อู๋เป่ยไร้สีหน้า พูด : “โหวชู่คนนี้เอาแต่ใจจริงๆ เขาเป็นใคร”
เจียเหลียงพูด : “โหวชู่เป็นคนสนิทของหัวหน้าใหญ่”
อู๋เป่ยหัวเราะแหะแหะ พูด : “ได้ ผมไป”
เจียเหลียงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ท้ายที่สุดแล้วอู๋เป่ยเป็นคนของจ้าวเจิ้งลิ่ง เขาไม่อยากรุกรานทั้งสองฝ่าย
อู๋เป่ยพูดกับไป๋ปิง : “คุณพักผ่อนที่โรงแรม ผมออกไปหนึ่งรอบ”
ไป๋ปิงไม่ใช่คนโง่ ไม่ใช่งานเลี้ยงที่ดี เรื่องนี้เกรงว่าไม่มีผลดีต่ออู๋เป่ย เธอกระซิบพูด : “นายระวังตัวด้วย”
อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม : “ไม่เป็นไร รอผมกลับมา”
ปล่อยให้ไป๋ปิงอยู่ต่อ เขาและเจียเหลียงไปอีกห้องหนึ่ง หม่าจวินเจี๋ยไม่อยู่แล้ว และสมาชิกที่อยู่ในเหตุการณ์มองเห็นอู๋เป่ยมีการหลบสายตาเล็กน้อย ใบหน้าของอู๋เป่ยสงบนิ่ง นั่งสูบบุหรี่บนโซฟาเงียบๆ
ผ่านไปสิบกว่านาที มือถือของเจียเหลียงดังขึ้น เขาฟังไปหลายประโยค จากนั้นพูดกับอู๋เป่ย : “หัวหน้าทีมอู๋ โหวชู่รอคุณที่ล็อบบี้”
อู๋เป่ย : “ใช่ไหม ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้เลย”
เขาลุกขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากนั้นเดินออกไปข้างนอกอย่างช้าๆ เขาไม่ได้ขึ้นลิฟต์ แต่ใช้ทางหนีไฟฉุกเฉิน ค่อยๆเดินไปข้างล่างอย่างเชื่องช้า รอให้เขามาถึงล็อบบี้ของโรงแรม ก็สิบกว่านาทีแล้ว
คนผู้นี้หวีผมไปด้านหลัง ชายอายุสามสิบเจ็ดปีกำลังรอเขาอยู่ที่ล็อบบี้ เขาก้มหน้ามองนาฬิกาเป็นครั้งคราว ราวกับว่ารีบอย่างมาก
อู๋เป่ยออกมาจากทางเข้าลิฟต์ มองดูผู้ชายคนนั้น เพียงแค่เห็นเขาเต็มไปด้วยความเหลืออด บ่นพึมพำในปาก มองเห็นอู๋เป่ย สีหน้าของเขาเคร่งขรึม ถาม : “คุณก็คือหัวหน้าทีมอู๋เหรอ”
อู๋เป่ยพูด : “ผมเอง คุณคือโหวชู่เหรอ”
โหวชู่คนนี้ฮึหนึ่งที พูด : “หัวหน้าทีมอู๋ คุณช้าไปแล้วมั้ง ลงตึกต้องใช้เวลาสิบสองนาทีเลยเหรอ”
อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม : “ช่วงนี้กำลังฝึกฝนร่างกาย ชอบเดินบันได ดังนั้นเลยช้าหน่อย”
โหวชู่โบกมือ : “ช่างเถอะ ผมไม่ถือสาคุณ คุณไปกับผมเดี๋ยวนี้ ไปเจอหน้ากับหลี่เจี่ยหนงด้วยกัน ยอมรับผิด.....”
เขายังไม่ทันพูดจบ จู่ๆอู๋เป่ยก็กุมท้อง : “ต้องขออภัยด้วยโหวชู่ ผมปวดท้อง ผมต้องรีบไปเข้าน้ำสักพักแล้ว......” ระหว่างที่พูด ไปกดลิฟต์ด้วยความเร่งรีบอีกครั้ง จะไปเข้าห้องน้ำที่ห้อง
โหวชู่คนนั้นตะลึงไปเลย เขาโมโหจนกระทืบเท้า พูดเสียงดัง : “คุณช่วยเร็วๆหน่อย!”
อู๋เป่ยกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุด เขามาถึงชั้นบนสุด ก่อนอื่นสูบบุหรี่หนึ่งม้วน หลังจากนั้นโทรศัพท์หาจ้าวเจิ้งลิ่ง
สามวินาทีก็มีคนรับสายแล้ว อู๋เป่ยพูด : “จ้าวเจิ้งลิ่ง นี่คุณหมายความว่ายังไง”
จ้าวเจิ้งลิ่งหัวเราะฮ่าฮ่า : “คุณอู๋ คุณหมายถึงเรื่องที่ไปพบหน้าหลี่เจี่ยหนงเหรอ นี่เป็นความต้องการของเบื้องบน แม้ว่าผมจะต่อต้าน แต่ก็ไม่เป็นผลอะไรเลย”
อู๋เป่ยพูดอย่างไม่แยแส : “ทุกคนต่างรู้ว่าผมจัดการหม่าจวินเจี๋ย หลี่เจี่ยหนงจะไว้หน้าผมเหรอ พวกคุณขายผมแล้วใช่ไหม”
จ้าวเจิ้งลิ่งเงียบไปหลายวินาที พูด : “คุณอู๋ เรื่องนี้ผมต้องขออภัยอย่างมากจริงๆ ผมได้ยินมาว่าข้างกายหลี่เจี่ยหนงมียอดฝีมือคนหนึ่ง เกรงว่าคนๆนี้จะคิดไม่ดีกับคุณ งานเลี้ยงคืนนี้ คุณอย่าไปดีกว่า”
อู๋เป่ยพูดอย่างไม่แยแส : “ไปยังไงก็ต้องไป ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะคิดว่าผมกลัวพวกเขา สุดท้ายผมถามแค่ประโยคเดียว คืนนี้ถ้าหากผมฆ่าคนไปสักสองสามคน ไม่มีปัญหาใช่ไหม”
จ้าวเจิ้งลิ่งพูดอย่างไม่แยแส : “เรื่องของยุทธภพ เป็นหน้าที่ของกรมศิลปะการต่อสู้ขั้นเทพ”
“เข้าใจแล้ว” อู๋เป่ยวางสายทันที
สูบบุหรี่เสร็จ เขาลงจากข้างลิฟต์อย่างไม่เร่งรีบ หลังจากครึ่งชั่วโมงค่อยกลับไปล็อบบี้อีกครั้ง
สีหน้าของโหวชู่เริ่มเขียวแล้ว เขาถามอย่างเคร่งขรึม : “หัวหน้าทีมอู๋ คุณสบายท้องแล้วใช่ไหม”
อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม : “ตอนนี้สบายขึ้นแล้ว”
โหวชู่ฮึหนึ่งที พูด : “ขึ้นรถกันเถอะ คนขับรถรอพวกเรานานมากแล้ว”
ทั้งสองคนขึ้นรถคันเดียวกัน โหวชู่คนนี้ไม่อยากคุยกับอู๋เป่ย เงียบไปตลอดทาง
อู๋เป่ยหัวเราะอย่างเย็นชา : “นั่นเป็นเรื่องของฉัน ไม่ต้องเป็นกังวล”
หลังจากนั้นเตะโหวชู่หนึ่งที ภายลวงตาหายไปทันที เขามองอู๋เป่ยด้วยความหวาดกลัว กลับไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว
หม่าจวินเจี๋ยสูดลมหายใจเข้าหนึ่งที พูด : “เชิญ!”
อู๋เป่ยมาถึงห้องโถงใหญ่ ในเวลานี้มีคนสามคนนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ ตรงหน้าเขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง หายใจเข้าลึก ๆ มองไม่ออกว่าอายุเท่าไหร่ เขามีใบหน้าที่ยาวและบาง มีคิ้วที่โศกเศร้าและดวงตารูปสามเหลี่ยมราวกับว่าเขากำลังร้องไห้
ด้านข้างเขา มีวัยกลางคนๆหนึ่งนั่งอยู่ อู๋เป่ยเคยเห็นรูปภาพของคนๆนี้ เขาก็คือหลี่เจี่ยหนง
ด้านซ้ายมือของหลี่เจี่ยหนง มีชายหน้าเคร่งขรึมคนหนึ่งนั่งอยู่ ประมาณห้าสิบต้นๆ ด้วยใบหน้ากลม คิ้วหนา ดวงตาโต ผมสั้น สวมเสื้อคลุมสีเหลืองแดง แขนข้างหนึ่งเปลือย มองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นผู้ฝึกฝนจากที่ทิเบต
หม่าจวินเจี๋ยเดินมาถึงข้างหลี่เจี่ยหนง พูดเสียงต่ำ : “พ่อ คนๆนี้ก็คืออู๋เป่ย”
หลี่เจี่ยหนงมองอู๋เป่ยด้วยสายตาของศัตรู พูดอย่างเย็นชา : “แกก็คืออู๋เป่ยเหรอ กล้าแตะต้องคนของฉัน ใครให้ความกล้านี้กับแก”
หลี่เจี่ยหนงคนนี้ไม่เกรงใจอย่างมาก มาถึงก็ตำหนิอู๋เป่ยทันที
อู๋เป่ยจ้องหลี่เจี่ยหนง พูด : “แกไม่มีคุณสมบัติคุยกับฉัน” พูดจบ เขามองไปทางชายที่มีคิ้วที่โศกเศร้า
หลี่เจี่ยหนงโกรธอย่างมาก เขาหันหน้าไปมองชายที่มีคิ้วที่โศกเศร้า เขาฮึหนึ่งที พูด : “ไม่เสียแรงที่เป็นผู้สืบทอดของท่านตงฟ๋อ อยู่ต่อหน้าฉันยังมีความมั่นใจขนาดนี้”
อู๋เป่ยถาม : “แกก็คือหวงเทียนป้าใช่ไหม”
ผู้ชายเป็นหวงเทียนป้าจริงๆ เขาพูดอย่างไม่แยแส : “ได้ยินมาว่าท่านตงฟ๋เลื่อนขั้นเป็นเง็กเซียน น่ายินดีน่ายินดี”
อู๋เป่ย : “ไม่ต้องพูดไร้สาระ พวกแกเรียกฉันมา มีจุดประสงค์อะไร”
หวงเทียนนป้าหัวเราะฮ่าฮ่า : “ฉันก็แค่อยากถาม กล้าแตะต้องคนของฉัน ใครให้ความกล้านี้กับแก ต่อให้อาจารย์ท่านตงฟ๋อของแกล้วนแล้วต้องไว้หน้าฉันบ้าง แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...