ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 450

ถังปิงอวิ๋นดีใจอย่างมาก ที่ตามหาลู่เซิ่งหยางเจอ เรื่องที่เหลือก็จัดการง่ายขึ้นเยอะ

รถขับเคลื่อนมาถึงสะพานใหญ่ที่กำลังจะข้ามเกาะ จู่ๆคนคนนั้นก็จ้องเขม็งไปที่ด้านหน้า:“หัวหน้าชั่วยามมาถึงแล้ว!”

อู๋เป่ยรีบลดความเร็วของรถลง แล้วถาม:“หัวหน้าชั่วยาม? เขาอยู่ที่ไหน?”

ชายคนนั้น:“หัวหน้าชั่วยามอยู่ทุกที่”

พอพูดจบ เงาสีเทาเงาหนึ่งก็ลอยลงมาจากฟ้า ทันใดนั้นก็พุ่งเข้าไปในร่างของอู๋เป่ย เขาเหยียบเบรกกะทันหัน ทำให้รถหยุดลง สีหน้าเปลี่ยนไปมาไม่หยุด เดี๋ยวเจ็บปวด เดี๋ยวดุร้าย

ถังปิงอวิ๋นตกใจ รีบถามเขา:“อู๋เป่ย นายเป็นอะไรไป?”

ลู่เซิ่งหยางเคยเจอเรื่องเช่นนี้ เลยพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม:“เขาถูกเวทย์ปีศาจเข้ายึดร่าง!”

ราวกับสายฟ้าฟาดมาที่ถังปิงอวิ๋น เธอนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม

ลู่เซิ่งหยาง:“คุณหนูใหญ่ พวกเรารีบไปเถอะ เขาไม่มีทางรอดแล้ว!”

“ไม่! ฉันไม่มีทางทิ้งเขา!” จู่ๆถังปิงอวิ๋นก็สงบสติอารมณ์ “ต้องมีหนทางอื่นแน่!”

ลู่เซิ่งหยางถอนหายใจยาว แล้วพูด:“คุณหนูใหญ่ ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไป พวกเราจะตายกันหมด”

ถังปิงอวิ๋นพูดด้วยเสียงเรียบเฉย:“ซือมิ่งลู่ นายขับรถออกไปจากที่นี่ ฉันจะอยู่กับอู๋เป่ยเอง”

ลู่เซิ่งหยางนิ่งอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจยาว แล้วพูด:“ชีวิตของผม น้องอู๋เป็นคนให้มา ช่างมันเถิด! ผมคืนชีวิตนี้ให้เขาก็ได้!”

อู๋เป่ยรู้สึกได้ว่า ร่างกายของตนเองนั้นไม่ได้ถูกควบคุม แต่มีพลังอันน่ากลัว ที่จู่ๆก็กดทับจิตวิญญาณของเขาไว้ ทำให้เขาสูญเสียอำนาจในการควบคุม

น้ำเสียงเยือกเย็น ไม่มีความเป็นมนุษย์ดังขึ้นในหัวของเขา:“พวกคนชั้นต่ำ กล้าทำลายแผนการของข้างั้นหรือ? ข้าจะทำให้จิตวิญญาณเจ้าไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด อยู่ใต้พิภพตลอดไป!”

อู๋เป่ยที่ปราชญ์จิตสำนึกยังคงแจ่มชัดอยู่ เขาก็พูดขึ้นมา:“คุยโวซะจริง! แน่จริงก็ทำให้ดูหน่อยสิ!”

เวทย์ปีศาจตนนั้นนิ่งอึ้งไปสักพัก:“ใจกล้าดีนี่ โดยทั่วไปคนที่ถูกชิงร่างกายมา ตอนนี้คงนิ่งเฉยทำอะไรไม่ได้แล้ว”

อู๋เป่ย:“เต็มที่เลย เพราะอีกเดี๋ยวนายก็ไม่มีโอกาสแล้ว”

เวทย์ปีศาจยิ้มเยาะ:“พวกคนชั้นต่ำ ดิ้นรนไปเถอะ! ไม่ว่าจะดิ้นรนยังไง พวกแกก็ต้องถูกทำลายให้พินาศไปอยู่ดี!”

เวลานี้ อู๋เป่ยตะโกนขึ้นมาเสียงดัง:“เมล็ดเต๋า ทำไมแกยังไม่ทำงานอีกเนี่ย?”

“อะไร? เมล็ดเต๋า?” เวทย์ปีศาจตนนั้นตกใจ รีบค้นหาในร่างกายของอู๋เป่ยอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้นก็พบว่าจุดชีพจรของเขา มีเมล็ดอยู่เมล็ดหนึ่ง

เหมือนว่าก่อนหน้านี้เมล็ดเต๋านั้นกำลังหลับลึก หลังจากที่ถูกเวทย์ปีศาจมองเห็น มันก็เกิดปฏิกิริยาขึ้นมา ทันใดนั้นก็เกิดแรงดึงดูดมหาศาล

เวทย์ปีศาจตนนั้นร้องโหยหวน:“เป็นไปไม่ได้! ไว้ชีวิต......”

เสียงร้องของเขาพึ่งจะพูดออกมาได้ครึ่งประโยค ก็ถูกดูดเข้าไปในเมล็ดซะก่อน เมล็ดเต๋าสั่นไหวเล็กน้อย แล้วปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ออกมา จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์นี้ผสานเข้ากับจิตวิญญาณของอู๋เป่ย

ภายในไม่กี่นาที พลังจักษุของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นห้าเท่า!

“หึ ฉันก็นึกว่านายจะเก่งกาจกว่านี้!” เขาพึมพำในใจ

พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนั้นยืนอยู่ข้างราวจับบริเวณสะพาน ถังปิงอวิ๋นกำลังจับมือของเขาอยู่ อีกข้างมีลู่เซิ่งหยาง ที่กำลังยืนอยู่เช่นกัน

เห็นว่าเขาได้สติแล้ว ลู่เซิ่งหยางก็ดีใจอย่างมาก:“น้องอู๋ นายไม่เป็นไรเหรอ?”

อู๋เป่ยยิ้ม:“ฉันดวงแข็งน่ะ ไม่เป็นไรแล้ว”

ความกังวลในใจของถังปิงอวิ๋น ถูกวางลงทันที จู่ๆเธอก็กอดเขาแน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม

อู๋เป่ยใจอ่อนลง เหตุการณ์เมื่อครู่ ตนเองถูกเวทย์ปีศาจเข้ารุกราน ได้กลายเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายที่สุด แต่ถังปิงอวิ๋นกลับอยู่ข้างๆตนเองตลอด หาได้ยากจริงๆ

เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน:“ปิงอวิ๋น ฉันไม่เป็นไร”

ถังปิงอวิ๋นปาดน้ำตา แล้วยิ้มด้วยความสดใส รอยยิ้มนี้ราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน อู๋เป่ยมองแล้วหัวใจก็เต้นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ถ้าไม่มีลู่เซิ่งหยางอยู่เป็นกว้างขวางคอล่ะก็ เขาคงจะลงมือทำอะไรบางอย่างไปแล้ว

ลู่เซิ่งหยางหัวเราะ“ฮ่าๆ”ขึ้นมา:“น้องอู๋ นายทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ!”

ตอนนี้ลู่เซิ่งหยางทำหน้าที่ในสำนักงานใหญ่ ในที่สุดอู๋เป่ยและถังปิงอวิ๋นก็มีเวลาส่วนตัวสักที

“เมืองกั่งคือสวรรค์ของการช็อปปิ้ง นายออกไปซื้อของเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ” ถังปิงอวิ๋นจู่ๆก็พูดขึ้นมา น้ำเสียงดุดัน ยากที่จะปฏิเสธ

อู๋เป่ยยักไหล่:“ก็ได้ คุณหนูใหญ่ เธอจะซื้ออะไร?”

ถังปิงอวิ๋นนับว่าเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวไม่เป็นที่สุดในถังเหมินแล้ว เธอกัดฟันพูด:“ซื้อหมด”

อู๋เป่ยยิ้มเจื่อน:“ซื้อหมดของเธอ ขอบเขตมันกว้างเกินไป เอาแบบนี้แล้วกัน พวกเราไปเดินเล่นก่อน ดูว่าอะไรเข้ากับเธอ ฉันจะช่วยเธอเลือก โอเคไหม?”

ถังปิงอวิ๋นพยักหน้า:“ก็ได้ เอาตามที่นายว่า”

ทั้งสองขับรถไปยังเขตที่คึกคักที่สุดในเมืองกั่ง ที่นี่รถติดมาก คึกคักอย่างมาก

ทั้งสองเลยลงรถที่หน้าถนน ตรงหน้าไม่ไกลมากนักคือจินซิงพลาซ่า มีลานขายสินค้าอยู่จำนวนมาก

พอมายืนอยู่หน้าทางเข้าพลาซ่า อู๋เป่ยก็ยิ้มแล้วพูด:“วันนี้เธอซื้อ ฉันรูดบัตร”

สายตาของถังปิงอวิ๋นเป็นประกาย:“นายพูดเองนะ งั้นฉันไม่เกรงใจแล้ว!”

พอเข้ามาในพลาซ่า ชั้นหนึ่งเป็นชั้นเสื้อผ้าและรองเท้า ทั้งสองก็เดินดูไปเรื่อยๆ เห็นว่าอันไหนเหมาะสมก็ซื้อ

ไม่นาน ในมือเขาก็เต็มไปด้วยถุงเล็กถุงใหญ่ ต่อมาเห็นถุงมันเยอะเกินไปแล้ว เขาเลยเรียกพนักงานบริการมาช่วยสองสามคน ให้พวกเขาเดินถือถุงช็อปปิ้งอยู่ด้านหลังโดยเฉพาะ

พอให้พวกเขาเดินถือถุงตามหลัง เลยดึงดูดสายตาจากคนรอบข้างพอสมควร พวกเขาก็เริ่มพูดคุยซุบซิบกัน

“ดูสิ ไม่เคยเห็นใครมาประเทศนี้แล้วซื้อเยอะขนาดนี้เลย” ชายเมืองกั่งคนหนึ่งพูดกับแฟนสาวของเขา

“ประเทศนี้จะไปมีอะไร? พวกเขาคงกลัวว่าหลังจากกลับไปคงจะไม่มีโอกาสได้ซื้อแล้วน่ะสิ” แฟนสาวเขาก็พูดคล้อยตาม

พอได้ยินคำนินทาที่ไม่มีมารยาทของพวกเขา อู๋เป่ยก็ไม่ได้สนใจ เพราะเขาสามารถรับรู้ได้ ว่าในคำพูดดูถูกของสองคนนี้ จริงๆแล้วเต็มไปด้วยความอิจฉา เพราะยังไงซะคนที่สามารถใช้จ่ายเงินหลายล้านได้ กำลังทรัพย์คงต่างจากพวกเขามากโข

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ