ก่อนหน้านี้อู๋เป่ยได้มีการพัฒนาระดับชั้นทางพันธุกรรมไปสู่ขั้นคนเซียนทุกวันแล้วด้วยพรของแสงศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้ทำให้การฝึกขั้นของเขาสมบูรณ์อย่างรวดเร็ว!
อู๋เป่ย "ลมศักดิ์สิทธิ์นี้ช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ"
เทพคุนอู๋ผู้ยิ่งใหญ่กล่าวว่า "ดวงตาแห่งสวรรค์นับว่าเป็นของฉันแล้วนะ"
อู๋เป่ยหยิบลูกตาออกมาแล้วใส่เข้าไปในปากของเทพ เทพคุนอู๋หลับตาและพักผ่อนต่อไป
ถังจื่อยี่รีบดึงเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอออกมา เธอก็พูดว่า "น่ากลัวเกินไปแล้ว"
อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม "ก็น่ากลัวจริงๆแหละ เอาล่ะ ต่อจากนนี้ฉันจะให้เขาอยู่ในห้องหนังสือนี้ เธอก็อย่าเข้าไปล่ะ"
พวกเขาเดินมาถึงอีกห้องหนึ่งและเปิดอำพันสีน้ำเงินต่อ ในอำพันนี้มีเต่าอยู่ มันเป็นกระดองเต่าสีทองและมียันต์ซ่อนอยู่ใต้กระดอง มันเป็นยันต์กลั่นปีศาจ!
เขาผ่าเข้าไปในอำพันแล้วพบว่าเต่านั้นตายไปนานแล้วและกลายเป็นขี้เถ้าเมื่อเจอกับอากาศ ตอนนี้ก็เหลือแค่เพียงกระดองเต่าสีทองเท่านั้น
เขาเอื้อมมือเข้าไปในกระดองเต่าแล้วดึงยันต์ออกมาจากข้างใน ยันต์นี่คือยันต์กลั่นปีศาจ
“เหตุใดปีศาจบริสุทธิ์ตัวนี้จึงอยู่ในกระดองเต่า เป็นไปได้ไหมที่เต่าตัวนี้เคยเป็นปีศาจที่ยิ่งใหญ่?”
เขาสงสัยว่าเมื่อมีเสียงแปลก ๆ ในกระดองเต่า เมื่อมองเข้าไปข้างในก็พบลูกปัดทองคำอยู่ข้างใน
เขาหยิบลูกปัดออกมาและพบว่ามันมีขนาดประมาณเม็ดถั่วและดูโปร่งแสง
“เหมือนว่าจะเป็นยาปีศาจ?” อู๋เป่ยไม่แน่ใจ เขาตัดสินใจเก็บมันไว้ก่อน
ถังจื่อยี่และอู๋เป่ยอยู่ด้วยกันตลอดทั้งเช้า พวกเขาอยู่ด้วยกันสองต่อสองจึงไม่ต้องกลัวว่าจะเสียงดังรบกวนผู้อื่น จากชั้นหนึ่งไปชั้นสอง จากชั้นสองไปชั้นสาม ผลัดกันรุกผลัดกันรั
ก่อนที่จะรู้ตัวก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว ถังจื่อยี่เหนื่อยมากจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว เธอนอนบนเตียงโดยที่ไม่อยากจะขยับตัว
อู๋เป่ยใช้พลังชีวิตบริสุทธิ์เพื่อช่วยเคลียร์เส้นลมปราณของเธอ จากนั้นก็ให้อาคารรอยัลส่งอาหารมาที่บ้าน
ระหว่างรออาหารเขาก็ไปที่บ้านของเซี่ยหลาน ในเวลานี้เซี่ยหลานกำลังเล่นอยู่ในสวนกับเล่อเอ๋อร์ เมื่อเล่อเอ๋อร์เห็นเขา เล่อเอ๋อร์ก็รีบวิ่งไปหาเขาทันทีและเรียกเขาว่าพ่อทูนหัว
อู๋เป่ยยิ้มแล้วพูดว่า "เล่อเอ๋อร์ ชอบบ้านใหม่ของหนูไหม"
เล่อเอ๋อร์ "ชอบ"
เซี่ยหลานยิ้มเล็กน้อย "กินข้าวหรือยัง มากินด้วยกันไหม"
อู๋เป่ยโบกมือ "ไม่ดีกว่า ผมสั่งอาหารแล้ว มีคนรออยู่ที่บ้าน"
เล่นกับเล่อเอ๋อร์ได้สักพักเขาก็กลับมาวิลล่าหมายเลข 1 เมื่อเขากลับมา เขาเห็นก็เห็นสวี่จี้เฟยนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นรอเขาอยู่และถังจื่อยี่ก็ชงชาให้เขาแล้ว
“พี่สาม ทำไมถึงมาที่นี่” เขาถามอย่างเร่งรีบ
สวี่จี้เฟยยืนขึ้น ถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดว่า "จัวคังมีเรื่องกับฉัน เขาต้องการเจอกันกับฉันคืนนี้"
อู๋เป่ยไม่แปลกใจและถามว่า "จริงเหรอ? มีใครอยู่เบื้องหลังเขา?"
สวี่จี้เฟย"ฉันสืบมาแล้ว วันนี้ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเทพตี้อีจะมา อีกทั้งยังมีปรมาจารย์หลายคนตามมาด้วย พวกเขาต่างก็เป็นคนของตระกูลตี้อ"
อู๋เป่ยพยักหน้า "ดูเหมือนว่าเราจะต้องเริ่มลงมือคืนนี้ พี่สาม พี่จะทำอยังไงกับจัวคัง?"
สวี่จี้เฟยถอนหายใจเบา ๆ และพูดว่า "ยังไงเขาก็เป็นลูกศิษย์ฉัน อย่างมากก็กำจัดวรยุทธ์เขา ไว้ชีวิตให้เขาได้อยู่ต่อ"
อู๋เป่ยเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย ทรัพย์สินและความมั่งคั่งของจัวคังจะถูกยึดคืน เขาจะเหลือแค่ชีวิตให้ดำเนินต่อไปเท่านั้น
เขาไม่ได้พูดอะไร นี่คือเรื่องของสวี่จี้เฟยขึ้นอยู่กับเขาที่จะตัดสินใจว่าจะจัดการกับจัวคังอย่างไร
สวี่จี้เฟย"น้องชาย คืนนี้ช่วยมากับฉันหน่อยได้ไหม ถ้าฉันแพ้ ฉันจะไปจากจากหยุนจิงและกลับไปที่ซือเฉิงเพื่อใช้ชีวิตวัยเกษียณ"
อู๋เป่ยพูดอย่างใจเย็น "มีผมอยู่ ไม่ต้องกลัวแพ้หรอก"
สวี่จี้เฟยยิ้มและพูดว่า "น้องชาย ฉันฝากความหวังทุกอย่างไว้ให้นายแล้ว ใช่แล้ว ให้ฉันพาลูกศิษย์คนใหม่มาเจอนายสักหน่อยไหม?"
อู๋เป่ยพยักหน้า “มาดูหน่อยก็ดี”
หลังจากนั้นไม่นาน อาหารจากอาคารรอยัลก็มาส่งและอู๋เป่ยเปิดไวน์สองสามขวดและดื่มกับสวี่จี้เฟย
หลังจากดื่มไวน์ไปสามแก้ว ในที่สุดอู๋เป่ยก็ถามคำถามในใจ "พี่สาม ทำไมจัวคังถึงตั้งตัวเป็นศัตรูล่ะ?"
สวี่จี้เฟยดื่มไวน์หนึ่งแก้วและเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต
15 ปีที่แล้วจัวคังกลายเป็นนักเลงที่มีอิธิพล เขาทำให้ใครบางคนขุ่นเคืองและถูกศัตรูไล่ล่าจึงทำให้เขามีแผลเป็น
เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะโดนทำร้ายจนตาย สวี่จี้เฟยก็ช่วยเขาไว้ เขาชนะทุกคนด้วยหมัดแค่สามครั้งกับเตะอีกสองครั้ง เขาช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของจัวคังให้หาย
จัวคังทึ่งมาก หลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ เขาก็ขอให้สวี่จี้เฟยสอนกังฟูให้เขาอย่างไร้ยางอาย สวี่จี้เฟยปฏิเสธ แต่จัวคังกลับคุกเข่าหน้าประตูเป็นเวลาสามวันสามคืน
ในวันที่สี่ ในที่สุดสวี่จี้เฟยก็ยอมใจและยอมรับเขาเป็นลูกศิษย์ แต่คุณสมบัติของจัวคังนั้นธรรมดามาก หลังจากติดตามเขามาหลายปีจัวคังก็ได้อยู่แค่ชั้นลมปราณเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นจัวคังก็มีประสบการณ์ในยุทธภพ ด้วยการสนับสนุนของสวี่จี้เฟยเขาค่อยๆ ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในโลกใต้ดินของอวิ๋นจิง
เมื่อเขารู้จักผู้คนมากขึ้น เขาก็เริ่มพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเอง ต่อมาเขาได้นับถือผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชันย์ท่านหนึ่งในฐานะพ่อบุญธรรมของเขาและได้พบกับปรมาจารย์มากมายในโลก
ต่อมาการปรากฏตัวของเฟิงเฉ๋าชิงทำให้จัวคังรู้สึกได้ถึงวิกฤติ เขาตามหาตระกูลตี้อีอย่างลับๆ และต้องการใช้พลังของตระกูลตี้อีเพื่อบีบสวี่จี้เฟยออกไปและควบคุมโลกใต้ดินของอวิ๋นจิงต่อไป
สวี่จี้เฟยต้องควบคุมระเบียบใต้ดินในอวิ๋นจิง เนื่องจากสวี่ชูเชียนเป็นผู้นำตลาดในอวิ๋นจิงและที่สำคัญกว่านั้นก็คือเรื่องนี้มันเกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนมากอีกด้วย
ในที่สุดอดีตอาจารย์และลูกศิษย์ก็หันมาเผชิญหน้ากันในที่สุด
หลังจากเรื่องสิ่งนี้ สวี่จี้เฟยก็พูดว่า "น้องชาย นายไม่ใช่คนอื่นคนไกล ฉันมีอะไรก็พูดตรงๆ ถ้าวันนี้เราชนะ รายได้ของอวิ๋นจิงจะเป็นครึ่งหนึ่งของคุณ"
อู๋เป่ยยิ้มและพูดว่า "พี่สาม เงินนั่นผมรับไม่ได้หรอก"
สวี่จี้เฟยโบกมือ "ไม่ นายต้องรับ นายเป็นคนเซียน ด้วยสถานะของนายเฟิงเฉ๋าชิงถึงจะสามารถยืนหยัดต่อไปได้ นอกจากนี้นายยังสามารถรับทรัพย์สินครึ่งหนึ่งที่จัวคังเป็นคนดูแลได้"
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด อู๋เป่ยก็ยิ้มแล้วพูดว่า "พี่สาม พี่ตัดเค้กชิ้นใหญ่ให้ผม มันทำให้ผมรู้สึกหนักใจมาก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...