหน้านิ่ง: "ใช่ การสืบสวนของโจวถันละเอียดมาก"

“ที่พวกเรามาครั้งนี้ ไม่ได้มีอะไร แค่อยากจะขอบคุณคุณ อืมใช่ แล้วคนที่คุณช่วยไว้ในวันนั้นต่างก็รู้สึกขอบคุณคุณมาก มีบางคนยังถามถึงข่าวคราวของคุณ และอยากจะมาขอบคุณด้วยตัวเอง

อู๋เป่ยรีบพูด "ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็กน้อย"

เหอปี้ชื่อยิ้มและพูดว่า "พวกเราจะจดจำความเมตตาของคุณอู๋

เอาไว้ ในภายภาคหน้าถ้าคุณมีอะไรให้ช่วย สามารถติดต่อผมได้ ถ้าไม่เกินความสามารถของผม ผมจะช่วยแน่นอน" และเขาก็ยื่นนามบัตรตัวเองให้

ทั้งสองจึงกล่าวอําลาและส่งพวกเขากลับ อู๋เป่ยก็โทรหาเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ว่าเขาอยากจะเช่าบ้านหลังนั้นต่อ หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อหาหวงจื่อเฉียง และให้พวกเขาย้ายเข้ามา

หลังจากที่โจวรั่วเซว่และเหอปี้ชื่อออกจากบ้านของอู๋เป่ย พวกเขาก็มาที่ซอยใกล้ๆ พวกเขากําลังติดตามการกระทําผิดซ้ำระดับเกรดเอที่ไล่ล่าผ่านทางออนไลน์ อีกฝ่ายได้ก่อเหตุฆาตกรรมหลายครั้ง มีความสามารถในการหลบหลีกการลาดตระเวนที่สุดยอด แลเอันตรายมาก

ตามข้อมูล นี่อาจเป็นที่กลบดานของอีกฝ่ายหนึ่ง พวกเขาจึงเข้ามาลาดตะเวนดู

เมื่อถึงประตูหน้าบ้าน เหอปี้ชื่อเคาะประตูอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครเปิดประตู

โจวรั่วเซว่ พูดว่า "หัวหน้า อยากเข้าไปดูไหม"

เหอปี้ชื่อครุ่นคิดและพูดว่า "ช่างเถอะ" แวะเข้ามาดูราดราว ถ้าไม่มีใครก็ไปกันเถอะ

พอพวกเขาก้าวไปได้เพียงสองสามก้าว จู่ๆ ประตูก็เปิดออก และมีเสียงดังออกมา: "พวกคุณมาหาใครเหรอ"

เหอปี้ชื่อหันกลับมา เห็นหญิงชราคนหนึ่งหลังคร่อมโผล่หัวออกมา ใบหน้าของเธอเหี่ยวย่น อายุน่าจะเจ็ดสิบกว่าแล้ว

เหอปี้ชื่อรีบพูดว่า "ท่านผู้หญิง เราเป็นทีมจับกุม ขอสอบถามว่าใครอาศัยอยู่บ้านหลังนี้บ้างครับ"

แผงประตูถูกชายคนนั้นฟาดและชนเข้ากับเธอ เธอหลบไม่ทัน ได้แต่ใช้แขนทั้งสองข้างป้องกันตัวเอง จากนั้นการโจมตีก็รุนแรงขึ้นเธอถูกกระแทกกับพื้นอย่างหนัก เธอเจ็บปวดทั่วร่างกายอย่างรุนแรง และปืนก็หายไป

วินาทีต่อมา หญิงชราคนนั้นก็เข้ามาเยาะเย้ยและเตะบานประตูใส่ เอวของเธอไม่คร่อมเหมือนแต่ก่อนแล้ว และสายตาของเธอกระพริบตาราวกับสัตว์ร้าย

"สาวน้อย สวยใช่ได้เลย ไหนมาให้ฉันเล่นดูสิ เล่นเสร็จผมจะฆ่าคุณ!" เขาหัวเราะเสียงดังและเอื้อมมือไปคว้าโจวรั่วเซว่ โจวรั่วเซว่กรีดร้อง เพราะเธอนอนอยู่บนพื้น เธอจึงใช้เท้าถีบไปที่อีกฝ่าย

แต่ ชายคนนั้นฝึกกรงเล็บนกอินทรีมานานกว่าสิบปี มือของเขาทรงพลังมากจนสามารถคว้าเท้าของเธอ ยิ้มแล้วดึงเธอเข้าไปในบ้าน

ข้อเท้าของโจวรั่วเซว่ถูกเขากําไว้แน่น ในตอนนั้นเธอรู้สึกเจ็บมาก เธอกรีดร้อง จนเกือบจะเป็นลมด้วยความเจ็บปวด

เหอปี้ชื่อ คํารามและรีบวิ่งไปด้านหลังเขา แต่เขาคว้ามือแลเฟาดเขาออกไป เขาเวียนหัวจนไม่สามารถลุกขึ้นได้อยู่นาน

เขาโยนโจวรั่งเซว่ลงบนพื้นแล้วหยิบปืนขึ้นมาจากพื้น ทันทีที่เขากำลังจะพลิกมือ ปืนก็กลายเป็นกองชิ้นส่วนและกระจัดกระจายอยู่บนพื้น

ทันใดนั้นเขาก็หรี่ตาลงและมองไปที่ประตู

มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาที่ประตู ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไร เขาเอามือล้วงกระเป๋าแล้วมองเขาอย่างเย็นชา

"มานี่" เขาโบกมือพร้อมที่จะตบชายหนุ่มให้ตาย เพราะกลัวว่าเขาจะเรียกตํารวจ

จู่ๆ ชายหนุ่มก็เข้ามาจริงๆ เมื่อเห็นเขา ดวงตาที่สวยงามของ โจวรั่วเซว่ก็ก็เป็นประกายขึ้น เพราะคนที่มาคืออู๋เป่ย!

พออู๋เป่ยเข้ามาใกล้ ชายคนนั้นก็คว้าคอของเขาไว้ พอเขาจะลงมือ อู๋เป่ยก็ลงมือเช่นกัน แล้วมือกรงเล็บมังกรคิงคองก็ปะทะกับทักษะกรงเล็บนกอินทรี

ทันทีที่ฝ่ามือสัมผัส คนที่แต่งตัวเป็นหญิงชราก็กรีดร้อง และเสียงฝ่ามือก็ดัง "ควั๊ก" เพราะถูกขัดจังหวะ

อู๋เป่ยดึงข้อมือแล้วเอาเข่าแตะท้อง ฆาตกรก็ทำเสียงฮึดฮัดสำลักออกมา แม้แต่อาหารเช้าที่กินเข้าไปก็ออกมาจนหมดไส้หมดพุง เขาหดตัวเป็นกุ้งด้วยความเจ็บปวดและขยับตัวไม่ได้

อู๋เป่ยยังไม่วางใจ ขึ้นไปเหยียบเขาซ้ำสองสามที จนเขาไม่ขยับถึงหยุด

โจวรั่วเซว่รู้สึกโล่งใจอย่างมาก น้ําตาคลอและพูดด้วยน้ําเสียงสั่นเทาว่า "ขอบคุณนะคะ รีบไปดูเจ้านายฉันเถอะ"

อู๋เป่ยเหลือบมอง: "เขาไม่เป็นไร" จากนั้นก็นั่งยองๆ แล้วยกข้อเท้าของโจวรั่วเซว่ขึ้น

มีรอยนิ้วมือสีดําเข้มห้ารอยบนข้อเท้าสีขาวราวกับหิมะของเธอ เป็นรอยขีดข่วนด้วยกรงเล็บของนกอินทรี ซึ่งสามารถทําร้ายกล้ามเนื้อและกระดูก หากไม่ได้รับการรักษาให้ทันเวลา เท้าของเธอจะพิการ

"คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง" เขาถาม

โจว่รั่วเซว่เช็ดน้ําตาของเธอ: "ฉันขยับไม่ได้ พอขยับก็เจ็บ เหมือนมีเข็มนับไม่ถ้วนกำลังแทงกระดูกของฉัน"

อู๋เป่ยพยักหน้า: "กรงเล็บนกอินทรีของชายคนนี้ยังขาดความร้อน ไม่เช่นนั้นเพียงแค่เขาสัมผัสเล็กน้อยก็คงทำลายกล้ามเนื้อและกระดูกไปแล้ว ผมจะรักษาคุณตอนนี้เลย จะเจ็บสักหน่อย คุณอดทนหน่อยนะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ