ตระกูลเซี่ยงเคยเป็นหนึ่งในห้าตระกูลที่ร่ำรวยในอวิ๋นจิง แม้ว่าจะตกต่ำ แต่เรือผุพังยังมีสามพันตะปูที่ใช้งานได้ ตอนนี้ยังคงไม่ล้มลง
สถานที่ที่ตระกูลเซี่ยงอยู่ ถูกเรียกว่าเซี่ยงหยวน เป็นสวนโบราณขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่าพันเอเคอร์ เป็นทิวทัศน์ของอวิ๋นจิง
ในเวลานี้ ภายนอกอาคารเล็กๆ ที่เงียบสงบในเซี่ยงหยวน อู๋เป่ยปรากฏตัวเหมือนกับผี เขาเงยหน้ามองหนึ่งที กระโดดเบาๆหนึ่งที จากนั้นเขาก็กระโดดไปที่ขอบหน้าต่างชั้นสาม มือตบเบาๆ หน้าต่างถูกเปิดออก เขากระโดดเข้าไป
ในเวลานี้ ในห้องมืดบนชั้นสามของอาคารเล็กๆห้องหนึ่ง ชายวัยกลางคนอายุประมาณห้าสิบ จ้องมองไปในความมืดด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า เขาเป็นหัวหน้าตระกูลเซี่ยง เซี่ยงเจิ้งอี้
ภายในและภายนอกห้องใช้วัสดุฉนวนกันเสียงที่ดีที่สุด นอกจากนี้ทำไว้ห้าชั้น ต่อให้ข้างนอกมีคนยิงปืนใหญ่ เสียงก็ไม่สามารถเข้ามาข้างในได้
ภายในห้องไม่มีแสงไฟ อยู่ในสถานะมืดสนิทอย่างสมบูรณ์ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีแสงและไม่มีเสียงแบบนี้ เซี่ยงเจิ้งอี้สามารถได้ยินแค่เสียงลมหายใจและหัวใจเต้นของตัวเองเท่านั้น
ทันใดนั้น เขาขมวดคิ้ว เพราะเขาได้ยินเสียงคนเปิดประตูเก็บเสียงบานแรก หลังจากนั้นบานที่สอง บานที่สาม
“ไอ้เวร! ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอไม่ให้ใครเข้ามา ใครช่างกล้าขนาดนี้” ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ อารมณ์ของเขาระเบิดถึงขีตสุด ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ในเวลานี้ ประตูเก็บเสียงบานสุดท้ายเปิดออก อู๋เป่ยเดินเข้ามา ภายในห้องไม่มีแสงสว่าง เซี่ยงเจิ้งอี้มองไม่เห็นเขา เขาพูดด้วยความโกรธ : “ไสหัวออกไปสะ!”
อู๋เป่ยฮึหนึ่งที พูด : “เซี่ยงเจิ้งอี้ ผมมาช่วยคุณ”
ทันทีที่เซี่ยงเจิ้งอี้ได้ยินเสียงของคนแปลกหน้า เขาประหม่าขึ้นมาทันที ถามเสียงดัง : “แกเป็นใคร”
อู๋เป่ยนั่งลงตรงหน้าเขา ความมืดไม่มีผลต่อการมองของเขา เขาสามารถมองเห็นเซี่ยงเจิ้งอี้ได้อย่างชัดเจน
เขาเป็นผู้ชายอายุมากกว่าห้าสิบปีคนหนึ่ง ใบหน้ากลม คิ้วหนา สภาพจิตใจแย่อย่างมาก ใกล้จะล่มสลายแล้ว
“ผมเป็นคนที่สามารถช่วยคุณได้” เขาพูด
เซี่ยงเจิ้งอี้เบิกตากว้าง : “แกสามารถช่วยฉันได้เหรอ”
อู๋เป่ย : “ไม่ผิด บนโลกใบนี้ มีผมเท่านั้นที่สามารถช่วยคุณได้”
เซี่ยงเจิ้งอี้ฮึอย่างหนักหนึ่งที : “ทำไมฉันต้องเชื่อแกด้วย”
อู๋เป่ย : “ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ผมได้รับความไว้วางใจจากคนอื่น ถ้าหากคุณปฏิเสธ ผมจะไปทันที”
เซี่ยงเจิ้งอี้รีบถาม : “ได้รับความไว้วางใจจากใคร”
“พูดไม่ได้” อู๋เป่ยพูด : “ยังไงสะเป็นคนที่อยากช่วยคุณ”
เซี่ยงเจิ้งอี้เงียบไปหลายวินาที เขาถาม : “คุณจะช่วยฉันยังไง”
ตอนที่อู๋เป่ยเข้ามาก็มองเห็นแล้ว เซี่ยงเจิ้งอี้ถูกคนวางกลอุบาย กลอุบายของอีกฝ่ายสูงส่งอย่างมาก ต่อให้ตี้เซียนมาก็ไม่สามารถแก้ให้ได้
เขาพูด : “ทำให้คุณกลายเป็นคนปกติ ไม่กลัวเสียงและแสงอีกต่อไป”
เซี่ยงเจิ้งอี้ตัวสั่นสะท้าน ราวกับว่าเห็นแสงสว่างในความมืด : “คุณสามารถช่วยฉันได้จริงๆเหรอ”
อู๋เป่ย : “แน่นอน!”
เซี่ยวเจิ้งอี้ดีใจอย่างมาก : “เพื่อน เพียงแค่คุณสามารถช่วยฉันได้ ผมสามารถให้คุณทุกสิ่งได้!”
อู๋เป่ยพูดอย่างไม่แยแส : “ผมไม่ช่วยคุณฟรีๆแน่นอน ได้ยินมาว่าบรรพบุรุษของคุณเคยมีผู้บัญชาการมณฑลทหารผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เขาปล้นสุสานโบราณไปหลายแห่ง เคยมีเรื่องแบบนี้ใช่ไหม
เรื่องนี้ถังหมิงฮุยเป็นคนพูด เขาถามไปแบบนั้นแหละ
เซี่ยงเจิ้งอี้พยักหน้า : “ไม่ผิด ดูเหมือนว่าเพื่อนจะเข้าใจสถานการณ์ของตระกูลเซี่ยงของผมอย่างมาก ปู่ทวดของผมเป็นผู้บัญชาการมณฑลทหารเจียงหนาน ตำแหน่งสูงอย่างมาก”
อู๋เป่ย : “ปู่ทวดของคุณทิ้งของมีค่าอะไรให้คุณไหม”
ถังหมิงฮุยยังพูดถึงอีกว่า มีงานเลี้ยงครั้งหนึ่งเซี่ยงเจิ้งอี้ดื่มมากเกินไป พูดถึงตระกูลเซี่ยงมีคลังสมบัติที่ลับอย่างมากแห่งหนึ่ง ซ่อนอยู่ในเซี่ยงหยวน ในเวลานั้น บัญชาการมณฑลทหารผู้ยิ่งใหญ่ได้ปล้นทรัพย์สินในเจียงหนาน ขุดสุสานโบราณ ได้ของดีมากมาย แล้วซ่อนไว้ในคลังสมบัติ
ต่อมาตระกูลเซี่ยงก็ตกต่ำ เหตุผลที่สามารถฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง ก็เพราะอาศัยสมบัติเหล่านั้น
เซี่ยงเจิ้งอี้ตกอยู่ในความคิด ผ่านไปหนึ่งนาทีกว่า เขาค่อยถอนหายใจเบาๆ : “คุณจะเอาสมบัติของตระกูลเซี่ยงของผมไปเหรอ”
ในเวลานี้ จู่ๆท้องของเซี่ยวเจิ้งอี้ก็ดังขึ้น เขาไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว ทันใดนั้นรู้สึกหิวอย่างมาก
“ผู้มีพระคุณ ยังไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนามเลย”
อู๋เป่ย : “ผมแซ่อู๋ ต่อจากนี้คุณเรียกผมว่าคุณอู๋แล้วกัน”
เซี่ยงเจิ้งอี้รีบพูด : “คุณอู๋! ผมจะให้คนจัดงานเลี้ยงทันที ดูแลคุณอู๋อย่างดี”
อู๋เป่ยก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน พูด : “ได้ ไปกันเถอะ”
ทั้งสองออกมาจากอาคารเล็กๆ เซี่ยงเจิ้งอี้พูดเสียงดัง : “เหล่าโจว!”
ชายคนหนึ่งในวัยห้าสิบต้นๆ วิ่งเหยาะๆ เข้ามา เขามองเซี่ยงเจิ้งอี้ด้วยความตะลึง : “นายท่าน ท่านไม่กลัวแสงแล้วเหรอ”
เซี่ยงเจิ้งอี้พูดอย่างไม่แยแส : “อาการป่วยของฉัน ถูกคุณชายอู๋ท่านนี้รักษาหายแล้ว นายรีบให้คนไปจัดโต๊ะจัดเลี้ยงที่ดีที่สุดทันที ฉันจะเชิญคุณชายดื่มเหล้า”
เหล่าโจวดีใจอย่างมาก รีบพูด : “รับทราบ ผู้น้อยจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้”
เซี่ยงเจิ้งอี้เชิญอู๋เป่ยไปที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ที่นี่คือที่ที่เขามักจะอาศัยอยู่
อาคารขนาดเล็กหลังนี้มีสามชั้น เป็นอาคารไม้ที่ทำจากไม้เนื้อแข็งทั้งหลัง มีค่าใช้จ่ายสูงในการสร้าง
พูดเว่อร์หน่อยคือ อาคารไม้หลังนี้สร้างจากไม้เนื้อดีและล้ำค่าทั้งหมด นอกจากนี้ยังจ้างช่างฝีมือผู้ชำนาญ ผลิตไม้แกะสลักที่สวยงามจำนวนมาก
ทันทีที่เข้าห้อง เขาได้กลิ่นหอมของไม้ มีอักษรวิจิตรและภาพวาดอันล้ำค่าห้อยอยู่ทั้งสองด้าน เพียงแค่ภาพใดภาพหนึ่งก็มีมูลค่ามากกว่าสิบล้าน!
เซี่ยวเจิ้งอี้ปฏิบัติต่ออู๋เป่ยในฐานะแขกผู้มีเกียรติ สั่งให้คนชงชาที่ดีที่สุด ใช้ชุดน้ำชาที่ดีที่สุด
กลิ่นหอมของชาล้นออกมา และอู๋เป่ยก็จิบหนึ่งคำ พูด : “ชาไม่เลว”
เซี่ยงเจิ้งอี้พูดด้วยรอยยิ้ม : “ถ้าคุณชอบ ผมยังรวบรวมไว้สี่ร้อยกรัม อีกสักพักมอบให้คุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...