ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 518

หลังจากนั้น เขาก็มาที่ลานบ้านเพื่อฝึกฝนวิชากำลังกาย

วิชากำลังกายกลุ่มที่ห้านั้นยากมาก ท่าแรกที่เขาฝึกก่อนหน้านี้ เขาสามารถฝึกสำเร็จได้ในครั้งเดียว ฝึกไปถึงท่าที่สองและท่าที่สามได้อย่างรวดเร็ว การเลื่อนขั้นของร่างกาย มีส่วนช่วยได้มากกับวิชากำลังกายของเขา ทำให้พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว!

ก่อนที่ฟ้าจะสว่าง อู๋เป่ยกลับมาพักผ่อนบนเตียง นอนหลับจนถึงก่อนเวลาอาหารเช้า หลังจากที่เลื่อนระดับพันธุ์กรรม จำเป็นต้องนอนหลับให้เพียงพอ เพราะฉะนั้นตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป จนถึงช่วงก่อนที่พันธุ์กรรมจะพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ เขาจะต้องนอนหลับให้เพียงพอทุกวัน

หลังจากที่ตื่นขึ้นมา เขาพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับ พอดูชื่อ ก็เห็นว่าเป็นเซี่ยหลานที่โทรมา

เซี่ยหลาน หญิงสาวที่ถูกเขาช่วยชีวิตจากรถโม่ปูนที่เมืองหมิงหยาง เธอก็พักอยู่ที่เมืองลี่สุ่ยเช่นกัน และเป็นเพื่อนบ้านของเขา

เธอโทรมามีธุระอะไร?

คิดสักพัก เขาก็โทรกลับไป รอสายอยู่ประมาณเจ็ดวินาทีปลายสายก็กดรับ หลังจากนั้นก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้น:“แกเป็นใคร?” อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่มีมารยาทอย่างมาก

อู๋เป่ย:“ฉันโทรหาเซี่ยหลาน นายสิเป็นใคร?”

อีกฝ่ายยิ้มเยาะ:“โทรหาเซี่ยหลาน? พวกแกรู้จักกัน?”

อู๋เป่ย:“พวกเราเป็นเพื่อนกัน ฉันพักอยู่ข้างบ้านเธอ”

“แกพักอยู่ข้างบ้านเธอ?” อีกฝ่ายหัวเราะ “ตอนนี้เซี่ยหลานอยู่กับฉัน พวกเราอยู่ที่บ้าน ถ้าแกมีธุระก็มาหาเธอสิ!”

พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายไป อู๋เป่ยโทรไปอีกครั้ง อีกฝ่ายนั้นไม่รับสายแล้ว

เขาขมวดคิ้ว หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเซี่ยหลาน?

เขากับเซี่ยหลานไม่นับว่าสนิทกันมาก แค่เคยช่วยชีวิตเธอครั้งหนึ่ง และก็เคยช่วยชีวิตลูกชายเธอ

คิดสักพัก เขาก็ตัดสินใจให้เพื่อนที่อยู่เมืองฉือไปดูสถานการณ์ ถ้าพวกเขาสามารถแก้ไขกันเองได้ เขาก็ไม่ต้องไปด้วยตัวเอง

เขาก็เลยแจ้งไปที่หลี่กวงหลง ให้เขาส่งคนไป

พอคุยโทรศัพท์เสร็จ เขาก็ช่วยถังปิงอวิ๋นฝึกยุทธ์ต่อ

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ฝั่งหลี่กวงหลงก็มีข้อมูลมาบอก:“เพื่อน เรื่องที่นายให้ฉันตรวจสอบ ฉันตรวจสอบแล้วนะ”

แล้วเขาก็พูดให้ฟังคร่าวๆหนึ่งรอบ ที่แท้ เซี่ยหลานคนนั้นทำธุรกิจบริษัทโฆษณาอยู่ ช่วงนี้ถูกบริษัทคู่แข่งเจตนาแก่งแย่ง ทำให้ธุรกิจของบริษัทเธอขาดทุนร่วงหล่นลงมา

ช่วงก่อนหน้านี้ เธอแบกไว้ไม่ไหว เลยขายบริษัทไป แต่ไม่ว่าบริษัทไหนจะตั้งใจรับซื้อไป ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เปลี่ยนใจ

สุดท้าย บริษัทเลยเซี่ยหลานเลยยิ่งขาดทุน ในที่สุดก็ล้มละลาย และเธอก็ติดหนี้สินอยู่จำนวนมาก แม้แต่คฤหาสน์ที่ถนนลี่สุ่ยก็ถูกตรวจสอบเพื่ออายัด

เซี่ยหลานไม่มีที่ไป เลยพาลูกออกมานอนค้างอยู่หน้าห้องประตูอู๋เป่ยหนึ่งคืน สายโทรศัพท์ที่ไม่ได้รับนั้น คิดว่าคงจะเป็นตอนนั้นที่โทรไป

ต่อมา ห้องของเซี่ยหลานก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา พวกเขาเรียกเซี่ยหลานเข้าไป จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมา

หลี่กวงหลงส่งคนไปตรวจสอบ ผลสุดท้ายเกือบถูกคนด้านในห้องนั้นทำร้าย

อู๋เป่ยขมวดคิ้ว เขาถามหลี่กวงหลงว่าสามารถจัดการปัญหานี้ได้หรือไม่ หลี่กวงหลงกลับบอกว่าเขาทำไม่ได้ คนด้านในพลังยุทธ์สูงมาก เขาไม่กล้ายั่วโมโห

“นายบอกว่าที่นั่นมีคนที่ฝึกยุทธ์?” อู๋เป่ยถาม

หลี่กวงหลง:“มีแน่นอน คนที่ฉันส่งไปมีแต่ผู้มีฝีมือทั้งนั้น แต่ก็ถูกเจอตัวเพียงไม่นาน เพื่อน พลังยุทธ์นายสูง ถ้านายเป็นห่วงผู้หญิงคนนั้น นายมาที่นี่ด้วยตัวเองดีกว่านะ”

อู๋เป่ย:“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”

พอวางสาย อู๋เป่ยก็ไตร่ตรองสักพัก แล้วพูดกับถังปิงอวิ๋น:“ถังปิงอวิ๋น ฉันจะไปที่เมืองฉือสักหน่อย ฉันจะรีบกลับมาก่อนคืนพระจันทร์เต็มดวง”

ถังปิงอวิ๋น:“ได้ ฉันจะให้คนไปส่งนาย”

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง อู๋เป่ยนั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวสุดหรู บินไปเมืองฉือ

หลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมง อู๋เป่ยก็ปรากฏตัวอยู่บนถนนลี่สุ่ย เขาตรงไปที่หน้าประตูบ้านของเซี่ยหลาน แล้วกดกริ่ง

ทิ้งระยะไม่ถึงหนึ่งวินาที ประตูก็เปิดออก ชายหนุ่มในชุดเสื้อโค้ทยาวเดินออกมา เขาสังเกตอู๋เป่ย แล้วถาม:“นายมาหาใคร?”

อู๋เป่ยมองผ่านประตูเข้าไปด้านใน ด้านในมีคนอยู่ไม่น้อย เขาตอบ:“ฉันเป็นเพื่อนบ้านของบ้านหลังนี้ ฉันมาหาเซี่ยหลาน”

ชายหนุ่มรีบเปิดประตูออก:“เข้ามา”

อู๋เป่ยเดินเข้าไป ชายหนุ่มคนนั้นรีบปิดประตูลง หลังจากนั้นก็ขวางทางไว้

ในห้องรับแขกขนาดใหญ่ มีคนยืนอยู่เจ็ดคน มีหนึ่งคนนั่งอยู่ คนที่นั่งนั้นอายุยังน้อย ท่าทางยี่สิบเจ็ดเห็นจะได้ เขาเขียนขอบตา ไว้ผมยาว สังเกตอู๋เป่ยอย่างเยือกเย็น

ศีรษะของชายหนุ่มแทบหลุดออกจากบ่า เจ็บจนสีหน้าซีดเผือด แล้วร้องออกมา:“ปล่อยมือ ฉันบอกก็ได้......”

อู๋เป่ยค่อยๆปล่อยมือ:“ทางที่ดีบอกตามความจริงมา!”

ชายหนุ่ม:“ฉันได้ฝึกพลังยุทธ์ที่เป็นยอดวิชา วิชาที่ฝึกนี้จำเป็นต้องกำจัดลูกเมียตามกฎเกณฑ์”

กฎเกณฑ์กำจัดลูกเมีย? อู๋เป่ยเบิกตากว้าง:“เซี่ยหลานคือภรรยานาย?”

ชายหนุ่มกัดฟัน:“ปีก่อน ฉันจีบเธอติดในตอนที่ฉันมั่งคั่ง แล้วเธอก็ท้องลูกของฉัน ฉันทำแบบนี้ ก็เพื่อจะฆ่าเธอกับลูกในวันนี้”

อู๋เป่ยโมโห:“นายยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? จะฆ่าลูกกับภรรยาตัวเองเนี่ยนะ!”

ชายหนุ่ม:“แค่ฉันสามารถเลื่อนขั้นพลังยุทธ์ได้ อยากจะได้ผู้หญิงเยอะแค่ไหนก็ได้มันมาทั้งหมดนั่นแหละ!”

อู๋เป่ยสบถเหอะ แล้วถามเขา:“บริษัทเธอล้มละลาย ก็เป็นฝีมือนายงั้นสิ?”

ชายหนุ่มไม่ได้ปฏิเสธ แล้วพูด:“ถ้ายิ่งทำให้เธอสิ้นหวัง ผลลัพธ์กฎเกณฑ์กำจัดลูกเมียก็ดียิ่งขึ้น”

อู๋เป่ยส่ายหน้า ใช้สายตามองเขาอย่างกับเขาโง่เง่าอย่างมาก:“นายเป็นถึงระดับชั้นพรสวรรค์ ยังกล้าทำผิดทำนองคลองธรรมอีกงั้นเหรอ? น่าขำสิ้นดี!”

ชายหนุ่มคิดจะแย้งกลับ แต่ก็ไม่กล้า ได้แค่ก้มหน้า สายตาสั่นไหว คิดหาวิธีไปจากที่นี่

อู๋เป่ย:“นายชื่ออะไร?”

“อวี๋ฟู่” ชายหนุ่มตอบ

อู๋เป่ย:“อวี๋ฟู่ ในพรรคฟ้าทมิฬนายคงมีตำแหน่งอยู่บ้างสินะ?”

อวี๋ฟู่:“ฉันอยู่ในพรรคไม่นับว่าสำคัญอะไร แต่ก็ยังมีฐานะอยู่บ้าง ท่านอาวุโสต่างก็เห็นแก่หน้าฉัน”

อู๋เป่ยพยักหน้า:“ดี งั้นนายบอกฉันมา พรรคฟ้าทมิฬเป็นพรรคแบบไหน อธิบายให้ฉันฟังอย่างละเอียด”

เขาไม่ได้เจอกับคนพรรคฟ้าทมิฬเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เจอหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เขาตั้งใจถามสถานการณ์ของพรรคฟ้าทมิฬให้แน่ชัด อย่างคำโบราณที่ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ