ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 469

หลังจากหยุดพูดไปสักพัก เธอก็พูดขึ้นว่า "เดิมที ฉันคิดไว้ว่าจะอยู่กับคุณอีกสักพัก แต่ยาแปลงร่างมังกรก็มีประโยชน์สำหรับฉัน เพราะงั้นคืนนี้ฉันคงต้องไปแล้ว"

แม้ว่าพวกเขาจะเจอกันได้ไม่นาน แต่อู๋เป่ยและอวิ๋นซีรู้สึกถูกคอกันมาก พวกเขาลังเลเล็กน้อยที่จะจากกัน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า "คุณจะกลับมาเมื่อไหร่"

อวิ๋นซี "ประมาณสามเดือนหรือครึ่งปี แน่นอนว่าช่วงเวลานี้ไม่รวมอยู่ในระยะเวลาเดิมพันของเรา"

เมื่อนาฬิกาชี้เลขสิบสอง อวิ๋นซีลุกขึ้น กอดอู๋เป่ยแล้วพูดว่า "ที่รัก ฉันต้องไปแล้ว ไม่ต้องคิดถึงฉันนะ"

ก่อนที่อู๋เป่ยจะได้สติกลับคืนมา เธอก็ออกจากบ้านไปแล้ว เขารีบตามเธอไป แต่ก็พบว่าเขาไม่อยู่แล้ว

อู๋เป่ยยืนอยู่ในสวนด้วยความงุนงงและบ่นว่า "แฟนเฟินอะไรกัน ฉันไม่ทันจะได้ลาเธอเลยด้วยซ้ำ"

อู๋เป่ยกลับบ้านด้วยความสิ้นหวัง ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นเขาจึงสั่งให้เย่เสวียนออกกำลังกายหนักขึ้น เมื่อฟังเสียงกรีดร้องของเย่เสวียนอารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นมากทันที

เขาอยู่บ้านเป็นเวลาสามวันติดกันเพื่อฝึกฝนวิชาเการเพาะกายให้เชี่ยวชาญ การฝึกมีสี่ชุด เขาฝึกจนหมดทั้งสี่ชุด วิชาการเพาะกายชุดนี้มีประโยชน์มาก การฝึกนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในร่างกายของเขา เมื่อใช้ผสานกับวิชาการหายใจ ทั้งวิชาก็เริ่มส่งเสริมกันและกัน

คืนนั้น จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่า ร่างกายของเขาก็ถูกเติมเต็มและมีความปรุโปร่ง เขาก็รู้ทันทีว่าเขากำลังจะเข้าสู่ดินแดนเล็ก ๆ ของชั้นเทพเพื่อเปลี่ยนตานเฉิง!

ชั้นเทพนั้นมี 5 ขั้น แบ่งเป็น เป้าตาน การฝึกขั้น เซิงเนี่ยน ตานเฉิงและหลิงก่าน ขั้นตานเฉิงนั้นบ่งบอกได้ว่าเป้าตานนั้นเต็มเรียบร้อยแล้ว การฝึกนั้นได้สำเร็จแล้ว จริง ๆ ถ้ามาถึงจุดนี้แล้วก็สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นคนเซียนได้แล้ว ดินแดนพลังยุทธในตอนนี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้จนถึงระดับตานเฉิง แต่สำหรับคนแบบอู๋เป่ยนั้นคงเป็นข้อยกเว้น

เป็นเวลาสามวันอู๋เป่ยนั่งอยู่นิ่ง ๆ โดยไม่ขยับ ร่างกายของเขากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาด ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้น ความสามารถแฝงของเขาเพิ่มขึ้น ตอนนี้เขาไม่ได้ทำอะไรเลยก็มีพลังชีวิตสีม่วง สามารถเปิดเส้นลมปราณระดับที่สี่ทั้งหมดได้โดยอัตโนมัติหรือแม้แต่ส่วนเล็ก ๆ ของเส้นลมปราณระดับที่ห้าก็ทำได้

เส้นลมปราณระดับที่ 5 คือเส้นลมปราณในระดับเซลล์ที่เชื่อมต่อทุกเซลล์ เมื่อเส้นลมปราณระดับที่ 5 เปิดขึ้น อู๋เป่ยจะสามารถควบคุมร่างกายได้มากขึ้นและสามารถปรับอัตราการเต้นของหัวใจ ต่อมไร้ท่อหรืออื่น ๆ ได้อย่างอิสระ

การนั่งนี้กินเวลานานถึงวันครึ่ง เมื่อดวงอาทิตย์ยามเช้าเพิ่งจะส่องแสง เขาก็ลืมตาขึ้นและรู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลัง ภายในพริบตาเขาก็มาถึงสวนบ้าน

ในตอนนี้เขาแสดงพลังระดับผีสางเทวดา คนเหมือนผีปีศาจ สร้างช่องแคบบนพื้นดินจนเป็นภาพติดตา!

ทันใดนั้น ภาพติดตาเหล่านี้ก็รวมเป็นหนึ่งเดียวและปรากฏตัวอีกครั้ง

“ระดับตานเฉิงนี่สุดยอดจริง ๆ ฉันอาจใช้โอกาสนี้ฝึกฝนวิชาเทพของวัดต้าฉานได้ด้วย”

ในตอนนั้นเขาได้สุดยอดกระบวนท่าสามสำนักจากวัดต้าฉาน พลังแห่งความรอบรู้สองชนิดและวิชาเทพอีกหนึ่งชนิด สุดยอดกระบวนท่าสามชนิด แบ่งออกเป็น นิ้วเลือดแข็งตัว ฝ่ามือสายฟ้าและผนึกไร้ชีวิต พลังวิชาแห่งความรอบรู้สองชนิด ได้แก่ เสียงเซนของพระมหาพรหมและมนต์แสงของตถาคต อีกทั้งวิชาเทพยังเป็นวิชาตั้งรับที่ดีที่สุด

เขาพยายามฝึกพลังยุทธวิชาตั้งรับที่ดีที่สุดแต่ไม่ทันไร เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากจูชิงเหยียน

“อู๋เป่ย พรุ่งนี้ฉันจะไปกินี คุณมีเวลาไปกับฉันไหม”

จูชิงเหยียนพูดถึงเรื่องนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอบอกว่ากำลังจะไปกินีเพื่อตรวจสอบเหมืองที่นั่น

“พอมีเวลา” อู๋เป่ยพูด “วันนี้ฉันจะไปเมืองฉือ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยพอดี”

แม้ว่าตระกูลจูจะกำลังทำอะลูมิเนียมอิเล็กโทรไลต์ แต่มันก็เป็นธุรกิจไม่ใหญ่มากนัก หลัก ๆคือทำธุรกิจในอุตสาหกรรมเคมีเป็นหลัก เขาเชื่อว่าอลูมิเนียมอิเล็กโทรไลต์ของตระกูลจูสามารถรวมเข้ากับตระกูลเหลิ่งได้ จากนั้นจูชิงเหยียนจะถือหุ้นบางส่วน นอกจากนี้อะลูมิเนียมยังเป็นโครงการที่มีสินทรัพย์จำนวนมาก ตระกูลจูและตระกูลเหลิ่งก็สามารถร่วมมือกันเพื่อใช้ประโยชน์จากแหล่งแร่ได้

“โอเค เดี๋ยวฉันรอ” จูชิงเหยียนพูด

อู๋เป่ยขอให้เย่เสวียนและคนอื่น ๆ ฝึกซ้อมให้ดีและเขาก็ขับรถไปที่เมืองฉือ

เมื่อเขามาถึงเมืองฉือก็ดึกแล้ว เขามาถึงบ้านพักของเขาที่ถนนลี่สุ่ย ทันทีที่ประตูเปิดออกก็เห็นจูชิงเหยียนนั่งอยู่บนโซฟา เปิดแท็บเล็ตพลางกินผลไม้

อู๋เป่ย "ฉันตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่ามีแร่บอกไซต์จำนวนมากในประเทศกินี ประเทศกินีเป็นที่ที่ประเทศต่าง ๆ อยากแย่งชิงเงินทุน ถ้าเราไปที่นี่อาจจะมีอันตรายก๋ได้"

จูชิงเหยียนพยักหน้า "ถูกต้อง บอกไซต์ที่กินีมีมากถึงหนึ่งส่วนสี่ของทั้งหมดในโลกและอุดมไปด้วยแร่ทองแดงและแร่เหล็ก ซึ่งเป็นแร่คุณภาพสูงทั้งคู่ ประเทศอื่น ๆ ต่างจับตามองเพราะกินีถือเป็นเนื้อชิ้นใหญ่สำหรับพวกเขา"

อู๋เป่ย "ฉันรู้จักถังปิงอวิ๋นจากถังเหมิน เธอมีกองทัพของเธอเองในแอฟริกา ตามที่เธอพูด ประเทศส่วนใหญ่ในแอฟริกาถูกควบคุมโดยขุนศึก ผู้คนมีชีวิตที่ยากลำบากมาก อย่างเช่น ในประเทศกินีรายได้ต่อหัวของเขาเทียบกับของเราเท่ากับหนึ่งส่วนสิบห้าเอง คนหลายคนไม่มีไฟฟ้าใช้และอัตราการอ่านออกเขียนได้น้อยกว่า 3% การทำธุรกิจในที่แบบนี้แบบนี้คุณต้องมีภูมิหลังระดับประเทศ อออีกทั้งคุณต้องมีอำนาจด้วยเช่นกัน”

จูชิงเหยียนพยักหน้า "เรื่องนี้ฉันพอรู้อยู่ ดังนั้นครั้งนี้ที่ไปกินี ฉันเลยไปเป็นกลุ่ม บริษัทอะลูมิเนียมในประเทศหลายสิบแห่งตอนนี้กำลังรวมตัวกันไป"

อู๋เป่ย "แปลกมาก ในรายชื่อไม่มีเหลิ่งหรูเยียนเหรอ?"

ปัจจุบันผลผลิตอะลูมิเนียมอิเล็กโทรไลต์ของเหลิ่งหรูเยียนมีจำนวนถึงหลายสิบล้านตัน ทำให้เป็นบริษัทอะลูมิเนียมอิเล็กโทรไลต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ บริษัทใหญ่ขนาดนี้ไม่น่าจะถูกลืมสิ

จูชิงเหยียน"การจัดกลุ่มนี้นำโดยบริษัทอลูมิเนียมของประเทศ ตระกูลเหลิ่งมีธุรกิจใหญ่กว่าระดับประเทศ แน่นอนว่ากลุ่มเล็ก ๆ แบบนี้เขาไม่ต้อนรับ"

อู๋เป่ยยิ้มเย็นชา "ตัวเองไม่มีความสามารถแล้วยังไม่ยอมให้คนที่เก่งกว่าเข้ามาอีก"

จูชิงเหยียน"ก็ใช่น่ะสิ บริษัทเอกชนมีความคล่องตัวมากกว่า ก็ควรได้รับการสนับสนุนสิ"

ทันใดนั้นชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามานั่งโต๊ะที่ไม่ไกลกันมากนัก ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างสวย รูปร่างหน้าตาของเธอไม่ด้อยไปกว่าจูชิงเหยียน เธอแต่งตัวเป็นทางการมาก ใส่ชุดสูทตัวเล็ก รองเท้าส้นสูง แม้แต่การแต่งหน้าของเธอก็เป็นมืออาชีพ ส่วนผู้ชายก็อายุยี่สิบต้นๆ แต่งตัวดีหน้าตาเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเขาแทะโลมร่างกายของผู้หญิงคนนั้นจนดูน่าเกลียด

ทั้งสองนั่งลงและชายคนนั้นยิ้มแล้วพูดว่า "โล่วเข่อ คุณเพิ่งกลับมาที่จีน คุณคงไม่ได้กินอาหารบ้านเกิดแบบต้นตำหรับแท้ๆ มานานแล้วใช่ไหม อาหารที่นี่อร่อย คุณอยากกินอะไรก็สั่งได้เลย"

โล่วเข่อ? หัวใจของอู๋เป่ยกระตุกและเขาอดไม่ได้ที่จะมองผู้หญิงคนนี้อีกสองสามครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ