อู๋เป่ย:“เมืองกั่งพื้นที่แค่นี้ หาคนคนเดียวไม่ยากอะไรหรอก”
ขณะที่พูด เขาก็สั่งให้คนหาเส้นผมของซือมิ่งคนก่อนมาสองสามเส้น ถามวันเกิด หลังจากนั้นก็หยิบเหรียญห้าจักรพรรดิออกมาทำนาย
หลังจากที่เลื่อนขั้นเป็นชั้นเทพ วิชาทำนายของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างมาก เหรียญห้าจักรพรรดิกระจายลงบนพื้น จากนั้นก็เผยให้เห็นรูปภาพสองจุดสำคัญ รูปภาพจุดแรกสามารถวินิจฉัยสถานการณ์คร่าวๆออกมาได้
เขายังมีชีวิตอยู่ สถานที่อยู่ทิศตะวันตกของเมืองกั่ง บนเกาะเกาะหนึ่ง
รูปภาพจุดที่สองก็ชัดเจนมากเช่นกัน พอมองทะลุผ่านรูปภาพไป ทำให้เขาได้รับข้อมูลมากกว่าเดิม ซือมิ่งคนก่อนได้รับบาดเจ็บหนัก ตกอยู่ในสภาพที่ยังไม่ได้สติ รอบข้างมีแต่บุคคลอันตราย ในขณะเดียวกัน เขาก็คำนวณตำแหน่งของสถานที่ออกมาได้ชัดเจนแล้ว เป็นเกาะเกาะหนึ่ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองกั่ง
เขารีบหยิบแผนที่ออกมา พบว่าฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองกั่ง มีเกาะอยู่ชื่อว่าเกาะเขาต้าอวี่ เมื่อก่อนเกาะเขาต้าอวี่ค่อนข้างร้าง บ้านเรือนมีจำนวนน้อยมาก ต่อมาพอซ่อมสะพานใหญ่เสร็จ ก็เริ่มมีคนไปตั้งรกรากที่นั่น
บนเกาะเขาต้าอวี่มีแต่ภูเขารกร้าง ช่วงไม่กี่ปีมานี้ได้พัฒนาทางด้านการท่องเที่ยว แต่ประชาชนเมืองกั่งนั้นก็ยังมาที่นี่น้อยมาก ในสายตาของพวกเขา เกาะเขาต้าอวี่ก็คือที่กันดาร แถบชนบท
บนเกาะเขาต้าอวี่มีร่องรอยของวัตถุโบราณอยู่ไม่น้อย แถมยังมีวัดที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียง เช่นวัดเป่าเหลียน
อู๋เป่ยชี้ไปที่เกาะเขาต้าอวี่แล้วพูด:“ปิงอวิ๋น พวกเราต้องไปที่นี่กันสักหน่อย”
ถังปิงอวิ๋นถาม:“ต้องพาคนไปเยอะไหม?”
“ไม่ต้องหรอก พวกเราสองคนก็พอ” เขาตอบ “ถ้ามีผู้มีฝีมือ ฉันสามารถใช้เทพหุ่นเชิดได้”
ทั้งสองไม่เสียเวลาต่อ อู๋เป่ยเป็นคนขับรถ มุ่งหน้าไปยังเกาะเขาต้าอวี่ด้วยกัน
เมืองกั่งนั้นไม่ใหญ่มาก มีพื้นที่แค่หนึ่งพันกว่าตารางกิโลเมตร ยังใหญ่ไม่เท่าเมืองหมิงหยางเลย เพราะงั้นการจะเดินทางมาถึงเกาะเขาต้าอวี่นั้นใช้เวลาเพียงไม่นาน พอขับรถผ่านสะพานใหญ่ ก็มาถึงเกาะเขาต้าอวี่แล้ว
เกาะเขาต้าอวี่นี้รกร้างอย่างที่คิดไว้จริงๆ นอกจากเป็นเขตที่ผู้คนอยู่รวมกันน้อยมากแล้ว สถานที่อื่นๆส่วนใหญ่จะเป็นที่สำหรับอนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นเขตภูเขาร้าง
เกาะเขาต้าอวี่มีขนาดหนึ่งร้อยกว่าตารางกิโลเมตร จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก คิดจะหาคนหนึ่งคนให้เจอในที่แบบนี้ มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
รถขับมาถึงบนเขา อู๋เป่ยปีนขึ้นมาบนยอดเขา แล้วพูด:“ปิงอวิ๋น หาเฮลิคอปเตอร์มาหนึ่งลำ”
ถังปิงอวิ๋นยกหูโทรศัพท์ เพียงไม่กี่นาที ก็มีเฮลิคอปเตอร์ปรากฏอยู่บริเวณใกล้เคียง ทั้งสองปีนบันไดเชือกขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์
อู๋เป่ยสั่งให้คนขับบินห่างจากพื้นสองพันเมตร บินสำรวจไปมา หลังจากนั้นก็ใช้พลังจักษุ ค้นหาสถานที่ที่มีสิ่งก่อสร้าง
ถึงแม้ว่าเกาะเขาต้าอวี่จะใหญ่ แต่สถานที่ที่มีสิ่งก่อสร้างนั้นมีไม่เยอะ พลังจักษุของเขานั้นแข็งแกร่งมาก สูงถึงสองพันกว่าเมตร แต่เขาก็ยังมองเห็นแยกแยะได้ชัดเจน ไม่ว่าสิ่งแปลกปลอมอะไรก็หนีสายตาของเขาไม่พ้น
เฮลิคอปเตอร์บินอยู่ครึ่งชั่วโมงกว่า แต่ก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ
ถังปิงอวิ๋นเริ่มท้อใจ:“แบบนี้จะไหวเหรอ? เรียกคนมาเพิ่มดีกว่าไหม? จะได้ค้นหาเต็มพื้นที่”
อู๋เป่ยไม่ได้พูดอะไร สายตาของเขาจ้องไปที่วัดที่ชำรุดทรุดโทรมแห่งหนึ่ง แล้วบอกให้เฮลิคอปเตอร์ร่อนลงไป พอร่อนลงอยู่ที่ประมาณห้าร้อยเมตร เขาก็มองเห็นร่องรอยว่ามีคนเคลื่อนไหวอยู่ที่วัดชำรุดทรุดโทรมนี่
เขาเลยให้นักบินร่อนลงในสถานที่ที่ไม่ไกลมากนัก สุดท้ายเลยลงจอดที่ยอดเขาแห่งหนึ่งไกลออกมาสามกิโลเมตร ทั้งสองกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ มุ่งหน้าไปวัดนั้นด้วยความรีบร้อน
ถังอิงอวิ๋น:“เขาอยู่ด้านในเหรอ?”
อู๋เป่ย:“ยังไม่แน่ใจ แต่ด้านในมีคนเยอะมาก สถานที่ที่รกร้างแบบนี้ แม้แต่ขอทานคงไม่มีทางมาแน่ ไม่ควรจะมีใครพักอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ”
ไม่ว่าขอทานหรือคนเร่ร่อน โดยทั่วไปแล้วจะพักอยู่ที่ที่มีบ้านเรือนของคน เพื่อสะดวกต่อการขอทาน เขารกร้างเช่นนี้มีแต่ทำให้เขาหิวตาย ไม่ว่าขอทานหรือคนเร่ร่อนก็ไม่มีทางปรากฏตัวที่นี่แน่
พอระยะทางใกล้ถึงวัดขึ้นเรื่อยๆ จังหวะที่ต้องข้ามเขา จู่ๆอู๋เป่ยก็หยุดนิ่ง เพราะสถานที่ข้างหน้าที่ไม่ไกลนั้น มีหินขนาดใหญ่อยู่ก้อนหนึ่ง ด้านบนมีชายที่แต่งตัวเป็นนักบวชเต๋านั่งอยู่
คนคนนี้ดูไม่ออกว่าอายุเท่าไหร่ หน้าดำไม่มีหนวดเครา ดวงตายาวรี เขามองอู๋เป่ยและถังปิงอวิ๋นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
“ทั้งสอง ต้องการจะไปที่ใด?” เขาถาม น้ำเสียงราวกับถูกระดาษทรายเสียดสีกัน ไม่ไพเราะเอาซะเลย
อู๋เป่ย:“ฉันไปที่ไหนแล้วเกี่ยวอะไรกับนาย? ไสหัวไป!”
นักบวชเต๋าหัวเราะ แล้วพูด:“ทั้งสองจะไปวัดข้างหน้านี้สินะ?”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม!” อู๋เป่ยตอบ
นักบวชเต๋าหัวเราะเบาๆ:“สวรรค์มีทางดีๆให้เดิน นายไม่เดิน นรกไม่มีประตูแต่นายกลับบุกเข้ามา ดูท่า ท่านปู่ ผมคงต้องลงมือฆ่าคนอีกแล้ว!”
นักบวชเต๋า:“คนที่พวกนายตามหา อยู่ข้างในก็จริง แต่ฉันว่านายอย่าเข้าไปดีกว่านะ”
“ทำไม?” อู๋เป่ยถาม
“ลูกศิษย์ใหญ่ของราชาพิษกู่แห่งเหมียวเจียงอยู่ที่นั่น วิชาพิษกู่ของเขาลึกล้ำอย่างมาก”
อู๋เป่ยยิ้มเยาะ:“วิชาพิษกู่? สิ่งที่ฉันไม่กลัวเลยสักนิดก็คือวิชาพิษกู่นี่แหละ!”
นักบวชเต๋ากำลังจะอ้าปากถามว่าทำไม แต่กลับกลายเป็นพ่นเลือดออกมา หลังจากนั้นร่างกายก็ค่อยๆแข็งทื่อ รูม่านตาเบิกกว้าง สายตาอ่อนลง
พอเห็นว่าเขาตายแล้ว อู๋เป่ยเลยค้นตัวเขา หยิบกระเป๋าสีดำออกมา ด้านในมียันต์อยู่สามใบ นอกจากนี้ บนตัวของนักบวชเต๋ายังมีขวดเล็กๆสองขวดอีกด้วย ขวดหนึ่งสีแดง ขวดหนึ่งสีดำ
เขาไม่มีเวลาดู รีบเก็บของ แล้วเดินไปข้างหน้าพร้อมกับถังปิงอวิ๋น
วัดทรุดโทรมแห่งนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในตอนที่ห่างกันเพียงสามร้อยเมตรนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงแมลงชีวิตในตัวเขาที่ดีดตัวขึ้นมา แถมยังส่งกระแสจิตมาบอกเขา ว่าในวัดนี้มีแมลงพิษกู่อยู่ไม่น้อย
เขากลัวว่าถังปิงอวิ๋นจะเป็นอะไรไป เลยพูด:“ปิงอวิ๋น เธอรอฉันอยู่ที่นี่ พอได้ยินสัญญาณจากฉันค่อยเข้าไป”
ถังปิงอวิ๋นส่ายหน้า:“ไม่เอา ฉันจะไปกับนาย!”
อู๋เป่ยยิ้ม:“เธอวางใจเถอะ บนตัวฉันมีแมลงพิษกู่อยู่ ไม่มีทางเป็นอะไรไปแน่นอน”
ถังปิงอวิ๋นเห็นว่าเขายืนหยัด ก็เลยพูด:“งั้นนายก็ระวังตัวด้วย!”
หลังจากนั้นอู๋เป่ยเลยเดินไปทางที่วัดตั้งอยู่ พอมาถึงหน้าประตูวัด ก็พบว่าประตูนั้นผุพังไปแล้วครึ่งหนึ่ง พอมองดีๆ ก็เห็นว่าบนธรณีประตูมีฝุ่นเกาะอยู่จำนวนมาก
ฝุ่นพวกนี้ไม่ใช่สิ่งอื่นใด แต่เป็นพิษกู่ที่น่ากลัวอย่างมาก ถ้าคนสูดเข้าไป ผนังลำไส้และท้องก็จะเน่าเปื่อย หลังจากนั้นไม่นานก็จะตายไป
เขาหัวเราะเยาะ แล้วเดินไปยังตำแหน่งที่มีกำแพงอยู่ หลังจากนั้นก็กระโดดเบาๆข้ามกำแพงไป จนร่างเขาเข้ามาในลานวัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...